เกือบไปแล้ว หนุ่มบุรีรัมย์ !!!ไม่ใช่แก๊งปาหิน แค่ยิงพังพอนพลาดไปโดนกระจกรถ

ตร.หนองสองห้อง ใช้เวลาแค่ข้ามวัน รวบตัวคนขว้างหินใส่กระจกรถเก๋ง จนท.การเงิน อบจ.บุรีรัมย์ ที่แท้เป็นชาวบ้านที่ออกล่ากะปอมและพังพอนตามข้างทาง ยิงหนังสติ๊กพลาด ไม่ใช่แก๊งปาหินอาละวาด ผู้เสียหายเห็นแล้วก็เวทนา ยกโทษให้ไม่เอาเรื่อง...

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.หนองสองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.สิทธิพล แสนสุโพธิ์ ผกก.สภ.หนองสองห้อง พ.ต.ท.จรูญ ทับทิมไทย รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สำราญ แสงรัมย์ พงส.ผนพ. พร้อมกำลังชุดสืบสวน ได้ควบคุมตัว นายอำพล ภูเดชดี อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 3 ต.หนองตอกแป้น อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางหนังสติ๊ก 1 อัน ซึ่งเป็นผู้ที่ก่อเหตุปาหินใส่รถเก๋ง โตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน 1 กก 2743 กรุงเทพฯ ของ น.ส.นฤมล สมัยธรรม อายุ 34 ปี นักวิชาการเงินและบัญชี 5 กองคลัง อบจ.บุรีรัมย์ เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนสายนางรอง-บุรีรัมย์ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 13-14 ต.สะแกโพรง อ.เมืองบุรีรัมย์ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น

หลังจากเกิดเหตุ ชุดสืบสวน สภ.หนองสองห้อง ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว ติดตามตัวผู้ที่ก่อเหตุ กระทั่งพบกระท่อมหลังหนึ่ง ปลูกอยู่บริเวณชายป่า หลังแขวงการทางหนองเกียบ ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร พบนายอำพล ภูเดชดี ซึ่งมีลักษณะรูปพรรณสัณฐานและการแต่งกายคือ สวมเสื้อยืดสีแดง กางขาสั้นสีออกเหลือง คล้ายกับที่ผู้เสียหายได้แจ้งความเอาไว้ จึงได้ทำการสอบถาม

นายอำพล ให้การยอมรับว่า ตนเองไม่ได้มีเจตนายิงกระจกรถดังกล่าว แต่หนังสติ๊กที่ใส่ลูกกระสุนยิงพังพอนข้างทาง พลาดไปถูกกระจกรถที่วิ่งบนถนน จึงควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่สภ.หนองสองห้อง พร้อมเรียก น.ส.นฤมล ผู้เสียหายมาดูตัวผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่ง น.ส.นฤมล ไม่ติดใจเอาความกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากนายอำพลไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้าย แต่เป็นเพราะความผิดพลาดจากการยิงพังพอนที่อยู่ข้างทาง รวมทั้งสงสารที่ นายอำพลมีฐานะยากจน และต้องรับภาระหาเลี้ยงครอบครัวอีก 3 ชีวิตด้วย

จากการสอบสวน นายอำพล ให้การว่า ตนเป็นชาว จ.กาฬสินธุ์ อาศัยปลูกกระท่อมอยู่หลังชายป่าอยู่กัน 4 คน กับแม่ยาย ภรรยา และลูกวัย 1 ปี 7 เดือน ซึ่งตนไม่มีอาชีพ ได้แต่รับจ้างทั่วไปเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ทุกวันจะออกไปหายิงนกตกปลา หรือยิงกิ้งก่าตามชายป่าข้างทาง เพื่อนำมาประกอบอาหาร โดยเช้าในวันเกิดเหตุ ตนได้ออกหายิงกิ้งก่าตามปกติ ระหว่างนั้นเห็นพังพอนกำลังวิ่งอยู่ข้างทาง จึใช้หนังสติ๊กยิง แต่ไม่โดน จังหวะนั้นมีรถยนต์วิ่งมาพอดี ทำให้ก้อนหินที่ใช้เป็นลูกกระสุนหนังสติ๊กกระเด็นใส่รถยนต์ ด้วยความตกใจกลัวเจ้าของรถจะเอาเรื่อง รวมทั้งกลัวว่าถ้าในรถมีผู้ชายนั่งมาด้วยตนอาจจะถูกทำร้าย จึงรีบวิ่งข้ามถนนไปอีกฟากเพื่อเข้ากระท่อม กระทั่งรุ่งเช้าได้มีตำรวจมาถามว่า เป็นคนยิงรถใช่หรือไม่ ซึ่งตนก็ตอบว่าใช่ จึงถูกคุมตัวมาที่โรงพักดังกล่าว

"ต่อไปนี้ผมคงไม่ออกหายิงกะปอม หรือพังพอนแถวข้างทางอีกแล้ว เพราะกลัวลูกกระสุนหนังสติ๊กที่เรายิงจะพลาดไปโดนรถชาวบ้านที่วิ่งมาบนถนน จนกลายเป็นข่าวว่า จ.บุรีรัมย์ มีแก๊งปาหิน" นายอำพล กล่าว

ด้าน น.ส.นฤมล ผู้เสียหาย กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้ความสนใจ และสามารถติดตามตัวผู้ที่ก่อเหตุครั้งนี้มาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ตนไม่ติดใจเอาความเพราะนายอำพล ผู้ที่ก่อเหตุ ไม่ได้กระทำไปด้วยความคึกคะนองแต่อย่างใด เป็นเพียงความผิดพลาดที่นายอำพลไปหายิงพังพอนที่อยู่ข้างทาง เพื่อนำมาประกอบอาหารเลี้ยงลูกเมียเท่านั้น แต่กระสุนหนังสติ๊กมาโดนกระจกรถยนต์ของตนที่ กำลังขับมาพอดี จนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และทำให้เศษกระจกกระเด็นใส่หน้าน้องสาวและหลานสาวที่นั่งมาด้วย ซึ่งเบื้องต้นอาการปลอดภัยดีแล้ว

อย่างไรก็ตาม ขอฝากเตือนวัยรุ่น หรือชาวบ้านที่ออกหายิงกิ้งก่า หรือยิงนกตามข้างทาง ว่าควรเปลี่ยนสถานที่จากข้างทาง ออกไปหาตามชายป่า หรือทุ่งนา ที่อยู่ห่างไกลจากหมู่บ้าน หรือถนน เพราะอาจจะทำให้กระสุนหนังสติ๊กที่ใช้ยิง พลาดไปถูกหัวชาวบ้าน กระจกตามบ้านเรือน หรือกระเด็นไปถูกรถยนต์ที่วิ่งสัญจรไปมาจนได้รับอันตรายแก่ร่างกายและทรัพย์สินเสียหายได้