สรยุทธขวางจนท.ไร้อำนาจ ถ้าไม่มีหมายค้นทำไม่ได้!

“สรยุทธ” โต้ “พ.อ.สมหมาย” ยันซื้อที่ดิน 8 ไร่ ของ “มูนแดนซ์” ถูกกฎหมาย อ้างใครไปสร้างบ้านขวางทางน้ำ ไม่โง่ก็บ้า ประกาศลั่นไม่มีกฏหมายใด ให้อำนาจจนท.เข้าตรวจค้นโดยไม่มีหมายค้น เว้น 3 กรณี

กรณีพ.อ.สมหมาย บุษบา ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย กองทัพภาคที่ 2 คณะทำงานทวงคืนที่ดินสาธารณะตามนโยบายรัฐบาล

 ออกมาเปิดเผยถึงการเข้าตรวจสอบบ้านพัก “พิธีกรชื่อดัง” ที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 8 ไร่ ภายใต้ชื่อ โครงการหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่า สภาพที่ดิน 8 ไร่ ที่ตั้งบ้านพักของพิธีกรดัง มีการเปลี่ยนแปลงสภาพลำรางห้วยฟ้าผ้า ซึ่งเป็นทางน้ำสาธารณะที่ไหลผ่านพื้นที่โครงการ มีการสร้างแนวปิดกั้นทางน้ำทำเป็นแก้มลิง ทำให้น้ำด้านท้ายของลำห้วยไหลผ่านไม่ได้ เป็นความผิดชัดเจนที่สุด ต้องเข้าสู่กระบวนการเพิกถอนโฉนดที่ดิน นอกจากนี้ตามกฎหมายที่ดินแล้ว การชิงออกโฉนดที่ดินพื้นที่ดังกล่าว เป็นการออกโดยมิชอบ เนื่องจากการเปลี่ยนเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก มาเป็นโฉนดที่ดินสามารถกระทำได้แต่ต้องอยู่ภายใต้ข้อยกเว้น คือผู้ครอบครองจะต้องใช้ประโยชน์ในที่ดินแปลงนั้นมาตั้งแต่ดั้งเดิมก่อนวันที่ 1 ธ.ค.2497 หากไม่ได้ใช้ประโยชน์แต่ดั้งเดิม ถือว่าเป็นการออกโฉนดโดยมิชอบหรือออกโดยไม่มีที่มาที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นกรณีของบ้านพักพิธีกรดัง จึงถือว่าผิดกฎหมาย

ในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 23 เม.ย. นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ทางช่อง 3 ได้ออกมายอมรับต่อสาธารณะเองว่าเป็น "พิธีกรชื่อดัง"

 ที่กำลังถูกตรวจสอบ โดยได้ชี้แจงผ่านรายการของตนเอง ระบุว่า ในฐานะที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบในการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีการพาดพิงอย่างต่อเนื่อง ก็จะนำเสนอข่าวในฐานะผู้ได้รับผลกระทบ โดยตนไปซื้อที่ดินมา 6 แปลง ซื้อจากเจ้าของโครงการ ก็คือ “มูนแดนซ์” ที่ซื้อมาจากสถาบันการเงิน ทุกแปลงเป็นโฉนดที่ดิน 5 แปลงแรก มีการโอนจากบริษัท บริหารสินทรัพย์เพไทย จำกัด มาให้ตน เมื่อวันที่ 24 ก.ย.51 ส่วนแปลงที่ 6 โอนเมื่อวันที่ 25 ก.พ.54 รวมทั้งหมด 8 ไร่

“ถามว่าที่ดินของผมอยู่ในลักษณะไหน ซึ่ง 6 แปลงเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ แต่ที่นำเสนอข่าวกันก่อนหน้านี้ ทำเสมือนว่า ผมเป็นเจ้าของโครงการทั้งหมด”นายสรยุทธกล่าวและว่า ตนได้หนังสือมาจากโครงการมูนแดนซ์ เป็นหนังสือของกรมที่ดิน ลงวันที่ 2 มิ.ย.51 เป็นการแจ้งการออกหนังสือการแสดงสิทธิ์ในที่ดิน ท้องที่อ.ปากช่อง จ.นครราชศรีมา ถึงผู้ว่าฯโคราช โดยสรุปเป็นการบอกเล่าที่มาที่ไปของโครงการมูนแดนซ์ อันเนื่องมาจาการออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ลงนามโดย “รองอธิบดีกรมที่ดิน” ปฎิบัติหน้าที่แทนอธิบดีกรมที่ดิน โดยหนังสือนี้เจ้าของโครงการส่งมาให้ตนเพื่อยืนยันว่า ที่ดินทั้งหมดไม่มีประเด็นในข้อหากฎหมาย ครม.มีมติเมื่อปี 2506ให้ที่ดินทั้งหมดเป็นเขตป่าไม้ถาวร แต่เมื่อพิสูจน์สิทธิ์ น.ส.3 ก.เลขที่ 90 ออกให้นางรุจิรา พานิช เมื่อ 13 พ.ย.2524 เปลี่ยนที่มาจาก นส.3 ก. เลขที่ 29 ซึ่งแบ่งมาจาก น.ส.3 ก. เลขที่ 8 ออกเมื่อ6 พ.ย.2505 ครม.มีมติเมื่อ 12 พ.ย.2506 ประกาศเป็น “เขตป่าไม้ถาวร” โดยนส.3 ก. เลขที่ 90 ออกสืบเนื่องจากหลักฐานเดิม ซึ่งออกก่อนมติครม.2506 ประกาศเป็นเขตป่าไม้ จึงไม่มีผลกระทบต่อสิทธิ์ในที่ดินที่มีอยู่ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน น.ส.3 ก.เลขที่ 90 จึงออกโดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นผลให้โฉนดที่ 15594-15603 จำนวน 53 แปลง ชอบด้วยกฎหมาย แปลงที่จะต้องไปพิสูจน์กันต่อไป คืออยู่ในกลุ่มนี้ 15593

นายสรยุทธ ยังชี้แจงผ่านรายการของตนเองด้วยว่า การจะเข้าไปตรวจค้นทำได้เฉพาะ 3 กรณีที่ไม่มีหมายค้นคือ กรณีที่หนึ่ง)

ผิดกฏหมายมาตรา 112 หมิ่นสถาบัน กรณีที่ 2) ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง หมายรวมถึงเกี่ยวกับระเบิด กรณีที่ 3) ฝ่าฝืนประกาศของ คสช. ฉะนั้นในกรณีอื่นๆ แม้กระทั่งเรื่อง “ป่าไม้” ยังไม่มีกฏหมายใด ให้อำนาจเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นโดยไม่มีหมายค้น

“กรณีลำห้วยสาธารณะ ที่พ.อ.สมหมายบอกนั้น ผมไปซื้อที่ดิน โครงการฯก็ยืนยันว่ามันเป็นอย่างนี้แล้ว และเขาก็ไม่ได้ทำตั้งแต่เจ้าของเดิม ซึ่งกระบวนการตรงนี้ก็ยินดีให้ตรวจสอบตามขั้นคอนของกฏหมาย ทั้งหมดนี้ในฐานะผู้รับผลกระทบ ขอใช้เวลาช่วงหนึ่ง หลังที่ตกเป็นข่าวอยู่หลายวัน ที่ “เดลินิวส์” หรือสื่อบางส่วนไปลงว่า ไปสร้างขวางทางน้ำ เวลาหน้าน้ำก็อยากจะให้ไปดูว่า มันเป็นอย่างไร ถ้าใครไปสร้างบ้านขวางทางน้ำ ไม่โง่ก็บ้าล่ะครับ”นายสรยุทธกล่าวทิ้งท้าย