ชายชราจ. นครปฐม อายุ 76 ปี ไม่สิ้นรัก อยู่กินกับศพเมียตนเองนานเกือบ 10 เดือน ก่อนตายสั่งเสียให้เก็บศพไว้ที่บ้าน ไม่ต้องนำไปเผา
เมื่อวันที่ 1 เม.ย. บนเครือข่ายสังคมโซเชียลมีเดียยอดฮิตอย่างเฟซบุ๊ก เหล่านักท่องเน็ตต่างเข้าไปแสดงความเสียใจกันล้นหลาม หลังผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “Jeab Naka” เผยแพร่รูปภาพพร้อมเรื่องราวของชายสูงอายุรายหนึ่ง ได้อาศัยอยู่กินและนอนกับศพมานานเกือบ 10 เดือน ซึ่งศพดังกล่าวเป็นภรรยาของเขาเอง จนชาวบ้านได้มาแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และนายก อบต.ว่าได้กลิ่นศพ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้น พบศพหญิงชรานอนอยู่ภายในบ้านจริง โดยผู้โพสต์ระบุข้อความอ้างชายรายนี้พูดว่า “ป้าตายนานแล้ว แต่ไม่มีเงินทำศพ ลูกก็ไม่มาดูแล ทิ้งให้อยู่กันสองคนตา ยาย จึงเก็บศพไว้ที่บ้าน ป้าสั่งว่าถ้าป้าตายให้เก็บไว้ที่บ้าน” หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกส่งต่อและแชร์กันในวงกว้าง โลกออนไลน์ต่างตกตะลึงกับพฤติกรรมสุดแปลกของชายสูงอายุรายนี้ แต่ก็ได้ชื่นชมการแสดงออกซึ่งความรักของสามี-ภรรยา คู่นี้อย่างมากมาย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” ได้รับการเปิดเผยจาก นายณรงค์ชัย คงยั่งยืน นายกอบต.ท่ากระชับ ว่า
เมื่อทราบเรื่องได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบศพผู้เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านไม้ยกพื้นสูง ชั้นเดียว แต่มีสภาพทรุดโทรม เต็มไปด้วยของเก่าและวัสดุเหลือใช้ ภายในบ้านเลขที่ 47 ม.2 ต.ท่ากระชับ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ทราบชื่อผู้ตาย คือ นางซกกี จู๋ยืนยง อายุ 83 ปี สภาพศพแห้ง เหลือแต่โครงกระดูก มีกลิ่นเหม็นสาบ โดยนอนอยู่กับพื้นบ้าน ซึ่งกางมุ้งครอบไว้อีกชั้นหนึ่ง จากการสอบถามทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวผู้ตายอาศัยอยู่กับสามี คือ นายยม จู๋ยืนยง อายุ 76 ปี ส่วนลูกชายทำงานอยู่ที่จ.ชัยภูมิ โดยนายยม ได้เขียนข้อความใส่กระดาษระบุว่า ภรรยาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.57 เวลา 13.10 น. ซึ่งภรรยาได้สั่งเสียไว้ว่าให้เก็บศพไว้ที่บ้าน ไม่ต้องการนำศพมาบำเพ็ญกุศล ด้วยความรักภรรยาจึงทำตามคำสั่งเสีย เป็นเหตุให้อยู่กินกับศพนานเกือบ 10 เดือน
“เบื้องต้นทาง อบต.ท่ากระชับ จะรับเป็นเจ้าภาพจัดพิธีบำเพ็ญกุศลให้ และทำตามที่เจ้าบ้านประสงค์ คือ จะนำโครงกระดูกใส่ไว้ในโลงศพ และสวดศพเป็นเวลา 3 วัน แต่จะไม่เผา ซึ่งขณะนี้ยอดบริจาคจากส่วนต่างๆ อาทิ นายอำเภอ มูลนิธิสองล้อใจบุญ และชาวบ้าน รวมทั้งสินกว่า 2 หมื่นบาทแล้ว นอกจากนี้ผู้ใหญ่บ้านม. 2 ยังอาสารับดำเนินการทำเอกสารใบมรณบัตรให้แก่ผู้ตายเป็นที่เรียบร้อย”