"สมยศ"สั่งให้ตรวจสอบพวกโพสต์ข่มขู่ จนท.ตร.ในคดีแชร์ลูกโซ่ยูฟัน เตรียมบี้ธุรกิจแชร์ลูกโซ่เจ้าอื่นต่อ ทีมทำคดียังลุยตรวจสอบห้องพักหรูในโครงการบางกอกมารีน่าที่กลุ่มยูฟันซื้อจองไว้
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 เมษายน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.)
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ. ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้า พร้อมกำหนดยุทธศาสตร์การสืบสวนสอบสวนและเยียวยาผู้เสียหาย กรณีการดำเนินคดีกับบริษัทยูฟัน สโตร์ จำกัด
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า มีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานสอบสวนชุดพิเศษตามคำขอของ พล.ต.ท.สุวิระ
เพื่อให้มีพนักงานสอบสวนเพียงพอในการรับแจ้งความร้องทุกข์กับผู้บริหารบริษัทยูฟันฯ วันนี้จึงเดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดี พร้อมตรวจสอบการทำงานของพนักงานสอบสวนว่าอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนเพียงพอหรือไม่ ในคดีดังกล่าวยังมีความคิดเห็นที่ยังแตกต่างกัน บางส่วนยังเชื่อว่าธุรกิจบริษัทยูฟันฯผิดกฎหมาย ขณะที่บางส่วนคิดเห็นว่าบริษัทยูฟันฯถูกต้อง อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นในการทำงานและการรวบรวมพยานหลักฐานของ พล.ต.ท.สุวิระ และทีมงาน เนื่องจาก พล.ต.ท.สุวิระได้เก็บข้อมูลและนำเสนอต่อตนตั้งแต่ช่วงปลายปี 2557 ได้เน้นย้ำให้ระวังเนื่องจากเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและมีความซับซ้อนของธุรกิจค่อนข้างมาก กระทั่ง พล.ต.ท.สุวิระ และทีมงาน รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้รวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การออกหมายจับ ตอนนี้จำนวนรวม 13 หมาย จับได้แล้ว 6 คน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดบริษัทยูฟันฯยังดำเนินการอยู่ได้ ผบ.ตร.กล่าวว่า บุคคลบางคนเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกตั้งแต่ตอนต้น อาจจะได้รับผลตอบแทนและเงินกำไรจริง
เชื่อว่าธุรกิจดังกล่าวถูกต้องและไม่ได้หลอกลวง ขณะที่การสอบถามผู้เสียหายที่มาแจ้งความร้องทุกข์ในวันนี้อาจจะเข้ามาตอนปลาย เพราะเริ่มไม่เชื่อถือบริษัท อยากจะยุติบทบาทและการลงทุน แต่บริษัทกลับไม่อนุญาตให้ถอนเงินลงทุนดังกล่าวออกจึงรู้สึกว่าไม่ถูกต้องตามธุรกิจ กระทั่งตัดสินใจมาแจ้งความ ในส่วนของผู้ที่ยังเชื่อว่าบริษัทถูกต้องและดำเนินการต่อต้านการทำงานของเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ถือว่าขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่แต่ในส่วนการโพสต์ข้อความทำนองข่มขู่ทั้งผู้เข้ามาแจ้งความและเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะมีการฟ้องกลับนั้น ขอมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของ พล.ต.ท.สุวิระและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบต่อไป
พล.ต.อ.สมยศกล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีนั้น หากเป็นผู้ต้องหาที่หลบหนีภายในประเทศ ก็จะติดตามเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดี ขณะที่หากหลบหนีไปต่างประเทศจะทำเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศที่มีตามสนธิสัญญาร่วมกันต่อไป
เมื่อถามว่าปัจจุบันผู้ต้องหาในหลายคดีมักใช้วิธีการหลบหนีไปนอกประเทศเนื่องจากหลายคดีพบว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้นั้น
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า การหลบหนีไปต่างประเทศสมัยก่อนทำได้ยาก แต่สมัยนี้กลับทำได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีช่องทางมากมาย ทำให้ผู้ต้องหาหนีไปตั้งหลัก เจ้าหน้าที่จะใช้ช่องทางสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศที่มีสนธิสัญญาต่อกัน ซึ่งในกรณีที่ประเทศใดที่ไม่มีสนธิสัญญาดังกล่าว ก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้เนื่องจากเป็นบ้านเมืองของเขา จุดนี้จึงเป็นช่องว่าง
เมื่อถามว่าคดีดังกล่าวจะถือเป็นแนวทางในการดำเนินคดีกับบริษัทที่มีธุรกิจในลักษณะเดียวกันนี้หรือไม่พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เป็นเรื่องที่แน่นอน เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบธุรกิจในบริษัทอื่นๆ ที่พบความผิดปกติ ขอฝากให้ประชาชนและสื่อมวลชนช่วยเป็นหูเป็นตาในการสอดส่องบริษัทที่มีการทำธุรกิจแบบผิดสังเกต
ด้านหนึ่งในผู้เสียหายที่เดินทางเข้ามาแจ้งความที่บก.ปคบ. เปิดเผยว่า
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2557 ได้ร่วมลงทุนในธุกิจของบริษัทยูฟันฯในจำนวน 17,500 บาท หรือที่เรียกว่าในระดับ 1 ดาว โดยมีเพื่อนที่รู้จักทำธุรกิจและได้เงินกำไรจากธุรกิจดังกล่าวมาชักชวน เมื่อสมัครทางบริษัทอ้างว่าเพียงแค่อยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร ก็จะได้เงินกำไร 10 เปอร์เซ็นต์ จากค่ายูโทเคนทันที แต่เมื่อสมัครแล้วกลับไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว จนเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ตัดสินใจจะออกจากธุรกิจดังกล่าวและขอถอนเงินจำนวน 17,500 บาทคืน แต่บริษัทไม่ให้ถอน ให้เหตุผลว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินทุน หากต้องการกำไรให้ไปหาสมาชิกมาเป็นเครือข่าย และยืนยันจะไม่ยอมให้ถอนเงินดังกล่าวออกมา รู้สึกว่าไม่ถูกต้องและน่าจะโดนหลอก จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ
ทั้งนี้มีผู้เสียหายที่เข้ามาแจ้งความที่ บก.ปคบ.ในคดีดังกล่าวแล้วทั้งหมด 159 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 46 ล้านบาท ขณะที่ยอดรวมผู้เแจ้งความทั่วประเทศมี 120,000 ราย รวมมูลค่า 3,800 ล้านบาท
เมื่อเวลา 17.00 น. พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวนรวมทั้ง ปปง.และ ปคบ. เดินทางลงพื้นที่ หมู่ 9 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานที่ก่อสร้างโครงการบางกอกมารีน่า
รีสอร์ต มีพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ และห้องพักสุดหรู 800 ห้อง ซึ่งบริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด ได้ซื้อห้องพักของโครงการดังกล่าวไว้ 100 ห้อง ราคาห้องละ 1.65 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 165 ล้านบาท มีการชำระเงินมัดจำล่วงหน้าเป็นเงิน 95 ล้านบาท ทางบริษัทยูฟันฯยังได้ร่วมลงทุนถือหุ้นกับโครงการดังกล่าวอีก 29 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นมูลค่า 17.4 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ได้ยึดเอกสารไว้ทำการตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีแชร์ลูกโซ่ของยูฟันหรือไม่
พล.ต.ท.สุวิระกล่าวว่าบริษัทยูฟันฯได้ซื้อเอาไว้ทั้งหมด 100 ยูนิต จ่ายเงินรวมไปแล้ว 165 ล้านบาท
ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการอายัดทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อให้ ปปง.ตรวจสอบและขายทอดตลาดในส่วนที่เป็นการซื้อขายของบริษัทยูฟันฯ และยังอนุญาตให้ทางโครงการดำเนินการต่อได้จนกว่าจะเสร็จสิ้น หรือถ้าทางโครงการบางกอกมารีน่ายินดีคืนเงินให้กับทางรัฐเพื่อจะได้คืนให้กับผู้เสียหาย ก็ยินดีจะถอนอายัดให้ และยังได้มีการตรวจสอบทรัพย์สินของบริษัท บิน่าพูรี่ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของประเทศมาเลเซีย ที่บริหารโครงการบางกอกมารีน่า รีสอร์ต
"หากนำมาซื้อทรัพย์สินใดก็ตามเราต้องอายัดไว้ และในวันนี้ส่วนที่ต้องอายัดมีทั้งอาคารที่กำลังก่อสร้างจำนวน 100 ยูนิต และเครน จำนวน 2 ตัว จากนั้นจะทำการสอบสวนเชิงลึกต่อไป ต้องขอขอบคุณโครงบางกอกมารีน่าที่ให้ความร่วมมือและให้ข้อมูลอย่างดี
นอกจากนี้ยังพบว่าทางบริษัทยูฟันฯยังได้ใช้พื้นที่โครงการนี้เพื่อการกระทำความผิดทั้งที่เจ้าของบางกอกมารีน่าไม่ได้ยินยอมและทางบางกอกมารีน่ายังยินดีจะคืนเงินที่ทางบริษัทนำมาซื้ออาคารดังกล่าว"พล.ต.ท.สุวิระกล่าว
บางกอกมารีน่ายอมคืน165ล. เงินยูฟัน-แลกอายัดโครงการ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ บางกอกมารีน่ายอมคืน165ล. เงินยูฟัน-แลกอายัดโครงการ