จับ หนุ่มอิหร่าน ปลอมพาสปอร์ตกว่า 60 ประเทศ

18 มี.ค.58 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย ผบก.ส.2 , ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ดีเอสไอ พร้อมเจ้าหน้าที่ตัวแทนสถานทูตจากหลายประเทศ แถลงจับกุม นายเอสราฟิล บอนดาร์ หรือมูรัต กูเรล ชาวอิหร่าน อายุ 45 ปี ในความผิดข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร ใช้เอกสารและหนังสือเดินทาง และแผ่นปะตรวจลงตราวีซ่าปลอม พร้อมของกลางหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ตประเทศต่างๆ กว่า 60 ประเทศ จำนวน 1,053 เล่ม เครื่องตัดขอบการ์ด หลอดไฟแบ็คไลท์ แผ่นสติ๊กเกอร์วีซ่าเปล่า เอกสารแผ่นหน้าข้อมูลบุคคลของหนังสือเดินทาง ฮาร์ตดิสเก็บข้อมูล และสมุดบัญชีธนาคาร

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ เผยว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ดีเอสไอสนธิกำลังร่วมกับตำรวจสันติบาลเข้าจับกุมน ายเอสราฟิล บอนดาร์ หรือมูรัต กูเรล ที่ห้องพักเลขที่ 62/69 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบอุปกรณ์ทำหนังสือเดินทางปลอม จากนั้นวันที่ 16 มี.ค.ขยายผลไปค้นที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ถ.สุขุมวิท ต.หนองปรือ อ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พบของกลางเป็นหนังสือเดินทางจำนวนกว่า 1 พันเล่ม พร้อมสมุดบัญชีธนาคาร จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมควบคุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน นางสุวณา กล่าวว่า ที่ผ่านมาดีเอสไอได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนและประสานงานสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายข้ามชาติ ทุกรูปแบบที่เข้ามาในประเทศไทย ซึ่งในส่วนแก๊งขบวนการทำหนังสือ หรือพาสปอร์ตปลอมนั้น เป็นจุดเริ่มต้นของแก๊งอาชญากรรมข้ามชาตินั้น จะขโมยหนังสือเดินทางมาจากทั่วโลก ก่อนลักลอบส่งมาที่ประเทศไทย และใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านเพื่อเดินทางต่อไปประเทศที่สามเพื่อลี้ภัย หรือไปก่อการร้ายในรูปแบบต่างๆ ประเทศอื่นๆ โดยจะเข้ามาในรูปแบบนักท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าจับตาและทำการสืบสวนพร้อมดำเนินการจับกุมทำลายขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติต่อไป

พล.ต.ต.อุดร กล่าวว่า ทางตำรวจสันติบาลดูแลงานด้านความมั่นคงได้ร่วมมือกับดีเอสไอ จับตาดูแก๊งอาชญกรรมข้ามชาติ โดยในส่วนที่จับกุมผู้ต้องหาได้นั้นเป็นการขยายผลจับกุมจากคดี นายปาคเนจัด ซีเยส รามิน ชาวอิหร่าน ผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีปลอมเอกสารทางราชการและหนังสือเดินทาง รวมถึงขบวนการค้ามนุษย์ก่อนหลบหนีประกันชั้นศาล ปัจจุบันโดนเจ้าหน้าที่ประเทศมาเลเซียจับกุมอยู่ไทยกำลังประสานตัวเพื่อขอมาดำเนินคดีตามกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน