เตรียมย้ายเสือออกจากวัดป่าหลวงตาบัว

กาญจนบุรี 22 เม.ย. – การหายไปอย่างเป็นปริศนาของเสือ 3 ตัว จากวัดป่าหลวงตาบัว อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

ไม่มีความชัดเจนในการติดตาม ทำให้สัตวแพทย์ที่เคยฝังไมโครชิพให้เสือ นำข้อมูลหลักฐานสำคัญส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพราะไม่ต้องการให้มีการแอบอ้างใช้วัดค้าสัตว์ป่า ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งโดยรอบวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน จ.กาญจนบุรี บันทึกภาพรถปริศนาขับเข้ามาในวัด ช่วงวันที่ 20 และ 25 ธันวาคม 2557 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เสือโคร่งเพศผู้ 3 ตัว หายไปจากวัด

เลขเครื่องหมายประจำตัวที่สแกนจากไมโครชิพที่นายสัตวแพทย์ที่เคยดูแลเชื่อว่าเป็นไมโครชิพที่ลงทะเบียนจากเสือที่หายไป

ซึ่งผลการสแกนชี้ว่า เสือตัวแรกชื่อ “ดาวเหนือ” แจ้งว่าหายไปเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2557 ตัวที่ 2 ชื่อ “แฮปปี้” แจ้งว่าหายไปวันที่ 26 ธันวาคม พร้อมกับ “ฟ้าคราม 3” ที่แจ้งว่าหายไปในวันเดียวกัน หลักฐานทั้งหมดนี้ นายสัตวแพทย์สมชัย วิเศษมงคลชัย นำมายื่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เขาบอกว่า หลังจากเสือเพศผู้ น้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม ทั้ง 3 ตัว หายไปนานกว่า 2 เดือน การติดตามคดีในพื้นที่ไม่คืบหน้า และได้ส่งมอบหลักฐานไมโครชิพให้กับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์แล้ว เชื่อว่ามีขบวนการลักลอบนำเสือไปชำแหละเพื่อส่งออกไปจีน โดยผู้ที่อยู่ในพื้นที่รู้เห็นเป็นใจ

ทนายความที่ร่วมยื่นเรื่อง เรียกร้องให้รับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ เพราะเชื่อว่ามีขบวนการแอบอ้างใช้วัด เกี่ยวข้องกับการค้าสัตว์ป่าคุ้มครองข้ามชาติ และยังโยงใยกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เบี่ยงเบนข้อเท็จจริงของคดี โดยไม่มีการสืบสวนหาความจริงว่า เสือหายไปไหน และใครเป็นผู้เอาไป

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบเสือของกลางทั้งหมดในวันศุกร์นี้ พร้อมเจรจากับตัวแทนวัด

 นำเสือที่เป็นสมบัติของชาติให้กรมอุทยานฯ กลับมาดูแล ยอมรับที่ผ่านมาเสือต้องอยู่ร่วมกันทั้งเพศผู้-เพศเมีย และมีการผสมพันธุ์ในสายเลือดเดียวกัน ทางการจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย นำเสือกลับมาดูแล ทั้งหมดเป็นสายพันธุ์เบงกอล ไม่ใช่พันธุ์ท้องถิ่น จึงต้องเลี้ยงดูไปตลอดอายุขัย

มีข้อมูลว่า ตั้งแต่ปี 2544 วัดได้เริ่มดูแลเสือโคร่งของกลาง จำนวน 7 ตัว จากนั้นเสือมีการผสมพันธุ์เพิ่มจำนวน จนปัจจุบันมี 146 ตัว

 กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ต่างชาติคุ้นเคยในชื่อ “Tiger Temple” มีอาสาสมัครดูแลเสือจากหลายประเทศ ซึ่งยังมีสัตว์ป่าของกลางอีกหลายชนิดที่วัดดูแล จัดกิจกรรมหารายได้ต่อเนื่องมาตลอดกว่า 20 ปี ซึ่งพระวิสุทธิสารเถร เจ้าอาวาสวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน ที่ถูกกล่าวหามีส่วนรู้เห็นกับการหายไปของเสือ ยังไม่เคยออกมาชี้แจงความชัดเจน ล่าสุดท่านไปภารกิจด้านศาสนาในยุโรป ยังไม่มีกำหนดเดินทางกลับ. – สำนักข่าวไทย