รวบทันควัน หนุ่มเพิ่งพ้นโทษ วิ่งราวหาเงินเติมน้ำมันรถ

เดนคุกเพิ่งพ้นโทษออกมา 1 เดือน ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์แม่บ้านสาวบริษัท ก่อนทิ้งรถ จยย.ไว้ ขณะวินมอเตอร์ไซค์ขี่ผ่านมาช่วยสายตรวจจับกุมได้ในที่สุด อ้างตั้งใจจะเป็นคนดีไปหางานทำ แต่ดันใช้เงินดื่มเหล้าหมด ส่วนพลเมืองดี ตร.เตรียมมอบโล่

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 24 พ.ค.58 พ.ต.ท.ธวัชชัย ศรีสุรางค์ รอง ผกก.ป.สน.บางมด และ พ.ต.ท.ประเสริฐ พุทธธรรม สวป.สน.บางมด ร่วมกันจับกุม นายวินัตร์ เศรษฐมาตย์ อายุ 37 ปี อาชีพพนักงานโรงพิมพ์ ผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ สีแดงขาว ทะเบียน ษทก 74 กรุงเทพมหานคร กระเป๋าสตางค์สุภาพสตรีสีฟ้า 1 ใบ และเงินสดอีก 500 บาท โดยจับกุมตัวได้ที่ถนนพระราม 2 ปากซอย 31 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม.

พ.ต.ท.ธวัชชัย เปิดเผยว่า ขณะนำกำลังตรวจตราในท้องที่ได้รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์บริเวณถนนพระราม 2 ปากซอย 42 แขวงบางมด เขตจอมทอง จึงรีบนำกำลังสายตรวจรุดไปที่เกิดเหตุ พบ น.ส.ณัฐกมล ช่องงาม อายุ 30 ปี อาชีพแม่บ้านบริษัทแห่งหนึ่งภายในซอยดังกล่าวและเป็นผู้เสียหาย กำลังยืนอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ของคนร้าย ส่วนคนร้ายทิ้งรถวิ่งข้ามถนนหลบหนีไปทางถนนพระราม 2 ขาเข้า โดยมีพลเมืองดีชื่อ นายอภิชัย บุญศรี อายุ 30 ปี อาชีพขับ รถจักรยานยนต์รับจ้างวินหน้าหมู่บ้านชัยกูล เบอร์ 64 ผ่านมาประสบเหตุขี่รถติดตามไปช่วยตำรวจสายตรวจจับกุมไว้ได้ริมถนนพระราม 2 ปากซอย 31

จากการสอบสวน นายวินัตร์ ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เคยถูกตำรวจ สน.บางขุนเทียน จับกุมข้อหาวิ่งราวทรัพย์ ติดคุกเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำ เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยทีแรกตั้งใจจะเป็นคนดีจึงไปหาสมัครงานเป็นพนักงานโรงพิมพ์ย่านพระราม 2 แล้วตัดสินใจใช้เงินสด 5,000 บาทไปดาวน์รถจักรยานยนต์มือสองของกลางออกมาใช้วิ่งงาน แต่ปรากฏว่า เมื่อคืนที่ผ่านมากลับใช้เงินดื่มเหล้าจนหมดน้ำมันรถก็หมดไม่มีเงินเติมขับขี่กลับบ้าน จนเห็นผู้เสียหายเดินถือกระเป๋าสตางค์ผ่านมาพอดีจึงถือโอกาสขี่รถไปประกบกระชากออกมา เป็นจังหวะที่พลเมืองดีพบเห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วยเหลือเหยื่อจึงต้องทิ้งรถวิ่งข้ามถนนหลบหนีแต่ไปไหนไม่รอดถูกล้อมจับได้ในที่สุด

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ แก่ นายวินัตร์ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย ส่วน นายอภิชัย วินรถจักรยานยนต์ พลเมืองดีที่ช่วยเหลือติดตามคนร้ายด้วยความกล้าหาญถือเป็นผู้เหมาะสมที่จะได้รับการเชิดชูเกียรติ ซึ่งขณะนี้กำลังประสานให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณามอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้ในลำดับต่อไป.