ในโลกออนไลนจากเฟซบุ๊ก Seng Khonkaen ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า "ความฝันและความหวังของครอบครัวๆ หนึ่งต้องพังทลายลงทั้งน้ำตา พ่อแม่อายุกว่า 60 ต้องขายบ้านมารับจ้างเป็นกรรมกร เพื่อหาเลี้ยงตนเองเพราะลูกชายซึ่งเป็นนักบินให้สายการบินหนึ่ง ซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัว ไม่สามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ เพราะถูกกลั่นแกล้งให้ออกจากอาชีพนักบิน.."
แฉอำนาจมืดแกล้ง นักบินหนุ่ม เสาหลักบ้านอนาคตวูบ พ่อแม่วัย60ปีต้องแบกภาระแทน
โดยการยัดเยียดข้อกล่าวหาสารพัด อาทิเช่น กล่าวหาว่านักบินเป็นบ้า มีสารเสพติดบ้าง ชี้นำหมอให้ได้ผลตามที่ต้องการ แต่พอนักบินตรวจผ่าน และยังแสดงผลตรวจจากโรงพยาบาลมีชื่อ 4 ถึง 5 แห่งว่าปกติ ไม่ได้มีสารเสพติดหรือเป็นบ้าที่ถูกใส่ความ
ทั้งนี้เมื่อผลทางการแพทย์ดังกล่าวไม่เป็นไปตามความต้องการของพวกตน เหมือนผู้มีอำนาจที่หลงผิดถือทิฐิในความมีของตน ไม่หยุดความอยากเอาชนะผู้น้อย สุดท้ายยกเรื่องเท็จที่สร้างขึ้นว่านักบินได้ขาดงานเกินข้อกำหนด มาพักงานนักบินโดยไม่ให้เงินเดือน และที่หนักสุดคือการยึดใบ License นักบินไม่ให้นักบินสามารถประกอบอาชีพของตนได้อีก ทั้งหมดนี่ไม่ต่างอะไรกับการฆ่ากันทั้งเป็น
รู้ไหม? สิ่งที่พวกคุณทำนั้นมันส่งผลให้หลายคนต้องมีชีวิตที่ลำบาก พ่อแม่อายุกว่า 60 ปี ต้องไปรับจ้างตัดหญ้า เป็นกรรมกร ทำขนมขาย มีบ้านก็ต้องขายทิ้ง ไหนจะอาม่าซึ่งอายุ 80 กว่า เดินไม่ไหวต้องเศร้าใจทุกข์โศกทุกวันกับลูกและหลานชาย
กว่า 2 ปีที่ผ่านมา นักบินได้เข้าร้องขอความเห็นใจจากพวกคุณ ยอมทุกอย่าง แต่พวกคุณยังอาฆาตแค้นไม่เลิก สุดท้าย..เขาเลยต้องพึ่งศาล เรียกร้องศักดิ์ศรีและความถูกต้องคืน เหมือนสวรรค์มีตา ข้อมูลหลักฐานความจริงทุกอย่างถูกเปิดเผยขึ้น ศาลชั้นต้นรับฟังและมีคำพิพากษาตัดสินคดีแรกให้นักบินชนะแล้ว..เหลือคดี License นักบินที่พวกคุณยังยึดไว้
ที่พูดมาเพื่ออยากให้สังคมรับรู้ว่า เขาทำเกินกว่าเหตุไหม? เหมือนฆ่าคนทั้งเป็นไหม? พวกคุณไม่สงสารคนอื่นเลยเหรอ? ขอความเมตตาสงสารหลานผมเถอะ..ขอร้อง / พี่เซ้ง
ภายหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปได้มีผู้คนในโลกออนไลน์ให้ความสนใจมากมาย ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม
ขอบคุณข่าวสารดีๆจาก :: tnews