UNขอไทยเร่งช่วยชีวิตโรฮีนจา-โกโต้งยังให้การปฏิเสธ

UNขอไทยเร่งช่วยชีวิตโรฮีนจา-โกโต้งยังให้การปฏิเสธ

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ว่า

ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าวแล้วจำนวน 71 ราย จับได้แล้วจำนวน 35 ราย อายัดตัวเพื่อสอบปากคำ อีก 36 ราย อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม ซึ่งหลังจากที่ นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือ โกโต้ง อดีตนายก อบจ.สตูล ตัวการใหญ่ในขบวนการนี้ได้เดินทางเข้ามอบตุวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวาน (18 พ.ค.) ที่ผ่านมา ยังให้การปฏิเสธ แต่ถึงอย่างไรทางเจ้าหน้าที่ก็มีหลักฐานเอาผิดและขยายผล สำหรับผู้ต้องหาที่ยังไม่สามารถจับกุมได้ ก็มีบางรายที่มีการติดต่อเข้ามอบตัวบ้างแล้ว แต่ยังไม่เห็นมาจึงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้ สำหรับการอายัดทรัพย์ของโกโต้ง ขณะนี้ได้ส่งข้อมูลไปแล้วอยู่ในกระบวนการ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่

ด้านการสอบปาก พ.ต.ท.ชาญ อู่ทอง สว.ธุรการ สภ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ยังอยู่ในสำนวนไม่สามารถเปิดเผยได้

แต่ถือว่าเป็นประโยชน์บ้างบางส่วน ในส่วนของนายทหารยศ พล.ต. ที่พบในบัญชีของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้อยู่ในกระบวนการสืบสวน ซึ่งยังไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงขอสงวนรายละเอียดตรงนี้ไว้ก่อน เชื่อจะต้องมีผู้ต้องหาที่ร่วมกระบวนการอีก สำหรับโกโต้งนั้นน่าจะเป็นผู้ต้องหาระดับสูงในขบวนการนี้แล้ว

โดย พล.ต.ท.ประวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนการจัดการกับชาวโรฮีนจา ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการแยกเหยื่อค้ามนุษย์ และผู้ลักลอบเข้าเมืองออกจากกัน และยังควบคุมตัวไว้ที่ด่านกักกันก่อน ซึ่งถ้าเป็นชาวโรฮีนจาที่ลักลอบเข้าเมืองก็จะส่งตัวให้กับทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนคนที่เป็นเหยื่อก็จะได้ทำการฟื้นฟูต่อไป

ส่วนการขยายผลค่อนข้าง เป็นไปได้มาก มั่นใจจะสามารถจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการได้ทั้งหมด

ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งศูนย์อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อร่วมกันทำงานซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่ของมาเลเซียร่วมทำการสืบสวนสอบสวน ประสานข้อมูล หาเส้นทางการหลบหนี เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวโรฮีนจาเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทั้งทางบกและทางน้ำ อย่างต่อเนื่อง

พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. เปิดเผยว่า วันนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.

ได้เดินทางไปมอบนโยบายให้กับทางตำรวจในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ภาค 2) โดยได้กำชับเรื่องของความถูกต้องเกี่ยวกับธุรกิจประมงเนื่องจากพื้นที่ภาค 2 ส่วนมากทำอาชีพประมง รวมทั้งมีชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน จะต้องมีการตรวจสอบเส้นทางการเดินทางเข้าออก ซึ่งเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่เป็นสาเหตุของการลักลอบเข้าประเทศของชาวโรฮีนจา รวมทั้งชายฝั่งที่ติดกับอันดามันทั้งหมดที่ต้องดูแลอย่างเข้มงวด โดยที่ผ่านมานโยบายการปิดเส้นทางที่จะมีการนำเรือของชาวโรฮีนจามาจอดเทียบ ชายฝั่งประเทศไทยนั้นถือว่าเห็นผลเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งจะเห็นได้จากเรือของชาวโรฮีนจาที่เข้ามาฝั่งไม่ได้จึงต้องลอยลำในทะเล ซึ่งเมื่อไม่สามารถเข้าฝั่งได้เขาก็จะมุ้งหน้าไปประเทศปลายทางเลย เมื่อชาวโรฮีนจาที่เตรียมจะขึ้นเรือมาทราบแล้วว่าประเทศไทยมีการปิดเส้นทาง ต่างๆ ทำให้จำนวนชาวโรฮีนจาที่จะอพยพมาน้อยลงกว่าที่ผ่านมา ถึงอย่างไรทางเจ้าหน้าที่จะต้องมีการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไป เพราะขบวนการผู้ค้ามนุษย์ และผู้อพยพชาวโรฮีนจาอาจจะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการเดินทางได้

ด้าน หมายจับผู้ต้องหาในขบวนการค้ามนุษย์ยังมีออกเรื่อยๆ เมื่อพบว่าหลักฐานและพยานสาวถึงผู้ใด ถึงแม้โกโต้งจะยังให้การปฏิเสธ ยืนยันทางเจ้าหน้าที่ยังมีหลักฐานมีความแน่หนาพอแน่นอน


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์