จวกแหลก! พระพยอม-เจน ญาณทิพย์ ถล่มของขลังยุคไฮเทค ตุ๊กตาลูกเทพ ให้โชคเลอะเทอะ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ จวกแหลก! พระพยอม-เจน ญาณทิพย์ ถล่มของขลังยุคไฮเทค ตุ๊กตาลูกเทพ ให้โชคเลอะเทอะ
ดาหน้าถล่ม ตุ๊กตาลูกเทพฟีเวอร์ อุ้มแล้วรวย เลี้ยวแล้วโชคดี มโน เลอะเทอะ พระพยอมจวกดาราปั่นกระแส ย้ำถ้ารวยได้จริงอุ้มไปไว้กระทรวงการคลังจะได้เงินเข้าเยอะ ขณะที่เซียนพระย้ำพลาสติกปลุกเสก ไม่มีในพุทธประวัติ ด้าน เจน ญาณทิพย์ เตือนสุดอันตราย ส่วนผู้จัดการผู้สร้างแจงความเชื่อส่วนบุคคล...
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย กรณีเทรนด์ตุ๊กตาหน้าตาเหมือนกับตุ๊กตาฝรั่งสุดศักดิ์สิทธิ์ ภายหลังดารา นักร้อง ดีเจ พิธีกรต่างๆ อวดอ้างถึงอิทธิฤทธิ์ความเชื่อว่าเลี้ยงดู (พูดคุย ป้อนข้าว ป้อนน้ำ ทำบุญให้ ยันพาไปเที่ยวเดินห้าง) แล้วจะทำให้ได้โชคลาภ ร่ำรวย นอกจากจะจนเกิดเป็นพฤติกรรมลอกเลียนแบบแต่ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความน่าเชื่อถือ พลาสติกปลุกเสกนี้ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน?
เรื่องนี้ พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวถึงประเด็นนี้อุ้มแล้วร่ำรวย ได้โชคลาภว่า เกิดมา 66 ปี ไม่เคยเห็น เพิ่งมายุคนี้ ย้ำว่าเป็นเรื่องงมงาย
"ชาวพุทธถ้าหลุดจากหลักก็จะคลำหาฤทธิ์ แล้วฤกธิ์ที่คลำขึ้นมาก็แตกต่างกันแต่ละยุคแต่ละสมัย พระพุทธเจ้าสอนมาว่าถ้าอยากรวยต้องขยันหา รักษาทรัพย์ดี และไม่ก่อหนี้ก่อสิน กินอยู่ใช้จ่ายให้พอดี ไม่สุรุ่ยสุร่าย ซึ่งหลักในการอุ้มตุ๊กตาแล้วจะทำให้ร่ำรวย มันไม่ใช่หลัก มันคือฤทธิ์ หวังผลดลบันดาล เชื่อมั่น มโนไปเองถ้าหากว่าถ้าอุ้มแล้วร่ำรวยก็เอาไปไว้ที่กระทรวงการคลัง กระทรวงเหล่านี้เงินเข้าเยอะๆ ประเทศชาติก็จะเจริญ พูดง่ายๆ ว่าคนพลัดหลัก ก็คลำหาฤทธิ์มันเป็นคนมักง่าย อยากรวยง่ายๆ เป็นเรื่องที่ใช้ไม่ได้"
พระนักเทศน์ชื่อดัง บอกว่า เทรนด์นี้เพิ่งเกิด คล้ายๆ กับจตุคามรามเทพ ยุคหนึ่งก็มีหิน คนไทยคลำหาฤทธิ์ เพราะยังไม่เจอหลัก อยู่ในระหว่างคลำ ถ้าวันใดเจอหลักมันจะเลิกหาฤทธิ์
"อาตมาได้ยินแล้วไม่เชื่อถือ เพราะเราเลยหลักการคลำหาฤทธิ์มาแล้วเชื่อสนิทว่าอะไรก็มาจากเหตุทั้งสิ้น ตุ๊กตาจะเป็นเหตุให้คนรวยพ้นทุกข์ให้ร่ำให้รวยเป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้ประเทศไทยก็ไม่ต้องพัฒนาการศึกษา ไม่ต้องมีมหาวิทยาลัย ไม่ต้องมีนักวิชาการไม่ต้องหลักยึดคิดอยากรวยก็ไปอุ้มตุ๊กตาเอา"
ถามว่ากระแสนี้มีดาราโปรโมตกันเยอะ แทนที่จะทำตัวเป็นแบบอย่าง ดันมาทำแบบนี้ ก็ต้องขออภัย ดาราได้เงินง่าย แต่ไม่ค่อยมาก สติปัญญา สังเกตง่ายๆ ดาราไม่ค่อยไปวัดที่มีตามหลักคำสอนบางไหม ไม่ค่อยมี มีแต่ไปวัดที่เป็นฤทธิ์ วัดที่มีพวกศักดิ์สิทธิ์ พวกหมอ พวกโหร ดาราพวกนี้จะชอบ
สุดท้าย พระพยอมย้ำว่าขอเตือนพี่น้องชาวไทย คนที่เกิดมาอายุไม่ถึง 60-70 ปี ท่านไม่เคยผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านได้ผ่านเสีย ไม่เคยผ่านประ สบการณ์ข่าวคราวว่า มีไอ้นั่น ไอ้นี่ศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ร่ำให้รวย ฉะนั้นถือหลักพระพุทธเจ้าสักคำเหอะ อย่าเพิ่งรีบรับ และปฏิเสธ ถ้ารับไปแล้วอุ้มไปก็หนักเปล่า อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ ถ้ารีบจะเสียโอกาส ก็อยากให้ใคร่ครวญอยากเป็นคนเชื่อง่าย รับมุกคนอื่นง่าย แล้วเราก็จะเสียของไปง่ายๆ เสียเงินเสียเวลาไปง่ายๆ และที่สำคัญที่สุดก็คือเสียสติปัญญา กลายเป็นคนเชื่อง่ายชื่อดายไป งมงายเหมือนอย่างกรณีนี้นั่นเอง
ขณะเดียวกัน นายพิศาล เตชะวิภาค หรือ ต้อย เมืองนนท์ เซียนพระชื่อดัง กล่าวว่าของปลุกเสกนี้ตามพุทธประวัติในพุทธศาสนาไม่มีการปลุกเสกจะเป็นการมอบให้ตัวต่อตัว นอกจากพระพุทธรูป หรือพระเครื่อง ซึ่งของเหล่านี้เป็นแค่ของประโลมใจ แต่มีกระแสดีเพราะดาราเอามาโปรโมต ซึ่งดาราทำอะไรสักอย่างหนึ่งประชาชนก็พร้อมจะทำตาม พร้อมจะเชื่อตามเพราะดารามีสิทธิ์ออกสื่อได้ แต่ถามตนเองเชื่อไหม อย่าว่าแต่เป็นพลาสติกเลย มาเป็นทองแดง ลงลัก ปิดทอง มันก็ไม่น่าเชื่อถือ 100%
"ตามหลักโบราณมันไม่มีพวกนี้มันเป็นความเชื่อ ทางพุทธประวัติก็ไม่มีบันทึกเอาไว้ การสร้างวัตถุมงคลแบบนี้ด้วยวัสดุแบบนี้มันไม่มีบัญญัติไว้ ถามถามพวกพระเขาจะไม่ยึดถือตรงนี้ ถามว่าพระที่มีคุณวิเศษไหม มี แต่มันเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมาก เพราะพระที่เก่งก็เก่งด้วยตัวท่านเอง การที่จะไปมอบความเก่ง ทำแล้วมอบของขลังให้คนอื่นมันก็อยู่ที่ความเชื่อแต่ละบุคคล ของพวกนี้มันเป็นเฉพาะตัว ร่ำเรียนมา ท่านอาจจะทำได้ แต่กว่าจะทำได้ จู่ๆ จะมามอบให้คนอื่นมันก็เป็นไปได้ยาก มันเป็นความเชื่อถือของคนๆ นั้นไปหลักความเป็นจริง เป็นไปไม่ได้ พูดง่ายๆ เป็นช่องทางให้คนฉวยโอกาสได้"
เซียนต้อย ย้ำอีกครั้งว่า ตามประวัติพุทธประวัติ ไม่มีหรอกที่มามอบตุ๊กตาแล้วก็ร่ำรวย ถ้าใครมีกันมันก็รวยทั้งประเทศ ช่วยเศรษฐกิจชาติ ทำไมเรายังจนเหมือนเดิม ทางที่ดีให้มีสติโดยเฉพาะดาราและประชาชนที่จะเชื่ออะไรง่ายๆ โดยไม่ไตร่ตรองและหาข้อมูล
ปิดท้ายด้วย น.ส.เจนจิรา เรียบร้อยเจริญ หรือเจ้าของฉายา เจน ญาณทิพย์ ผู้ที่เชื่อว่าสามารถสื่อสารกับดวงวิญญาณได้ กล่าวว่า เห็นข่าวดาราถือแล้วอ้างว่าร่ำรวยแล้วตกใจเพราะว่าการเอาดวงของเรา ของส่วนตัวไปไว้ในตุ๊กตา หรือกราบไหว้ ขอพร ทำบุญ แบ่งบุญไปให้ ก็มีผลร้ายไม่แตกต่างกัน
"ที่บอกครอบครองจะสร้างความร่ำรวยเป็นการกล่าวเกินความเป็นจริง อย่างที่บอกจะส่งผลร้ายทำให้คนที่ครอบครองเจ็บป่วย ยิ่งถ้ามีการใส่เล็บผม ฟัน ของคนตายไป หรือกระทั่งเอาดวงเรา เอาเส้นผม เล็บของส่วนตัวใส่ไปก็อันตราย เพราะในกรณีที่เป็นคนตายที่วิญญาณไม่รับรู้ มันมีวิญญาณบางดวงที่ยึดติดกับร่างและสังขารยังหวงแหน อาจจะมีความโกรธ จะทำให้วิญญาณไปสิงสู่กับสิ่งเหล่านี้ คนที่ซื้อไปจะถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายวิญญาณที่ยึดติดกับสังขาร ทำให้ดวงคุณไม่ดี ส่วนดาราที่เห็นเขาถือแล้วร่ำรวยก็คือผลบุญกุศลที่ทำมาแต่อดีตชาติ หรือปัจจุบันก็ดี แต่พอบุญหมด หรือว่าดวงตกเมื่อไหร่สิ่งเหล่านี้ก็จะให้ผล ทำให้คุณถูกปกคลุมด้วยกลิ่นอายวิญญาณ"
ที่อ้างว่าเป็นเทพ เทพไม่มาสิงสู่สิ่งเหล่านี้ เทพจะไม่ยุ่งกับมนุษย์เด็ดขาด เพราะมนุษยมีกลิ่นสาป มนุษย์ตัวเหม็น มนุษย์ไม่มีศีล คนที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่มีความโลภทั้งนั้นเลย อยากรวย อยากได้มีชื่อเสียงก็จะเป็นเหยื่อ
เจนย้ำด้วยว่า ตุ๊กตาที่ว่าไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่นิดเดียว มีแต่ผลเสียเป็นโทษ 1.เสียเงิน 2.เรางมงาย และ 3. แทนที่เราจะอยู่อย่างมีความสุขกลับมีผีมาด้วย
"ต้องเข้าใจด้วยว่าผีหรือวิญญาณมันมีความหลากหลายมีทั้งดีและไม่ดี ถ้าเจอผีไม่ดี อยากให้มนุษย์ยกยอปอปั้นเขาอยู่แล้ว วิญญาณก็จะเห่อเหิม เวลาไปบูชา ไปแบ่งบุญให้ ไปเลี้ยงดูเหมือนลูก วิญญาณร้ายเหล่านีก็จะเข้าสิงสู่ตุ๊กตาจริงๆ อย่างที่เราเรียกกันว่าตุ๊กตาผี แทนที่เราจะไว้พระกลับ
ไปไหว้ผี ก็อันตราย อุ้มตุ๊กตาแล้วพูด บางครั้งมันสามารถสื่อให้วิญญาณมิจฉาทิฐิเข้ามาสิงสู่เหมือนกับตุ๊กตากุมาร พอเข้ามาอยู่ มนุษย์เหล่านั้นก็จะเจ็บป่วยและมีผีตาม สิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่สิ่งดี แล้วราคาก็แพง น่าสงสารการสร้างกระแส ก็อยากจะมี ก็เป็นหนี้เป็นสินกัน" ผู้เห็นวิญญาณชื่อดังกล่าว
ด้าน ผู้จัดการส่วนตัวของผู้สร้าง ตุ๊กตาลูกเทพ ออกมากล่าวผ่านไทยรัฐออนไลน์ว่าต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า อย่าเอาลูกเทพของเราไปปนกับที่อื่น ลูกเทพของเราก็เหมือนกับการเอารถไปให้พระเจิมทำไมรถยนต์เป็นโลหะทำไมหลวงพ่อเจิมได้ ตุ๊กตาเป็นความชอบส่วนตัวเราก็เอาไปให้หลวงพ่อเจิม ลงมนต์คาถาก็เท่านั้นเอง ไม่มีเรื่องพิธีกรรมอะไรลงมาเหมือนการทำกุมาร หรือว่าอยู่ในนั้น ทำไมผ้ายันต์หลวงพ่อเป่าให้ศักดิ์สิทธิ์ได้ มันเป็นการเพิ่มมนต์เป่ามนต์หรือว่าบริกรรมคาถาเพื่อให้เราอุ่นใจ สบายใจ ลูกเทพก็เหมือนกัน เราเล่นเราชอบในความชอบส่วนตัวของเรา แล้วเป็น
กระแสเพราะดาราไปอุ้ม ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงถูกโจมตีได้มากขนาดนี้
"ทำไมบอกว่าทำที่ตุ๊กตาไม่ได้ ทำไมทำที่รถได้ หลวงพ่อเจิมลงมนต์คาถา ทำไมปลัดขิกหลวงพ่อปลุกเสกได้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล มีแค่คำที่หลวงพ่อที่สวดที่ลงไปอยู่ในตุ๊กตา ในตัวตุ๊กตาไม่มีอะไรเลย ส่วนที่บอกว่าเอาดวงมาก็คือการนำดวงมาแล้วก็ไปให้หลวงพ่อเป่ามนต์ให้หน่อยเสริมเรื่องดีๆ เช่น อาภัพ เรื่องงานก็ให้พระชื่อดังที่จังหวัดอ่างทองเป่าคาถามให้หน่อยก็เท่านั้นเอง ซึ่งมันฟีเวอร์เพราะดารา แต่เราก็ไม่ได้เกาะกระแสดารา เราก็ภูมิใจแล้วก็โพสต์รูปตามปกติ มันเป็นความเชื่อส่วนบุคคล" ผู้จัดการส่วนตัวผู้สร้างกระแสนี้กล่าวชี้แจง
ขอบคุณข่าวจาก
ไทยรัฐออนไลน์
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!