สองสามีภรรยาไทย ใช้บริการสุดไฮเทคแช่แข็งสมอง-ร่างให้ลูกน้อย หวังการแพทย์อนาคตช่วยฟื้น(ชมภาพ)

สองสามีภรรยาไทย ใช้บริการสุดไฮเทคแช่แข็งสมอง-ร่างให้ลูกน้อย หวังการแพทย์อนาคตช่วยฟื้น(ชมภาพ)

 

       "เดลี่ เมล์"รายงานว่า เกิดเหตุฮือฮา เมื่อสองสามีภรรยาไทย ได้ใช้บริการแช่แข็งร่างให้แก่ลูกของพวกเขาที่เสียชีวิตด้วยอาการเนื้องอกในสมอง ของบริษัทไฮเทคด้านกายแพทย์แห่งหนึ่งของสหรับ เนื่องจากพวกเขาหวังว่า ลูกของพวกเขาจะได้กลับมาฟื้นอีกครั้งในอนาคต หากวงการแพทย์มีวิธีรักษาโรคที่ก้าวหน้าและรักษาโรคของลูกพวกเขาได้ ขณะที่เด็กดังกล่าวถือเป็นมนุษย์อายุน้อยที่สุดที่ได้รับการรักษาร่างด้วยเทคนิคการแช่แข็งสมองและร่างด้วยมูลค่าใช้จ่ายที่ถือว่าสูงมาก

      รายงานระบุว่าเด็กน้อยดังกล่าวเป็นเด็กหญิงวัย 2 ขวบ ที่เสียชีวิตด้วยอาการเนื้องอกในสมอง โดยครอบครัวไทยทั้งสองได้ใช้บริการแช่แข็ง ของบริษัท"Alcor"ผู้ให้บริการแช่แข็งมนุษย์ ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐโดยก่อนหน้านี้ เด็กหญิง แมธเธอลีน เนาวรัตน์พงษ์ หรือ"ไอนซ์"ได้เกิดป่วยด้วยอาการประหลาด เป็นเนื้องอกในสมองตั้งแต่อายุยังน้อย ก่อนสุขภาพเธอจะเข้าสู่ภาวะโคม่า ทำให้เธอได้รับการผ่าตัดสมอง 12 รอบ ต้องได้รับการฉายรังสีบำบัด 20 ครั้ง ก่อนเจ้าตัวจะเสียชีวิต เมื่อวันที่ 8 ม.ค.โดยสองสามีภรรยาได้ตัดสินให้แพทย์ปิดเครื่องช่วยหายใจแก่เธอ 

     ต่อมา สองสามีภรรยาไทย ได้ตัดสินใจที่จะซื้อเวลาและความหวังว่าลูกของเธออาจกลับมามีชีวิตได้อีกในอนาคต โดยทั้งสองให้ใช้บริการแช่แข็งร่างลูกสาวดังกล่าว จาก"อัลคอร์"ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการแช่แข็งร่างมนุษย์รายใหญ่ที่สุดของโลก และหวังว่า หากวิทยาการด้านการแพทย์ในอนาคตก้าวหน้า อาจค้นพบหนทางที่จะรักษาหรือชุบชีวิตลูกสาวเธอให้ฟื้นคืนได้ 

     โดยสองสามีใช้บริการดังกล่าวเพราะต้องการรักษาเซลล์สมอง และอวัยวะอื่น ๆ ไม่ให้เน่าเปื่อย โดยทั้งสองได้เสียเงินค่าเป็นสมาชิก 770 ดอลลาร์ต่อปี (ราว 24,640 บาท) ขณะที่ค่าแช่แข็งสมองลูกสาวเป็นเงิน 80,000 ดอลลาร์ ที่ได้ถูกผ่าแยกมาเพื่อเก็บไว้เฉพาะส่วน (หรือราว 2.56 ล้านบาท) และการแช่แข็งร่างกายทั้งหมด เป็นมูลค่า 2 แสนปอนด์ (หรือราว 10.2 ล้านบาท)

    ขณะที่บิดาของเด็กหญิงแมธเธอลีนบอกว่า การแช่แข็งร่างมนุษย์เป็นโอกาสหนึ่งที่ลูกสาวของเขาจะได้กลับมาหายใจอีกรั้ง เมื่อเทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์ในอนาคตข้างหน้าพร้อมที่จะรักษาอาการของเธอ และว่า เขารู้เรื่องกระบวนการแช่แข็งร่างมนุษย์จากข้อมูลทางอินเตอร์เนท 

    ขณะที่แพทย์ผู้รักษาเด็กหญิงไทยผู้นี้มองอย่างมีความหวัง บอกว่า ชีวิตหนูน้อยแมทเธอลีนอาจฟื้นคืนชีพได้อีกครั้งจากการแพทย์สมัยใหม่ได้สักวันหนึ่ง โดยเด็กหญิงแมทเธอลีนเป็นเด็กหลอดแก้วที่มีแม่อุ้มบุญที่ถือกำเนิดมาโดยที่มารดาเธอไม่สามารถให้กำเนิดทายาทได้เพราะได้ผ่าตัดมดลูกไปแล้วหลังให้กำเนิดลูกชาย

    รายงานระบุด้วยว่าก่อนหน้านี้ตัวแทนบริษัท"อัลคอร์"ได้เดินทางมายังเมืองไทยเพื่อรับร่างของเด็กหญิงแมทเธอลีนหลังจากเธอถูกประกาศภาวะเสียชีวิตโดยสมบูรณ์แล้วโดยบริษัทได้ทำการ"ผ่าแยกสมอง"ของเด็กหญิงแมทเธอลีนในเมืองไทย ออกจากร่างของเธอ เพื่อแยกเก็บ หลังจากไม่สามารถบินไปกระทำในสหรัฐได้ ่ก่อนที่สมองของเด็กหญิงน้อยได้ถูกนำไปเก็บในตู้เหล็กกล้าในรัฐอริโซน่า โดยแช่สารไนโตรเจนเหลว ในระดับอุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส รวมทั้ง
ร่างกายของเธอ ที่ถูกแยกเก็บแช่แข็งบนเตียงน้ำแข็ง

    ขณะที่นายอารอน คล๊าคส์ ตัวแทนของบริษัท"อัลคอร์"บอกว่า บริษัทมีเทคนิกในการกระตุ้นร่างกายทั้่งตัวให้กลับมาทำงานใหม่ หรืออย่างน้อยก็ด้วยวิธีแยกกระตุ้นอวัยวะหลายส่วนผู้รับการแช่แข็ง และนำอวัยวะกลับมารวมกันใหม่ และว่า ปัจจุบัน กิจการของบริษัทในการแช่แข็งร่างมนุษย์เพื่อรอรับการรักษาทางการแพทย์อนาคต ถือว่ากำลังได้รับความสนใจจากผู้คนเพิ่มขึ้น โดยตลาดนี้กำลังขยายตัวเติบโต 

    ด้านนางนรีรัตน์ มารดาเด็กหญิงน้อยบอกว่า อย่างน้อยเธอและสามีก็ถือว่าได้อุทิศชีวิตลูกสาวเธอให้แก่ความก้าวหน้าทางการแพทย์ และถือว่าวิธีนี้ถือเป็นการรักษาลูกสาวของเธอและสามี แม้ว่าเราและลูกสาวจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วก็ตาม


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์