เช้านี้!! พายุฤดูร้อนจ่อถล่ม 21จว.เหนือ-อีสาน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ เช้านี้!! พายุฤดูร้อนจ่อถล่ม 21จว.เหนือ-อีสาน
เมื่อวันที่ 22 เมษายน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศประเทศไทยว่าบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน
ได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทยแล้วและจะแผ่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนจนถึงวันที่ 25 เมษายน ขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นโดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส และอากาศจะคลายความร้อนลง
โดยจะมีผลกระทบตามภาคต่างๆดังนี้คือในช่วงวันที่ 22-23 เมษายน บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 22-25 เมษายน
บริเวณภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก และในช่วงวันที่ 23-25 เมษายน บริเวณภาคใต้ จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุลมแรงที่จะเกิดขึ้นรวมถึงอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมถึงดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
ด้าน ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) แจ้งว่าวันที่ 22-23 เมษายน
อาจเกิดพายุฤดูร้อนในบางพื้นที่ภาคเหนือ คือจ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก และจ.เพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือคือจ.เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญและจ.อุบลราชธานี โดยขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวโปรดทราบ หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ศภช.จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
ส่วนความเสียหายจากพายุฤดูร้อนพัดถล่มในหลายจังหวัดภาคอีสานเมื่อเย็นของวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา
โดยเฉพาะที่ จ.สุรินทร์ ในเขตพื้นที่ ต.เฉนียง ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีฝนตก ลมกระโชกแรง มีลูกเห็บตก ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎร ร้านค้า โรงสีข้าว ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ถูกแรงลมพัดพังเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน เสาไฟฟ้า ต้นไม้ใหญ่ โค่นล้มขวางทาง เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ไม่ทราบชื่อ
ที่จ.อุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเย็นวันที่ 21เมษายน นายจรูญ ปะหา ปลัดอาวุโสอำเภอนาตาล จ.อุบลราชธานี รักษาราชการแทนนายอำเภอ
รับแจ้งเกิดมีลมพายุหมุนขนาดใหญ่พัดเข้าถล่มหมู่บ้านนาชุมและหมู่บ้านใกล้เคียงใน ต.กองโพน รวม 14 หมู่บ้าน นานกว่า 30นาที ทำให้บ้านเรือนเสียหายเกือบ 100 หลังคาเรือน ส่งผลให้ไฟฟ้าดับนาน 2 ชั่วโมง ก่อนที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอนาตาล ซ่อมแซมเชื่อมต่อสายไฟเพื่อจ่ายไฟฟ้าได้ตามปกติ
ที่ จ.อำนาจเจริญ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเย็นวันที่ 21เมษายน เกิดฝนฟ้าคะนอน ลมกระโชกแรง ตลอดเวลา ในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ
ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรพังเสียหายรวม 202 หลังคาเรือน ใน 5 อำเภอ 1.อ.เมือง 2.อ.พนา 3.อ.เสนางคนิคม 4.อ.หัวตะพาน และ5.อ.ชานุมาน รวมถึงต้นไม้ใหญ่เล็กโค่นล้มจำนวนมาก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือแล้ว
ส่วนที่ จ. สกลนคร เกิดพายุฝนฟ้าคะนองขึ้นในหลายพื้นที่ของจังหวัดสกลนคร
มีพายุลูกเห็บตกกระหน่ำในเขต อำเภอเมือง อำเภอโพนนาแก้ว และอำเภอเต่างอย. ประมาณ 20 นาที ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย กว่า 10 หลัง ขณะเกิดเหตุ นายสมจิต การชาคำ. อายุ56 ปี. กำลังออกไปเก็บกระบือกลางทุ่งนาและเข้าไปหลบฝนในกระท่อมถูกแรงพายุพัดจนกระท่อมพังทั้งหลัง แต่นายสมจิตถูกไม้หักทับจนขาซ้ายหักกระดูกเพื่อนบ้านได้ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลสกลนครปลอดภัยแล้ว
ที่จ.อุดรธานี เมื่อเวลา17.00น.วันที่ 21เมษายน เกิดเหตุต้นตะเคีนยยักษ์อายุกว่า 100ปี
ที่วัดเกษรศิลคุณธรรมเจดีย์ หรือวัดภูผาแดง เป็นดของ หลวงปู่ลี กุสลธโร สายหลวงตามหาบัว ตั้งอยู่ในภูเม็งย ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี หักโค่นทับนางรัตนาภรณ์ เอี่ยมนูน อายุ 49ปี ชาวศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู เสียชีวิต คาดทั้งนี้ ความเสียหายจากพายุฤดูร้อนยังทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่อีกหลายต้นภายบริเวณวัดล้มทับอาคารกุฏิของพระ โรงทานและรถยนต์เสียหายอีกหลายคัน ส่วนที่ อ.ศรีธาตุและอ.วังสามหมอ พายุฤดูร้อนยังพัดทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูงล้มกว่า 50ต้นด้วย
สำหรับสถาการณ์ไฟไหม้และควันไฟที่บ่อขยะเอกชน หมู่9 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เมื่อวันที่ 21 เมษายนนั้น พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) กล่าวว่า จากเหตุดังกล่าว กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 1โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 21รักษาพระองค์ ได้เข้าร่วมดำเนินการดับไฟ กับ อบจ.สมุทรปราการและส่วนราชการในพื้นที่ทันทีที่เกิดเหตุ และสถานการณ์ยังไม่สามารถยุติลงได้ ซึ่งผู้บัญชาการทหาร มีความห่วงใย ได้สั่งให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก บูรณาการดับไฟ ร่วมกับทุกภาคส่วนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกัน วันที่ 22 เมษายน กองทัพบก ได้ส่งกองร้อยบรรเทาสาธารณภัยของกองพลทหารราบที่ 11 พร้อม รถดับเพลิง เข้าช่วยสนับสนุนเพิ่มเติมในการควบคุมการปะทุของไฟ
ล่าสุด เวลา17.00น.นายพินิจ หาญพาณิชย์ ผวจ.สมุทรปราการ กล่าวว่า สามารถควบคุมเปลวเพลิงได้แล้วร้อยละ99 แล้วจึงส่งผลให้ควันไฟเริ่มเบาบางและจางลงแต่ยังคงมีควันจากความร้อนที่สะสมอยู่ด้านใต้กองขยะอีกไม่เกิน1,000 ตารางเมตรของพื้นที่10ไร่ ที่ถูกเพลิงไหม้ไปจึงต้องให้เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ปะทุขึ้นมาอีก