สุดประหลาด!! หมู่บ้านเนื้อไก่ป่ามีรสขม ชาวบ้านกินไม่ได้ช่วง 3 เดือน

เรื่องที่แปลกมากในหมู่บ้านเกิดขึ้นจริงเกิดมานานตั้งแต่ตนจำความได้คือช่วง 3 เดือนของทุกปี

สัตว์ป่าที่อาศัยในป่า เนื้อสัตว์ป่าชนิดต่างๆ ที่ชาวบ้านล่ามาได้แล้วนำมาปรุงเป็นอาหารจะมีรสชาติขมมาก หรือชาวบ้านเรียกว่า ขิ่ว ซึ่งจะไม่สามารถรับประทานได้เลย กลิ่นจะเหม็นมาก ชนิดที่ว่ากินไม่ได้เลย จากที่ตนเคยนำไก่ป่ามาแกงรับประทานจะมีกลิ่นเหม็น ตนได้พยายามกินเข้าไปแล้วจากนั้นจะมีกลิ่นติดตัว คือกลิ่นจะออกมาตามเหงื่อ ไม่ว่าจะเป็นไก่ป่า หมู่ป่า อีเห็นหรือสัตว์อื่นๆ เช่น งูต่างๆ ก็ไม่สามารถนำปรุงอาหารรับประทานได้เลย จะขมมาก แต่ยกเว้นสัตว์ที่เลี้ยงในบ้านจะไม่มีรสชาติขมแต่อย่างใด

 “ช่วงที่สัตว์ป่าจะมีกลิ่นเหม็นนั้นจะเกิดขึ้นในช่วง3 เดือน คือ เดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายนของทุกปีเท่านั้น ซึ่งหากมองในแง่ดีเป็นสิ่งที่ดีว่าเป็นช่วงที่ไก่ป่าและสัตว์ป่าส่วนใหญ่เข้าสู่ฤดูกาลวางไข่พอดี และเป็นเรื่องที่แปลกอีก คือ สัตว์ป่าด้วยกันก็ไม่สามารถกินกันได้ เช่น ไข่ไก่ป่า งูและอีเห็นรวมทั้งกระรอกที่ชอบแอบมากินไข่ไก่ป่า แต่เพราะเข้าช่วง 3 เดือนดังกล่าว งูไม่กินไข่ไก่ อีเห็นและกระรอกก็ไม่กินไข่ไก่ สัตว์ด้วยกันก็ยังไม่กินเนื้อกันเอง ขณะที่ปลาที่อยู่ในน้ำก็ยังมีกลิ่นเหม็น สัตว์ป่าที่นี่จึงมีจำนวนมากกว่าพื้นที่อื่น โดยเฉพาะไก่ป่าที่ดอยโป่งสาแห่งนี้ หลังเที่ยงคืนไก่ป่าจะขันจำนวนมาก ขันอยู่รอบหมู่บ้านทุกๆ 1 ชม. ตั้งแต่เวลา 01.00-02.00 น. จนถึงสว่าง ถือว่ามากกว่าสัตว์ชนิดอื่น และเป็นไก่ป่าที่รูปร่างสวยงามอีกแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตามการที่สัตว์ป่าใน 3 เดือนดังกล่าว มีกลิ่นตัวที่เหม็นกันทุกชนิด นอกจากทำให้สัตว์ป่าในพื้นที่ดอยบ้านโป่งสาแห่งนี้มีจำนวนมากแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่งที่จะช่วยขยายพันธุ์สัตว์ป่าให้มากยิ่งขึ้นไปด้วย”