รองผู้ว่าฯเชียงใหม่สั่งเข้มหมอกควัน!วอนงดเผาป่า

22 มี.ค.58 ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

เป็นประธานประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ อ.เชียงดาว เพื่อติดตามดูกระบวนงานการทำงานของศูนย์เฉพาะกิจในระดับอำเภอ เจ้าหน้าที่ใช้เฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนดูพื้นที่เผาป่าเขต อ.เชียงดาว ซึ่งช่วง 1 เดือนมานี้ มีการเผามากกว่า 140 ครั้ง แต่วันนี้ไม่สามารถมองเห็นจุดการเผาป่าได้ เนื่องจากมีหมอกปกคลุมหนาแน่น ซึ่งเต็มไปด้วยหมอกควัน

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การลงพื้นที่ใน อ.เชียงดาว

เพื่อติดตามดูกระบวนงานการทำงานของศูนย์เฉพาะกิจในระดับอำเภอ โดยมีเป้าหมายในการลงพื้นที่ที่เกิดจุดฮอตสปอต กระบวนการการทำงาน การสนธิกำลังในพื้นที่ อ.เชียงดาว มีการทำงานอย่างเป็นระบบ มีการปฏิบัติงานลงไปถึงตำบลถึงหมู่บ้าน ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช ของกรมป่าไม้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฝ่ายทหาร ทำหน้าที่กันอย่างเป็นระบบ แต่เนื่องจากพื้นที่ อ.เชียงดาว เป็นพื้นที่ป่าไม้และภูเขาสูง การเข้าไปในพื้นที่ค่อนข้างที่จะลำบาก

อย่างไรก็ตาม การมาติดตามการทำงาน การสนธิกำลังอย่างเป็นระบบ สามารถเข้าไปจัดการในพื้นที่ได้ดีพอสมควร

สาเหตุของการเกิดไฟป่าเกิดขึ้นจาก การทำพื้นที่การเกษตร การหาของป่า การทำพื้นที่การเกษตร ทางราชการดูแลในเรื่องนี้และกำหนดระยะเวลา เรียกว่าระบบการชิงเผาเป็นแนวทางการปฏิบัติ และมีการใช้กฎหมายเข้ามาควบคุมดูแลด้วย

โดยชุดเฉพาะกิจดับไฟป่า ซึ่งมีกำลังจากหลายหน่วยเฝ้าระวัง ได้รับแจ้งการเกิดไฟไหม้ป่าไม่ไกลจากตัวอำเภอ

จึงระดมกำลังเข้าจุดเกิดเหตุทันที พบไฟกำลังโหมไหม้หญ้าในป่าข้างทาง ไฟไหม้ลุกลามขึ้นไปบนดอยที่สูงชัน ทำให้การดับไฟยากลำบาก แต่เจ้าหน้าที่มีจำนวนมาก จึงควบคุมไฟได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังส่งเจ้าหน้าที่เกาะติดพื้นที่เกิดไฟป่าบ่อยครั้งใน 14 หมู่บ้านของ อ.เชียงดาว เพื่อกดดันช่วยลดการเผาจากปีที่แล้ว และจับกุมผู้เผาป่าอย่างจริงจัง จ.เชียงใหม่ จับแล้ว 8 ราย

สถานการณ์หมอกควันไฟป่าที่ จ.เชียงใหม่ ล่าสุด ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก ยังสูงเกินค่ามาตรฐาน อยู่ที่ 160 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

อยู่ในเกณฑ์ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน สถิติจุดความร้อน หรือฮอทสปอต ใน จ.เชียงใหม่ ของมาตรการเฝ้าระวังหมอกควันและฝุ่นละออง ระหว่างวันที่ 15 ก.พ.ถึงเมื่อวานนี้ กระจายอยู่ทั้ง 24 อำเภอ ยกเว้นอำเภอสารภี ซึ่งไม่มีพื้นที่ป่า พบมากที่สุดที่อำเภอแม่แจ่ม กว่า 200 จุด