แชร์สนั่นขนลุกทั่วโลกออนไลน์ ภาพตุ๊กตาเด็กผู้หญิงถูกผ้ามัดปิดตา นั่งพิงโคนต้นไม้ ชี้เห็นแล้วสยอง ลือเป็นตุ๊กตาต้องคำสาปในประเทศสิงคโปร์ เจ้าของเจอความเฮี้ยนจนทนไม่ไหวสุดท้ายต้องพันปิดตานำมาทิ้ง ทำความเห็นแบ่งเป็นสองฝ่าย บางส่วนเชื่อว่าเป็นจริง ขณะที่อีกฝั่งฟันธงเป็นฝีมือมนุษย์ปรุงแต่งขึ้น
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. กลายเป็นที่ฮือฮาและน่าพรั่นพรึงเป็นที่สุดในโลกโซเชี่ยลมีเดีย สำหรับภาพและข้อความในเรื่อง "อาถรรพณ์ตุ๊กตาถูกมัดตา"
ที่มีการส่งต่อกันอย่างแพร่หลาย โดยภาพถ่ายที่ถูกแชร์นั้นมีทั้งหมด 3 ภาพ เป็นภาพตุ๊กตาเด็กผู้หญิงที่โดนนำมาวางทิ้งไว้ในลักษณะนั่งพิงโคนต้นไม้อยู่ แถมยังมีผ้าสีขาวพันปิดบังดวงตาทั้ง 2 ข้างเอาไว้ ที่สำคัญบนผ้ายังมีข้อความบางอย่างเขียนเอาไว้ด้วย ซึ่งพอมีชาวบ้านพบเห็นก็เกิดความแปลกใจ พร้อมกับรุมเข้ามาตรวจดู ซึ่งหลังจากแกะผ้าปิดตาออก ทั้งหมดก็แทบผงะ เมื่อพบว่าเบื้องหลังผ้าดังกล่าวนั้น เป็นแววตาอันเย็นชาของตุ๊กตาตัวนี้ แต่ที่น่าขนลุกคือดวงตาที่แฝงไปด้วยความเย็นชาที่กำลังจ้องเขม็งคนที่จ้อง มองเธออยู่
โดยมีการระบุอ้างว่า ตุ๊กตาตัวดังกล่าวเป็นตุ๊กตาอาถรรพณ์ที่ถูกมัดตา แล้ววางทิ้งไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ถนนแห่งหนึ่ง ในประเทศสิงคโปร์
ซึ่งหลังจากมีผู้คนสงสัยจนต้องไปสืบค้นหาความจริง กระทั่งพบว่า ข้อความที่อยู่บนผ้านั้นเป็นภาษาอาหรับ ผู้เขียนต้องประสบพบเจอกับเรื่องไม่คาดฝันอะไรบางอย่างเข้าที่เกี่ยวข้องกับ ตุ๊กตาตัวนี้ ถึงขั้นต้องเขียนคำนี้ลงบนผ้าก่อนจะมัดปิดตาเอาไว้ เพื่อป้องกันคำสาปแช่งหรือมนต์ดำจากตุ๊กตาไม่ให้ติดตามกลับบ้านผู้ที่จ้องตา ประสานตากับตุ๊กตาอีก ทั้งยังบอกว่า เจ้าของเดิมของมันเชื่อว่าตุ๊กตาตัวนี้ต้องคำสาป เขาจึงนำตุ๊กตาตัวนี้มาทิ้งให้ไกลที่สุด แล้วหาผ้ามามัดตาของมัน เพื่อให้มันหาทางกลับบ้านไม่ได้อีกต่อไป
ซึ่งหลังจากกลายเป็น ที่สนใจมีผู้ที่แสดงข้อมูลเพิ่มเติมว่า อาถรรพณ์ที่พบเจอมาหลายต่อหลายเจ้าของคือ
มักจะได้ยินเสียงตุ๊กตาตัวนี้พูดอยู่คนเดียวเป็นภาษามาเลเซีย ด้วยน้ำเสียงแหบซ่านแบบผู้หญิงแก่ หรือแม้แต่มันจะหันศีรษะมามองเราทันทีเมื่อเราเดินผ่านหน้ามันไป ลือกันว่าหากใครพบตุ๊กตาตัวนี้ในสภาพไม่ผูกตาอยู่ บริเวณนั้นๆจะเกิดเหตุฆ่าตัวตายหรือคดีฆาตกรรมที่เป็นปริศนาหาคำตอบไม่ได้ ทุกครั้งเลยด้วย
อย่างไรก็ตามบรรดานักท่องเน็ตต่างแสดงความคิด เห็นไปเป็นสองฝั่งสองฝ่าย บางเชื่อว่าเป็นจริงเพราะแววตาของตุ๊กตาตัวนี้มีความน่าขนลุกขนพองอยู่ในตัว ขณะที่อีกฝ่ายกลับมองว่า เป็นฝีมือมนุษย์ที่ปรุงแต่งขึ้นทั้งจากตัวตุ๊กตาและเรื่องเล่าขาน แต่ทางที่ดีที่สุดคือควรดูเป็นความบันเทิงและต้องใช้ดุลยพินิจและวิจารณญาณ ด้วย.