น่าสงสารอ่ะ เปิดประตู เฉี่ยวกันล้ม แล้วโดนเหยียบหัวซ้ำ (ขอไว้อาลัยด้วยคะ)

สุรินทร์-อุทาหรณ์..คลิป YouLike (คลิปเด็ด) ที่ชื่อคลิป ”เปิดประตูเฉี่ยวกันล้ม..แล้วโดนเหยียบซ้ำ! 'เสียชีวิต' แม่ร่ำไห้ข้างศพ พ่อวอนสังคมให้ใช้ความระมัดระวัง อย่าให้เกิดเหตุเหมือนลูกสาวอีก ด้านคู่กรณีแสดงความรับผิดชอบรุดช่วยงานศพใกล้ชิด

สุรินทร์-วันนี้(15 พ.ค. 58) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า หลังจากมีการโพสต์ภาพวีดีโอวงจรปิด ใน YouLike (คลิปเด็ด) ที่ชื่อคลิป ”เปิดประตูเฉี่ยวกันล้ม..แล้วโดนเหยียบซ้ำ! 'เสียชีวิต'RIP ‪#‎สุรินทร์‬ [14/5/58]” โดยเป็นภาพรถเก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น พรีอู้ส สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆก 5557 กรุงเทพมหานคร โดยมีนายเฉลิมพล แซ่เต้ง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 ซ.5 ถ.ประชายินดี ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นคนขับ ซึ่งจอดอยู่ข้างทางบริเวณร้านขายของฝากตรงข้ามวัดกลางสุรินทร์ ก่อนจะเปิดประตูรถด้านคนขับ ออกมา ระหว่างนั้น น.ส.อมรรัตน์ ยิ่งทนดี ชื่อเล่นน้ำฝน อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132-134 ซ.วัดบูรพาราม เขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ ได้ขับขี่รถจักยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำทอง หมายเลขทะเบียน ขรน 804 สุรินทร์ มาพอดี ทำให้เกิดการเฉี่ยวชนจนรถจักรยานยนต์ล้มลง ทำให้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นวีโก้ แค๊ป สี เทาดำ หมายเลขทะเบียน 383 สุรินทร์ ซึ่งมีนายกีรติ ชุติอภินันท์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 ถ.ศรีบัวราย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นคนขับ เหยียบที่ศีรษะของ น.ส.อมรรัตน์ เข้าอย่างจังทำให้ น.ส.อมรรัตน์ บาดเจ็บสาหัสก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสุรินทร์ ก่อนจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (14 พ.ค. 58) เวลาประมาณ 16.34 น.

-จากนั้นเวลา 13.00 น.วันนี้(15 พ.ค. 58) ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปยังวัดบูรพารามพระอารามหลวง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อติดตามบรรยากาศการจัดงานศพของ น.ส.อมรรัตน์ ยิ่งทนดี ชื่อเล่นน้ำฝน พบรถพยาบาลของมูลนิธิจิบเต๊กเซียงตึ๊งสุรินทร์ ได้บรรทุกศพของ น.ส.อมรรัตน์ มาจากโรงพยาบาลสุรินทร์พอดี โดยมีน้องสาวของ น.ส.อมรรัตน์ และมารดาของ น.ส.อมรรัตน์ คือ นางสุมล ยิ่งทนดี อายุ 44 ปี นั่งมากับรถด้วย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะยกหามศพลงไปไว้บนเตียงภายในศาลาการเปรียญวัดเพื่อรอประกอบพิธีรดน้ำศพในเย็นวันเดียวกันนี้ ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด ขณะที่นางสุมล มารดาถึงกับร่ำไห้นั่งจับลูบคลำศพพร้อมกับเอ่ยคำรำพึงรำพันต่างๆ ว่า “ ทำไมไม่อยู่กับแม่นานๆ” เป็นภาพที่น่าเวทนายิ่งนัก

-นายอรุณศิลป์ ยิ่งทนดี อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132-134 ซ.วัดบูรพาราม เขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนอยากให้ทุกคนมีความรอบคอบอย่าประมาท เวลาจะลงจากรถก็ดูหน้าดูหลังให้เรียบร้อยก่อน เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา มันจะปลอดภัยก็ต่อเมื่อเราต้องระวังตลอด ตอนนี้ยังไม่มีเวลาคิดเรื่องดำเนินคดีอะไรเพราะมัวแต่วุ่นกับเหตุการณ์ดังกล่าว ลูกสาวคนโตคนนี้เป็นความหวังของครอบครัวของน้องสาวอีก 2 คน เป็นฝาแฝดกัน 1 คน ปกติ อีกคนพิการ ตนมีลูกทั้งหมด 3 คน ลูกสาวคนโตคือน้ำฝนทำงานเป็นลูกจ้าง ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองสุรินทร์ เขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ และกำลังเดินทางกลับไปยัง สนง.เทศบาลเมืองสุรินทร์เพื่อตอกบัตรเลิกงาน แต่กลับมาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตเสียก่อน เขาเปิดประตูออกมาไม่ได้ดูข้างหลังเลย ลูกสาวก็ชนเลย เขาเป็นเหมือนเสาหลัก คอยดูแลน้องที่พิการที่ดูแลตัวเองไม่ได้ ส่วนตนก็แก่แล้ว มีความหวังที่เขา แต่เมื่อเขาจากไปแล้ว น้องๆจะอยู่กันยังไง ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะจากเราไปเร็วอย่างนี้ ความประมาทเป็นอันตรายที่ร้ายแรงมากที่สุด ลูกสาวเขาขับรถมาธรรมดา ไม่ได้สวี๊ทสว๊าท พอมาถึงก็เปิดประตูออกมาเลย ส่วนกำหนดการฌาปณกิจศพ ก็ยังไม่ได้กำหนดวัน

-ด้านนายนายเฉลิมพล แซ่เต้ง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 ซ.5 ถ.ประชายินดี ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ คู่กรณีที่เปิดประตูรถเก๋งออกมาจนเกิดอุบัติเหตุ กล่าวว่า ตนต้องขอกราบขออภัย เพราะเป็นเหตุการณ์สุดวิสัย ตอนนี้ตนพยายามช่วยเหลือครอบครัวน้องเขาเต็มที่ เราไม่ได้ตั้งใจมันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ ตนเป็นเซลล์แมนเกี่ยวกับวัสดุอุตสาหกรรม มาติดต่องานที่ห้างไอคิววัสดุ ก่อนจะแวะจอดซื้อของฝากก่อนกลับโรงแรมที่พัก ซึ่งตนเองก็มองหลังทุกครั้งก่อนจะเปิดประตู แต่ไม่ทราบว่ารถของน้องน้ำฝนมายังไง เพราะตนก็ดูแล้ว ตนขับรถไปต่างจังหวัดบ่อยๆก็ระมัดระวังตลอดไม่เคยมีประวัติการชนมาก่อน ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นเคราะห์กรรม ตนสงสารน้องเขาและเป็นห่วงครอบครัวเขามากจะพยายามดูแลให้ดีที่สุด

-ด้าน พ.ต.ท.พัสกร โพธาราม พนักงานสอบสวนชำนาญการ เจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวบพยานหลักฐานต่างๆ และต้องรอสอบสวนประจักพยานที่เห็นเหตุการณ์ก่อน เพราะมีรถที่ตามมาข้างหลังก็เห็นเหตุการณ์ แต่จากการดูภาพจากกล้องวงจรปิด เบื้องต้นน่าจะเกิดจากความประมาทของผู้ขับรถเก๋งที่จอดอยู่ ซึ่งต้องรอสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆว่าผู้ตายมีส่วนหรือคนขับรถปิ๊กอัพมีส่วนกับความประมาทครั้งนี้ด้วยหรือไม่อีกครั้ง ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหา และทางครอบครัวผู้เสียชีวิตก็ยังไม่ได้เข้ามาหาเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด เพราะน่าจะมัวแต่วุ่นกับงานศพอยู่ต้องให้เวลาเขาก่อน ทั้งนี้ขอฝากเตือนถึงประชาชนทั่วไปหากจะลงจากรถก่อนจะเปิดประรถออกมาควรจะดูให้ดีก่อน ส่วนคนขับขี่รถจักยานยนต์ ก็ต้องมีความระมัดระวังเช่นกัน
-ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังพบว่า นายเฉลิมพล แซ่เต้ง และนายกีรติ ชุติอภินันท์ คู่กรณีทั้ง 2 คนยังได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการเดินทางไปดูแลช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งที่โรงพยาบาลก่อนที่น้องน้ำฝนจะเสียชีวิตและที่วัดอย่างใกล้ชิดอีกด้วย