ศพทารกซุกใต้ศาลวัดดัง ขุด-พิสูจน์! ที่ดอยหล่อ-เชียงใหม่

ศพทารกซุกใต้ศาลวัดดัง ขุด-พิสูจน์! ที่ดอยหล่อ-เชียงใหม่

ศพทารกซุกใต้ศาลวัดดัง ขุด-พิสูจน์! ที่ดอยหล่อ-เชียงใหม่ ชาวบ้านร้องตรวจสอบ

ชาว บ้านร้องตำรวจตรวจสอบวัดดังเชียง ใหม่ เพราะเชื่อว่าอดีตเจ้าอาวาสฝังศพทารก 4 ศพไว้ใต้ศาลพระพรหม รองผบช.ภาค 5

สั่งทีมสืบสวนข้อเท็จจริง เบื้องต้นสอบทั้งสีกาที่บริจาคเงินสร้างพระพรหม กับคนงาน ยอมรับว่ามีการฝังศพทารกจริงๆ ระบุอดีตสมภารรายนี้ถูกจับสึกเพราะเสพเมถุน จากนั้นก็ไปตั้งสำนักทำเสน่ห์-ของขลังจาก ศพทารก ขายให้นักท่องเที่ยวชาวจีน บิ๊ก ตร. สั่งเร่งสอบให้ชัด ก่อนจะรื้อฐานพระพรหมพิสูจน์เร็วๆ นี้ ยันต้องกวาดล้างขบวนการทำของขลังจากศพ ระบุมีทั้งพระ-สัปเหร่อรู้เห็น

วัน ที่ 29 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านบ้านสันนกแก้ว ต.สันติสุข อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ว่า

ช่วงเวลากลางคืนจะได้ยินเสียงสุนัขเห่าหอนโหยหวนที่วัดห้วยดินจี่ จนชาวบ้านพากันหวาดผวา โดยชาวบ้านละแวกนี้ยังเคยทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานตำรวจภาค 5 สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างภายในวัด เพราะเชื่อว่ามีการนำศพทารกมาฝังด้วย

แกนนำชาวบ้าน (ขอสงวนนาม) เปิดเผยว่า กลุ่มชาวบ้านได้ทำหนังสือร้องเรียนไปทั้งตำรวจ และสำนักพุทธฯ ที่ จ.เชียงใหม่


เพราะเคยมีอดีตเจ้าอาวาสที่ถูกจับสึกในข้อหาเสพเมถุน มีพฤติกรรมเล่นไสยศาสตร์ นำศพมาทำพิธี ทำเครื่องรางของขลัง ขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน ในรูปแบบต่างๆ และยังมีการนำซากศพเด็กที่ไปซื้อมาทำพิธีฝังไว้ใต้ศาลท้าวมหาพรหม และศาลฤๅษีภายในวัดรวม 4 ศพ

ชาวบ้านคนเดิมกล่าวว่า เมื่อกลางปี 2557 ได้ร้องเรียนไปยังตำรวจภาค 5 เพื่อมาตรวจสอบกรณีที่มีอดีตเจ้าอาวาสรูปหนึ่งที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

 ทำไสยศาสตร์ และเสพเมถุน ต่อมาพล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภาค 5 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนภาค 5 เข้าตรวจสอบและก็พบหลักฐานว่าเสพเมถุนจริง จึงส่งตัวให้กับเจ้าคณะตำบลดอยหล่อจับสึก ต่อมาชาวบ้านได้ไปนิมนต์พระครองธรรม ธัมมธีโร มารักษาการเจ้าอาวาสวัดแทน ซึ่งเจ้าอาวาสรูปใหม่ได้มาดำเนินการเก็บกวาด พวกวัตถุต่างๆ โลงศพไว้สำหรับทำพิธี รวมทั้งพวกเครื่องรางของขลังต่างๆ ทิ้ง ปรับปรุงวัดให้ดูสะอาด

ชาวบ้านคนเดิมกล่าวว่า กลุ่มชาวบ้านได้รับข้อมูลจากหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ อดีตเจ้าอาวาสคนนั้น

 โดยบอกว่าหลังจากสึกไปแล้วก็ไปเปิดสำนัก ตั้งตนเป็นเจ้าพิธี ทำเสน่ห์ยาแฝด และเครื่องรางของขลังขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน ต่อมาก็ทราบว่าเจ้าอาวาสรูปใหม่ จะกวาดล้างเครื่องรางของขลังในวัดก็ตกใจ เพราะกลัวว่าจะขุดไปเจอศพทารก 4 ศพที่ฝังไว้ใต้ฐานพระพรหมฤๅษี จึงปิดสำนักทำเสน่ห์หลบหนีไปแล้ว หญิงสาวคนดังกล่าวจึงนำเรื่องมาแจ้งให้ชาวบ้านทราบ พวกตนจึงได้ร้องเรียนไปทางพล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภาค 5 ขอให้ส่งตำรวจมาตรวจสอบว่ามีศพทารกฝังไว้จริงหรือไม่

มี รายงานข่าวจากตำรวจภาค 5 แจ้งว่า หลังจากที่ชาวบ้านร้องเรียนแล้ว

 พล.ต.ต. ปชาได้สั่งชุดสืบสวนเข้าหาข้อมูลในเบื้องต้นทันทีว่ามีการฝังศพทารกไว้ใต้ ฐานพระพรหมจริงหรือไม่ เพราะหากว่าเป็นเรื่องจริงก็ต้องดำเนินคดีในข้อหาอำพราง เคลื่อนย้าย และซ่อนเร้นศพ ถือเป็นคดีอาญา โดยได้สอบปากคำพยานผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้บริจาคเงินสร้างศาลพระพรหมชื่อ "องค์ปู่ท้าวมหาพรหมนิมิตรมงคลอุดมสุข" เพื่ออุทิศให้กับบรรพบุรุษและเจ้ากรรมนายเวร

พยานคนดังกล่าว ระบุว่า หลังก่อสร้างอดีตเจ้าอาวาสได้นำลูกกรอกให้กับตนไว้บูชา ให้ตนเอากลับมาบ้าน


ปรากฏว่าได้เกิดเรื่องขึ้น โดยขณะครึ่งหลับครึ่งตื่นนั้นได้มีเด็กหญิงมายืนปลายเตียงและร้องขอความช่วย เหลือว่าเขากับเพื่อนๆ ที่ถูกอดีตเจ้าอาวาสนำไปฝังในศาลพระพรหมที่ตนบริจาคขึ้นถึง 4 ศพ ตนตกใจมาก พอรุ่งขึ้นวันใหม่ก็ได้นำลูกกรอกมาคืนอดีตเจ้าอาวาส

ทีมสืบ สวนระบุว่า นอกจากนี้ตำรวจได้พยานปากสำคัญที่เป็นคนนำซากศพเด็ก ใส่โลงแก้วขนาดเล็ก และฝังไว้ใต้ฐาน พระพรหม


โดยชายคนนี้เป็นคนผสมปูนเททับยอมรับกับตำรวจว่ามีการฝังศพทารก 4 ศพจริงๆ อดีตเจ้าอาวาสวัดเป็นผู้ยืนควบคุม และคอยท่องคาถาสะกดวิญญาณ โดยซากศพเด็กหญิงดังกล่าวนั้นอดีตเจ้าอาวาสซื้อต่อมาจากสัปเหร่อที่สุสานใน ตัวเมืองเชียงใหม่ ศพเด็กดังกล่าวมีชื่อว่า "วันเพ็ญ" จึงรายงานข้อมูลทั้งหมดให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และล่าสุดพบว่าอดีต เจ้าอาวาสคนดังกล่าวได้หลบหนีไปแล้ว

ต่อมาพล.ต.ต.ปชาเปิด เผยว่า ตอนนี้ชุดสืบสวนได้ลงหารายละเอียดและสอบถามพยานได้ข้อมูลจนน่าเชื่อว่ามีการ ฝังซากศพเด็กไว้ใต้ฐานพระพรหมจริง


และพวกนี้จะทำเป็นขบวนการ เป็นกลุ่มพระที่ชอบเล่นพวกไสยศาสตร์ อวิชชา และทำวัตถุมงคลจากซากศพต่างๆ เพื่อจำหน่ายให้กับนัก ท่องเที่ยวชาวจีน โดยพัวพันกันหลายจุด ทั้งพระและสัปเหร่อ มีการซื้อขายศพ อำพรางศพ ซ่อนเร้นศพ เพียงเพื่อผลประโยชน์เล็กน้อย ไม่นึกถึงภาพลักษณ์ของพุทธศาสนา ถึงแม้อดีตเจ้าอาวาสจะถูกจับสึกไปแล้ว แต่เรื่องของคดีการอำพราง ซ่อนเร้น ทำลายศพนั้น หากตรวจสอบและพบซากศพเด็กจริงก็จะต้องถูกดำเนินคดี รวมทั้งพวกที่มีส่วนพัวพันด้วย

"ข้อมูลที่ชุดสืบสวนภาค 5 ลงหาข่าวนั้นชัดเจนมีพยานแน่นหนา ตอนนี้เหลือขั้นตอนการรื้อศาลพระพรหมตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งผมได้ให้ชุดสืบสวนหาพยานเพื่อสอบปากคำให้มากยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อความแน่นอน ก่อนที่จะลงมือรื้อฐานพระพรหมตรวจสอบในวันสองวันนี้ นอกจากนี้ยังสั่งการให้ตำรวจดำเนินการกวาดล้างปราบปราม พวกที่ทำวัตถุเครื่องรางของขลังนำศพทารกมาทำพิธี ขายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ" พล.ต.ต.ปชากล่าว

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์