ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉลองพระองค์เชิ้ตลายสก็อตสีเหลืองแขนสั้น ทรงมีพระพักตร์ที่แจ่มใส ขณะที่รถตู้พระที่นั่งแล่นผ่าน พสกนิกรที่เฝ้ารอรับเสด็จต่างพร้อมใจกันเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแย้มพระสรวล พร้อมกับโบกพระหัตถ์ให้กับประชาชนที่มารอเฝ้ารับเสด็จ สร้างความปลาบปลื้มใจให้กับประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นพระองค์ทรงมีพระวรกายที่แข็งแรง ประชาชนบางรายถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มออกมา
จากนั้นเวลา 15.48 น. รถตู้พระที่นั่ง ถึงยังสวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต เมื่อเสด็จฯถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯยังโรงสีข้าวเพื่อทอดพระเนตรเครื่องสีข้าวใหม่ที่บริษัทเอกชนน้อมเกล้าฯถวายเมื่อปีพ.ศ. 2556 ก่อนเสด็จฯไปประทับที่บ้านพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อเปลี่ยนพระอิริยาบถ และเสวยพระสุธารส ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับยังที่ประทับ ณ ชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ในเวลา 16.59 น. รวมเวลาในการเสด็จฯ ครั้งนี้ 1 ชม. 23 นาที
ด้าน น.ส.รุ่งนภา รู้ชอบ อายุ 26 ปี เป็นอาจารย์พยาบาล เผยความรู้สึกในครั้งนี้ว่า ปกติได้มาเฝ้ารับเสด็จฯ อยู่หลายครั้ง เพราะทำงานอยู่ที่นี่ และครั้งนี้ก็เป็นโอกาสมงคลของตัวเองอีกครั้ง ในการเฝ้ารับเสด็จฯ ตอนแรกเห็นคนมาตั้งขบวน เลยรีบวิ่งมาเฝ้ารับเสด็จฯด้วย ความรู้สึกตอนนี้ดีใจ และยิ่งได้เห็นพระองค์ท่านทรงมีพระวรกายที่แข็งแรง ก็ยิ่งรู้สึกปราบปลื้มแบบหาที่สุดมิได้ แม้เห็นพระองค์ท่านเพียงไม่กี่วินาที แต่ภาพที่เห็นประทับใจและตรึงอยู่ในหัวใจตลอดไป
ด้าน นางวันเพ็ญ คงล่ำซำ อายุ 63 ปี อาชีพค้าขายที่ อ.อ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร เผยว่า วันนี้มาตรวจร่างกายพอดี แล้วไม่คาดฝันว่าจะได้มาเฝ้ารับเสด็จฯเพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสเฝ้ารับเสด็จฯ หลังจากเห็นคนวิ่งไปนั่งรอเฝ้ารับเสด็จฯ ลูกสาวเลยพาไปรอเฝ้ารับเสด็จฯด้วย ความรู้สึกในตอนนี้ปลื้มใจ ดีใจ ยิ่งเมื่อเห็นพระองค์มีพระพักตร์ที่สดชื่น ประชาชนอย่างเรารู้สึกสุขใจเป็นอย่างมาก