หมอเผ่า แจง ร่างทรงขู่เมียไม่เลิก

หมอเผ่า ยกสุภาษิตคบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล


เป็นคติเตือนใจการเลือกคบคน เผย ช่วงป่วยเงินกงสีหาย 25 ล้านบาท ระบุ ไม่เคยคิดนอกใจเมีย แต่ร่างทรงบอกหากไม่หย่า ตระกูลทมทิตชงค์จะพินาศ ผลจิตวิทยาหมู่ไม่ว่าใครก็เป๋ ย้ำ หายแล้วต้องกินยาต่อเนื่อง 2 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การจัดงานครบรอบ 36 ปี วันเปิดสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์

ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ภารกิจในการดูแล บำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยจิตเวช ทั้งที่เป็นผู้ป่วยทั่วไป และผู้ป่วยที่ก่อคดี หรือผู้ป่วยนิติจิตเวช โดยภายในงานมีการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฝีมือผู้ป่วย การเปิดตัวมูลนิธิสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ การเปิดประตูสู่ตึกมัชฌิมา ซึ่งเป็นการเปิดให้เข้าชมสถาบัน เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจการบำบัดรักษาทางจิตเวชมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการจัดงานครั้งนี้


มีการเสวนาวิชาการเรื่อง การพิทักษ์สิทธิผู้ป่วยจิตเวช เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักเกี่ยวกับสิทธิผู้ป่วยจิตเวชโดยมี นายกิตติพงษ์ กิตติยารักษ์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นพ.อภิชัย มงคล รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต นพ.ประกิตเผ่า ทมชิตชงค์ ผู้ใช้บริการ เข้าร่วมการเสนวนา โดยมี น.ส.สายสวรรค์ ขยันยิ่ง เป็นผู้ดำเนินรายการ

ส่วน นพ.ประกิตเผ่านั้น ผู้ดำเนินรายการจะเป็นผู้ถามคำถาม

ซึ่งได้รับการกลั่นกรองแล้วว่าไม่กระทบกับสิทธิผู้ป่วย และไม่กระตุ้นอาการเจ็บป่วย โดย นพ.ประกิตเผ่า อยู่ในอาการปกติ ยิ้มแย้มแจ่มใส เดินทางมาพร้อมกับครอบครัว คือ นพ.ช่วง พ่อ รศ.เพลินจิต แม่ นพ.ประกิตพันธ์ พี่ชาย และ นางอลิสา ภรรยา มาให้กำลังใจ นอกจากนี้ พ่อของ น.ส.เปรมิกา วีระชัชรักษิต นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกลุ่มเพื่อนได้เข้ามาร่วมรับฟังด้วย นอกจากนี้ผู้พิพากษาคดีของ นางอลิสาภรรยา นพ.ประกิตเผ่า และ น.ส.เปรมมิกาก็มาร่วมฟังด้วยเช่นกัน

นพ.ประกิตเผ่า กล่าวว่า


ก่อนหน้านี้ที่ตนไม่ได้เข้ารับการรักษา เพราะปกติแล้วคนบ้ามักจะไม่ยอมรับว่าตนเองบ้า แม้ผู้ใกล้ชิด หรือคนข้างเคียงบอกว่าผิดปกติ ก็จะไม่เชื่อ ซึ่งไม่เหมือนโรคปกติที่เมื่อเจ็บป่วย ผู้ป่วยจะไปพบแพทย์เพื่อรักษาตัว

ช่วงก่อนหน้าวันที่ 6 เมษายน ตนไม่รู้ตัวเลย ไม่รับรู้เรื่องอะไรเลย

เหมือนสมองว่างเปล่า แต่ที่มาปิ๊งในวันที่ 6 เมษายน ซึ่งเป็นวันเกิด ก็ถือว่าแปลกเพราะเป็นวันแรกที่รู้สึกตัว ช่วงอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งสองแห่ง เหมือนหลับไป ซึ่งในช่วงนั้น ตนน่าจะแสดงมวยไทยกับพยาบาลไปหลายคน แต่จำไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ช่วงที่ออกจากโรงพยาบาลศรีธัญญาก็ไม่รู้สึกตัว มารู้ตัวอีกทีตอนอยู่ในรถพยาบาล พอเข้าไปในรถรู้สึกเหมือนหลับไป 3 นาที ตื่นอีกทีก็มาอยู่ที่ สถาบันกัลยาณ์ฯ แล้ว

ก่อนหน้าที่จะเข้าโรงพยาบาล ตนระแวงภรรยา


ทั้งที่ก่อนหน้านั้นรักภรรยามาก ไม่เคยคิดจะหย่าเลย แต่ที่เป็นทั้งหมดก็ด้วยความเชื่อที่มีคนนำมาใส่หัวว่าภรรยาจะฆ่าตัวเอง พอภรรยามาใกล้ก็เหมือนยักษ์ขมูขี จึงไม่อยากอยู่ใกล้ อย่างไรก็ตามปกติเป็นคนชอบทำบุญ นั่งสมาธิ และจะมาบอกว่าความก้าวหน้าในเรื่องสมาธิให้กับคนในครอบครัวฟังว่าเราเป็นอย่างไรบ้าง แต่ต่อมาครอบครัวก็เห็นว่าไม่ไหว พี่ชายจึงพามาพัก รพ.ศรีธัญญา

วันที่พี่ชายพาไปโรงพยาบาลจำได้ว่า


พี่ชายบอกว่าภรรยามีเหตุร้าย และไม่สบายใจ ตนก็คิดไปเองเรื่อยๆ จึงไปด้วยการใส่เสื้อเกราะ พกปืน 3 กระบอก เป็นเหมือนแรมโบ้ แต่วันนั้นยอมรับว่ามีสติน้อยมาก ทั้งที่ปกติตนไม่คิดทำร้ายใคร บี้มด ตบยุง ก็ไม่ทำเพราะรักษาศีล 5 และช่วงที่อยู่ในโรงพยาบาล และช่วงที่มีศาลมาเดินเผชิญสืบมีความรู้สึกตัวเพียง 20% เท่านั้น จึงไม่แน่ใจว่าตอบอะไรศาลไปบ้าง

หลังจากที่รักษาที่สถาบันกัลยาณ์ฯ ไปได้ช่วงหนึ่ง

แพทย์เจ้าของไข้ก็ได้ให้กลับบ้านช่วงต้นเดือนพฤษภาคม และแพทย์ที่ทำการรักษาก็ให้ทำครอบครัวบำบัด ซึ่งช่วยทำให้อาการดีขึ้น ในช่วงแรกที่รักษา ค่ายาวันละ 1 พันบาท เดือนละ 3 หมื่น แพงมาก ซึ่งได้คุณแม่เป็นผู้จ่ายค่ายา

และในการรักษาแพทย์ต้องรักษาทั้งครอบครัว เป็นครอบครัวบำบัด

เพราะการป่วยทางจิตแค่คนเดียวในครอบครัว จะกระเพื่อมไปถึงทุกคน จึงต้องรักษาทั้งครอบครัว ซึ่งการรักษาในช่วงแรก ต้องกินยาถึง 23 เม็ดต่อวัน พอดีขึ้นก็ลดลงมาเรื่อยๆ ตอนนี้ ต้องกินยา แค่ 1 ใน 3 ของที่เคยกินแล้ว และต้องกินยาอย่างน้อย 2 ปี

สำหรับความเห็นต่อกฎหมายสุขภาพจิตนั้น นพ.ประกิตเผ่ากล่าวว่า


นคิดว่าครอบครัวเท่านั้นควรจะมีสิทธินำส่งผู้ป่วย และคนไข้มีสิทธิที่จะรักษาโดยสงบและเป็นความลับ ที่ผ่านมาตนนักข่าวทุกวัน บางคนไม่ได้อยู่บนพื้น แต่ขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ก็มี มีการใช้กล้องซูมถ่ายรูป ทั้งที่การรักษาต้องได้รับความสงบ แพทย์ที่รักษาให้อยู่ในห้องจะได้ไม่คิดมาก แต่ช่วงอยู่สถาบันกัลยาณ์ฯ ก็ไม่มีอะไรทำ หนังสือก็ไม่มี ทีวีก็ไม่มี แต่ก็สนุกกับเพื่อนๆ บรรยากาศโรงพยาบาลน่ารัก ส่วนผู้ป่วยที่น่ากลัวหรืออาละวาดแพทย์จะจัดให้อยู่ในที่พิเศษ

นพ.ประกิตเผ่า กล่าวพร้อมหัวเราะอารมณ์ดี

เป็นสิทธิของผู้ป่วยที่จะได้รับการรักษาอย่างปลอดภัย แต่ตอนอยู่โรงพยาบาลศรีธัญญา มีปัญหาหลายครั้ง คือ

ครั้งแรกมีคนแต่งตัวครึ่งท่อนจะมาพาผมออกไป และ
ต่อมามีคนนุ่งชุดขาวห่มขาว 5-6 คน จะมาพาตัวออกไป และ
ครั้งที่ 3 มีตำรวจแต่งตัวเต็มยศมาพร้อมหมายศาลที่ไม่ถูกต้อง จะมาพาตัวออกไปอีก ไม่รู้รักอะไรผมนักหนา แต่ไม่ใช่ความผิดของโรงพยาบาลศรีธัญญา เพราะผมคงเป็นกรณีพิเศษที่น่าอุ้ม


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์