ลูกสาวตามหาพ่อ!! เห็นภาพออกทีวี-หลังตกเป็นเหยื่อเรือประมง เฝ้ารอที่บ้าน-แต่กลับหายตัว

ลูกสาวตามหาพ่อ!! เห็นภาพออกทีวี-หลังตกเป็นเหยื่อเรือประมง เฝ้ารอที่บ้าน-แต่กลับหายตัว

วันที่ 29 พ.ค. น.ส.นิสารัตน์ บุญเลิศ หรือ โบว์ อายุ 22 ปี อยู่ หมู่ 2 ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี พนักงานสาวร้านสเวนเซ่นส์ สาขาโลตัสกาญจนบุรี เข้าพบนายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ยังที่ว่าการอำเภอเมืองกาญจนบุรี พร้อมภาพถ่ายของพ่อ

โดย น.ส.นิสารัตน์ เปิดเผยว่า พ่อของตน คือ นายมงคล บุญเลิศ อายุ 52 ปี อยู่ หมู่ 4 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ก่อนหน้านั้น พ่อทำงานอยู่ที่อู่ซ่อมรถยนต์ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และได้ลาพักเพื่อกลับบ้านที่จังหวัดกาญจนบุรี หลังครบกำหนดวันที่ 21 ก.ค.57 พ่อบอกกับตนว่า จะกลับไปทำงานที่อู่ตามเดิม ภายหลังทางอู่ซ่อมรถได้ติดต่อมาหาตนเพื่อตามให้พ่อกลับไปทำงาน ซึ่งตนก็ตอบไปว่าพ่อกลับไปทำงานหลายวันแล้ว จากการพูดคุยกันไปมา จนมั่นใจว่าพ่อของตนได้หายตัวไป โดยไม่ทราบว่าหายไปอยู่ที่ไหน ตนออกติดตามหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ จึงตัดสินนำภาพถ่ายขณะที่ตนกำลังกอดพ่อโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อหวังว่าจะมีคนพบเห็น แต่ก็ไร้วี่แวว

ลูกสาวตามหาพ่อ!! เห็นภาพออกทีวี-หลังตกเป็นเหยื่อเรือประมง เฝ้ารอที่บ้าน-แต่กลับหายตัว

ภายหลังพ่อโทรศัพท์มาหาตนบอกเพียงว่าทำงานอยู่ในเรือประมงที่ประเทศอินโดนีเซีย จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ตนจึงเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากนายอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อให้ช่วยประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวให้ช่วยออกติดตามหาอีกทางหนึ่ง

จนกระทั่งล่าสุดวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนเห็นภาพของพ่อเป็นข่าวทางรายการทีวีชื่อดังช่องหนึ่ง ออกอากาศคืนวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา พบพ่อเดินทางกลับจากประเทศอินโดนีเซีย พร้อมกับเพื่อนคนงาน จำนวน 29 คน ที่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล ทั้งหมดมาลงเครื่องที่สนามบินดอนเมือง โดยมีหน่วยงานภาครัฐคอยอำนวยความสะดวก และให้การช่วยเหลือ ซึ่งตนจำหน้าพ่อได้อย่างแม่นยำ เพราะช่างภาพได้ถ่ายใบหน้าของพ่อมองเห็นได้อย่างเด่นชัด


ลูกสาวตามหาพ่อ!! เห็นภาพออกทีวี-หลังตกเป็นเหยื่อเรือประมง เฝ้ารอที่บ้าน-แต่กลับหายตัว

จากนั้นพ่อกับเพื่อนคนงานได้ขึ้นรถตู้ไปที่บ้านไมตรีจิตร ดินแดง ตามรายละเอียดข่าวที่ปรากฏ ซึ่งตนดีใจเป็นอย่างมากที่พ่อกำลังจะเดินทางกลับบ้านมาพบหน้าลูก ที่จังหวัดกาญจนบุรี แต่ปรากฏว่า จนถึงวันนี้พ่อก็ยังไม่กลับมา ตนก็ได้แต่เฝ้ารออยู่ทุกวัน ด้วยความเป็นห่วงพ่อ ตนจึงตัดสินใจเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากนายอำเภอเมืองกาญจนบุรีอีกครั้งหนึ่ง

นายศรัทธา คชพลายุกต์ นอภ.เมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า ตั้งแต่ลูกสาวของผู้ที่หายตัวไป เดินทางมาร้องทุกที่อำเภอเมือง เราได้ให้ความช่วยเหลือด้วยการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้รายงานไปตามขั้นตอนผ่านจังหวัด ไปจนถึงกรมการปกครอง ซึ่งเรื่องนี้ไปถึงตำรวจ ปคม.เราเฝ้าติดตามความคืบหน้ามาโดยตลอด จนกระทั่งพบว่านายมงคล พ่อของ น.ส.นิสารัตน์ ออกทีวี เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา ตามที่ น.ส.นิสารัตน์ กล่าวเอาไว้ข้างต้น ซึ่งกรมการปกครองก็ทราบมาก่อนแล้วว่าเจอตัวแล้ว

แต่ปรากฏว่าวันนี้ลูกสาวได้มาพบตน และแจ้งให้ทราบว่าพ่อยังไม่ได้กลับบ้าน และไม่สามารถติดต่อได้อีก ทางอำเภอจึงได้ประสานไปที่จังหวัดกาญจนบุรีอีกครั้งหนึ่ง ให้ช่วยประสานไปที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อให้ติดตามดูว่านายมงคล บุญเลิศ พ่อของ น.ส.นิสารัตน์ ปัจจุบันไปอยู่ที่ไหน ซึ่งทางอำเภอจะทำการเร่งรัดติดตามเรื่องการหายตัวของนายมงคล ต่อไป


ลูกสาวตามหาพ่อ!! เห็นภาพออกทีวี-หลังตกเป็นเหยื่อเรือประมง เฝ้ารอที่บ้าน-แต่กลับหายตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 21.30 น. วันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากนายสุวิทย์ มากแก้ว ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ว่ามีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสว่า พบชายวัยกลางคน เดินอยู่ภายในตลาดสดเทศบาล ให้ข้อมูลว่าชายคนดังกล่าว เพิ่งเดินทางมาจากเกาะเบนจินา ประเทศอินโดนีเซีย และเป็นคนงานของเรือประมง ที่เพิ่งเดินทางกลับมายังประเทศไทย จึงสั่งการให้นายสุวิทย์ ไปเชิญตัวมาสอบถามข้อเท็จจริงยังที่ว่าการอำเภอเมืองกาญจนบุรี ทราบชื่อต่อมา คือ นายเสก โกนรัมย์ หรือ เสก อายุ 39 ปี อยู่ หมู่ 21 ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์

เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบถามข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตัวของนายมงคล ที่หายตัวไป พร้อมทั้งนำภาพถ่ายให้ดู ซึ่งนายเสก จำได้ว่าเคยทำงานอยู่ด้วยกันบนเรือประมง อีกทั้งยังเคยนั่งดื่มเหล้าอยู่ด้วยกัน ซึ่งนายเสกยังให้ข้อมูลอีกว่า นายมงคล ได้เดินทางกลับประเทศไทยก่อนตน เชื่อว่าคงไปอยู่กับเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ตำบลท่าเรือ อำเภอท่ามะกา ซึ่งข้อมูลทั้งหมด เจ้าหน้าที่ได้จดบันทึกไว้อย่างละเอียด

นายเสกได้เล่าเหตุการณ์ก่อนเดินทางไปทำงานบนเรือประมงว่า ก่อนที่จะลงเรือประมงไปประเทศอินโดนีเซีย เดิมทีตนเป็นคนงานตัดอ้อยอยู่ในพื้นที่อำเภอบ่อพลอย จ.กาญจนบุรี จากนั้นได้ดื่มสุราจนเมา และได้ขึ้นรถโดยสารไปจนถึงสุขุมวิท ซอย 101 และมีรถแท็กซี่มาจอดถามตนว่า ต้องการไปทำงานหรือไม่ ตนจึงตอบว่าไป แต่คนขับแท็กซี่ไม่ได้บอกว่าไปทำงานอะไร และได้ไปเจอคนชื่อ ป้อม บอกจะให้ไปลงเรือจับปลาที่จังหวัดประจวบฯ ตนจึงยอม


แต่ปรากฏว่าเรือลำดังกล่าวที่ชื่อสิริพร 326 ได้พาไปจนถึงเกาะเบนจินา ประเทศอินโดนีเซีย ขณะอยู่บนเรือประมงมีหน้าที่คัดปลา ลงอวน บางวันทำตลอด 24 ชั่วโมง ข้าวมื้อเช้า และเที่ยง ก็ไม่ได้กิน จะได้กินก็ต่อเมื่อคัดปลาหมดแล้ว สำหรับค่าจ้างจะได้รับทุก 15 วัน ครั้งละ 300,000 รูเปียห์ คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 1,500 บาท บางวันได้เงินมาก็ซื้อเหล้าที่ผสมยาฆ่าแมลงดื่ม

ก่อนเดินทางกลับประเทศไทยนายจ้างหักค่าใช้จ่ายค่าเครื่องบินเดินทางกลับเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท และค่าหัวคิวอีก 25,000 บาท เหลือเงินติดตัว 8,000 บาท และได้จ่ายค่ารถแท็กซี่ รวมทั้งค่ารถยนต์โดยสารเดินทางมาจังหวัดกาญจนบุรี เกือบหมด เหลือติดตัวอีกไม่กี่บาท และเมื่อไปหาเถ้าแก่ไร่อ้อยที่อำเภอบ่อพลอยเพื่อของานทำ แต่เถ้าแก่ไม่รับ จึงตัดสินใจจะเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดบุรีรัมย์ แต่ไม่มีเงินค่ารถ เมื่อลงรถรถยนต์โดยสารที่ขนส่ง ก็เดินถามทางไปเรื่อย เพื่อไปที่สำนักงานแรงงานจังหวัดกาญจนบุรี แต่ก็มาพบกับเจ้าหน้าที่อำเภอเมืองกาญจน์เสียก่อน

หลังจากสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับตัวนายมงคล พ่อของ น.ส.นิสารัตน์ บุญเลิศ หรือ น้องโบว์ แล้วเสร็จ นายศรัทธา คชพลายุกต์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ อส.ที่เข้าเวร จัดหาที่นอนให้กับนายเสก จนกระทั่งรุ่งเช้า จากนั้นได้นำตัวนายเสก ไปขึ้นรถโดยสาร ที่สถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเดินทางกลับบุรีรัมย์ พร้อมทั้งมอบเงินจำนวนหนึ่งให้เป็นค่าใช้จ่ายระหว่างเดินทางอีกด้วย

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์