นักวิชาการห่วงทะเลไทยพินาศ!! จี้รัฐประเมินผลได้เสียเร่งปฏิรูป

 4 พ.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผศ.ธร ธำรงนาวาสวัสดิ์ สมาชิก สปช. และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

โพสต์ข้อความแสดงความไม่สบายใจเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลผ่านเฟซบุ๊คเพจชื่อ “Thon Thamrongnawasawat” ที่ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามามายมาก สร้างรายได้หลักให้แก่ประเทศ แต่กำลังจะกลายเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวแบบย่อยยับอยู่หรือไม่ และมีอะไรที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขและปฏิรูปการท่องเที่ยวเพื่อรับมือนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศในอนาคต

ผศ.ธร กล่าวว่า ถึงเวลานี้ต้องแยกแยะผลได้-เสียที่เกิดขึ้นกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเหล่านี้ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล

 ยกตัวอย่างเช่น “อ่าวมาหยา” เคยเต็มไปด้วยปะการังน้ำตื้น ถึงตอนนี้ป่นปี้เกือบหมด และคงหมดเหี้ยนแน่ เพราะเรือทิ้งสมอกันทั้งนั้น จนไม่ทราบว่าเขาชี้วัดความสำเร็จของการอนุรักษ์ทรัพยากรกันอย่างไร แต่ถ้าแนวปะการังในอุทยานป่นปี้กันแบบเห็นเต็มตาเช่นนี้ เกิดขึ้นทุกวี่ทุกวัน มันจะเป็นอุทยานไปทำไมกัน รัฐได้เงิน แต่ถ้าถามว่าเต็มเม็ดเต็มหน่วยแค่ไหน ก็ต้องถามว่าเชื่อตัวเลขนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 324 คน/วัน แบ่งเป็นชาวไทย 203 คน/วัน ต่างชาติ 121 คน/วัน แค่ไหน

 “เอกชนได้เงินจากการท่องเที่ยว แน่นอนว่าได้ คำถามคือเมื่อการท่องเที่ยวแข่งที่ปริมาณ เกิดสงครามตัดราคา เอกชนเขาจะสามารถพัฒนาการท่องเที่ยวแบบดีๆ เพื่อให้ได้เงินมากขึ้นหรือ นักท่องเที่ยวที่เราต้องการยกระดับจะมากันเหรอ การกระจายรายได้เกิดขึ้นจริงหรือ การท่องเที่ยวแบบรายใหญ่เหมาเรียบ ไม่ใช่เป็นการท่องเที่ยวที่เราหวัง ยิ่งรายใหญ่หลายรายเป็นนายทุนต่างชาติ แถมเงินก็หลุดหายไปเพียบ ทั้งไกด์ต่างชาติ ฯลฯ เราได้จริงหรือ??? แล้วเราจะได้มากกว่านี้ไหมถ้าเราทำอะไรให้ดีกว่านี้ แล้วเราจะส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบย่อยยับไปทำไม แค่นี้ยังพินาศไม่พออีกหรือ?”

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ผศ.ธร ได้ดพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับความเสียหายทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวเกาะพีพี ที่เป็นการเหมาลำเรือมาท่องเที่ยว เมื่อจอดทอดสมอเรือเกิดคราบน้ำมันในทะเล และแผ่กระจายไปในบริเวณดังกล่าว จนกลายเป็นการทำลายทัศนีภาพความสวยงามของท้องทะเลแห่งนี้ไปแล้ว