นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบการบุกรุกที่ดินของสนามแข่งรถอินเตอร์เนชั่นแนลโบนันซ่า สปีดเวย์ (International Bonanza Speed Way) อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ว่า ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สรุปพื้นที่การบุกรุกทั้งหมดของสนามแข่งรถโบนันซ่าแล้ว โดยสนามแข่งรถโบนันซ่ามีการบุกรุกพื้นที่ของรัฐทั้งหมดรวม 166 ไร่ 2 งาน 40 ตารางวา แยกเป็นพื้นที่มีการออกเอกสารสิทธิ นส.3 ก ซึ่งเป็นหลักฐานที่ทางโบนันซ่านำมาแสดงจำนวน 5 แปลง รวมเนื้อที่ 56 ไร่ 3 งาน 2 ตารางวา รับผิดชอบโดยที่ดินจังหวัดนครราชสีมา บุกรุกพื้นที่สวนป่าเนื้อที่ 35 ไร่ 2 งาน 38 ตารางวา บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนเนื้อที่ 12 ไร่ 3 งาน 14 ตารางวา บุกรุกพื้นที่ ส.ป.ก. เนื้อที่ 57 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา และบุกรุกลำรางสาธารณะเนื้อที่ 4 ไร่ 43 ตารางวา
นายชำนาญ กลิ่นจันทน์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า กรณีสนามแข่งขันโบนันซ่า สปีดเวย์ บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน และพื้นที่ ส.ป.ก. ขณะนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการสำรวจรังวัดแนววงรอบพื้นที่บุกรุกในส่วนของแต่ละหน่วยงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว และมีความชัดเจน 100% ซึ่งในส่วนของ ส.ป.ก.ได้นำหลักฐานเอกสารแนวพื้นที่วงรอบทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวนภายในวันนี้ เพื่อนำไปประกอบสำนวนดำเนินคดีกับผู้บริหารโบนันซ่า และทาง ส.ป.ก.กำลังดำเนินการคิดคำนวนค่าเสียหายเพื่อฟ้องร้องค่าเสียหายทางแพ่งด้วย ทั้งนี้ จะดำเนินการควบคู่กันไปกับการฟ้องร้องดำเนินคดีของแต่ละหน่วยงานทั้งที่ดินจังหวัด กรมป่าไม้ และ ส.ป.ก.
ด้าน พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีนี้ เปิดว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน แต่เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน และมีหลักฐานเอกสารหลายอย่างทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานพอสมควร อย่างไรก็ตามคาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งให้อัยการได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้
ขณะที่ นายมนศักดิ์ อารักษ์ ที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า สำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมาได้ส่งหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร ถึง นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ อธิบดีกรมที่ดิน เพื่อให้ลงนามในการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ในที่ดินโครงการโบนันซ่า เรียบร้อยแล้ว โดยผู้ว่านครราชสีมา ได้ลงนามเห็นชอบตามที่เสนอ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า ที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) เลขที่ 925-928 และ 930 ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งอยู่ในหลักเกณฑ์ที่ต้องดำเนินการเพิกถอนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน รวมเนื้อที่ 55-3-55 ไร่ มีรายละเอียดดังนี้
1.หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) เลขที่ 925 ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เนื้อที่ 6-1-40 ไร่ ออกโดยวิธีเดินสำรวจเพื่อออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) โดยใช้รูปถ่ายทางอากาศตามมาตรา 58 ในปีประมาณ 2519 โดยมิได้แจ้งการครอบครองให้แก่ นางสอน คำพลกรัง เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2519 โดยนางสอน แจ้งว่าได้ที่ดินมาโดยก่นสร้างมาด้วยต้นเองประมาณ 25 ปี ปัจจุบันมีชื่อ บริษัท ซับม่วง จำกัด มีชื่อเป็นผู้ถือสิทธิ์ครอบครองไม่มีภาระผูกพัน
2.แปลงเลขที่ 926 ต.ขนงพระ ฯ เนื้อที่ 9-1-63 ไร่ ออกโดยวิธีเดียวกัน โดยมิได้แจ้งการครอบครองให้แก่ นายพันธ์ คำพลกรัง เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2519 โดยนายพันธ์ แจ้งว่าได้ที่ดินมาโดยรับให้มาจากบิดามาประมาณ 10 ปี ก่อนนั้นบิดาได้ก่นสร้างมาด้วยตนเองประมาณ 15 ปี ปัจจุบัน นายไพวงษ์ เตชะณรงค์ มีชื่อเป็นผู้ถือสิทธิ์ครอบครองไม่มีภาระผูกพัน
3.แปลงเลขที่ 927 ต.ขนงพระฯ เนื้อที่ 16-1-90 ไร่ออกโดยวิธีเดียวกัน โดยมิได้แจ้งการครอบครองให้แก่ นายบุญส่ง คำพลกรัง เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2519โดยนายบุญส่ง แจ้งว่าได้ที่ดินมาโดยรับให้มาจากมารดามาประมาณ 5 ปี ก่อนนั้นมารดาได้ก่นสร้างมาด้วยตนเองประมาณ 20 ปี ปัจจุบัน นายไพวงษ์ เตชะณรงค์ มีชื่อเป็นผู้ถือสิทธิ์ครอบครองไม่มีภาระผูกพัน
4.แปลงเลขที่ 928 ต.ขนงพระฯ เนื้อที่ 16-1-50 ไร่ ออกโดยวิธีเดียวกัน ซึ่งมิได้แจ้งการครอบครองให้แก่ นายเขียว แวะสันเทียะ เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2519 โดยนายเขียว แจ้งว่าได้ที่ดินมาโดยก่นสร้างมาด้วยตนเองประมาณ 23 ปี ปัจจุบันมี น.ส.พรรณี สุจิรภิญโญกุล (น.ส.ภัสสรา เตชะณรงค์) เป็นผู้ถือสิทธิ์ครอบครอง ไม่มีภาระผูกพัน
และ 5.แปลงเลขที่ 930 ต.ขนงพระฯ เนื้อที่ 7-1-20 ไร่ ออกโดยวิธีเดียวกัน โดยมิได้แจ้งการครอบครองให้แก่นางเทศ นพรัตน์ เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2519 โดยนางเทศ แจ้งว่าได้ที่ดินมาโดยรับให้มาจากบิดามาประมาณ 5 ปี ก่อนนั้นบิดาได้ก่นสร้างมาด้วยตนเองประมาณ 20 ปี ปัจจุบันมี น.ส.พรรณี สุจิรภิญโญกุล เป็นผู้ถือสิทธิครอบครอง ไม่มีภาระผูกพัน
อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบจากระวางรูปถ่ายทางอากาศปรากฏว่าได้มีการขีดเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน เมื่อปี 2534 และมีการขีดเขตป่าไม้ถาวรตามมติ คณะรัฐมนตรี ( ครม.) เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2506 "ป่าโครงการรถไฟมวกเหล็ก" เมื่อปี 2543 ปัจจุบันที่ดินอยู่ในเขตพื้นที่ดำเนินการของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติโซน E ซึ่งกรมป่าไม้ได้ส่งมอบให้ ส.ป.ก.ดำเนินการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2536
โดยทางสำนักงานที่ดินฯ สาขาปากช่องพิจารณาเห็นว่า การออก น.ส.3 ก ทั้ง 5 แปลงดังกล่าว ออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องดำเนินการเพิกถอนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินพ.ศ. 2497 ซึ่งที่ดินทั้ง 5 แปลง อยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ อบต.ขนงพระ และเห็นควรแต่งตั้ง นายทรรศพงษ์ เดือนแจ่ม นักวิชาการที่ดินชำนาญการ เป็นกรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการเพิกถอนตามมาตรา 61
" การดำเนินการในส่วนของที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว โดยหลังจากนี้เป็นเรื่องของส่วนกลาง ซึ่ง อธิบดีกรมที่ดิน จะมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ตามที่เสนอ ซึ่งต้องแล้วเสร็จภายใจ 60 วัน ส่วนที่ดินดังกล่าวเป็นของหน่วยงานใดหน่วยงานนั้น ก็จะเข้าไปดำเนินการต่อไป " นายมนศักดิ์ กล่าว