นายสุวพร เจิมรังษี ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อมกรุงเทพมหานคร (กทม.)
เปิดเผยว่า จากที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่างกฎกระทรวงว่าด้วยสุขลักษณะการจัดการมูลฝอยทั่วไปโดยให้อำนาจท้องถิ่นสามารถจัดเก็บค่ากำจัดขยะได้สูงสุดที่ครัวเรือนละ150 บาทต่อเดือน (ครัวเรือนที่ผลิตขยะเกิน 5 กก./วัน) ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของกฤษฎีกาและเตรียมออกเป็นกฎหมายคาดว่าจะประกาศใช้ได้ภายในเร็ว ๆ นี้นั้น ตนเห็นว่าเป็นหลักการพื้นฐานที่ดีที่ประเทศที่เจริญแล้วไม่ว่าจะเป็นในยุโรปหรือญี่ปุ่นดำเนินการ ทั้งนี้ตนได้สั่งการฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้มีการศึกษารายละเอียดในการปรับอัตราค่าจัดเก็บขยะของกรุงเทพมหานครจากที่ปัจจุบันจัดเก็บในส่วนของประเภทบ้านเรือนที่อยู่อาศัยที่20 บาทต่อเดือน ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำมากในขณะที่ กทม.ต้องแบกรับภาระในการกำจัดขยะเป็นเงินปีละหลายพันล้านบาท แต่การปรับเพิ่มแน่นอนว่าจะต้องส่งผลกระทบต่อประชาชนดังนั้นจะต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบ ซึ่งแนวทางนี้เป็นวิธีที่จะทำให้ประชาชนลดปริมาณการทิ้งขยะลงได้โดยที่ผ่านมา กทม.ได้มีการจัดทำโครงการธนาคารขยะการจัดการขยะให้เหลือศูนย์และโครงการต่าง ๆ ทั้งในชุมชนและในโรงเรียน เพื่อลดขยะตั้งแต่ต้นทางปัจจุบันขยะของ กทม.มีถึงกว่า 8,700 ตันต่อวันซึ่งยังไม่มีแนวโน้มลดลง
นายสุวพร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้กำชับให้ทางเจ้าหน้าที่ไปพิจารณาระบบการจัดเก็บค่าขยะที่ปัจจุบันยังไม่มีประสิทธิภาพ
ทำให้ กทม.ไม่สามารถจัดเก็บได้อย่างครอบคลุมทั่วถึงและไม่สามารถเอาผิดกับผู้ที่ไม่จ่ายค่ากำจัดขยะ ซึ่งเป็นจุดที่จะต้องไปดูในเรื่องของระบบการจัดการเพื่อแก้ปัญหาที่เป็นอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตามสำหรับค่ากำจัดขยะในระดับครัวเรือนที่เหมาะสมนั้นตนคิดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 100 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งต้องรอดูผลการพิจารณาของฝ่ายที่เกี่ยวข้องก่อนจึงจะได้ตัวเลขที่ชัดเจนอย่างไรก็ตามสำหรับประชาชนทั่วไปขอให้คัดแยกขยะก่อนทิ้งซึ่งจะสามารถลดปริมาณขยะที่เป็นภาระให้ท้องถิ่นนำไปกำจัดลงได้มากโดยขยะ 100 เปอร์เซ็นต์ สามารถแยกนำกลับไปใช้ได้ 20-30 เปอร์เซ็นต์ และขณะในบ้านเรานั้น 60 เปอร์เซ็นต์ เป็นขยะที่เป็นอินทรีย์สามารถนำไปหมักเพื่อทำเป็นปุ๋ยหรือแก๊ส และใช้ผลิตพลังงานได้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
