อยู่บ้านเลขที่ 164/3 ถนนพหลโยธิน ซอย 8 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. และ น.ส.จิดาภา ภูพิลม อายุ 22 ปี ที่อยู่ 456/6 ถนนเพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. อาชีพพริตตี้อิสระ เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ปรีชา ศรีอุดม พนักงานสอบสวน กก.1บก.ป. เพื่อดำเนินคดีกับ บุคคลที่ใช้ชื่อ นภัทร์ หรือ ก้อง เกสรชื่น เจ้าของบัญชีออมทรัพย์ 6992227522 ธนาคารกสิกรไทย ข้อหาฉ้อโกง
น.ส.ศิริรัตน์ กล่าวว่า พวกเราสองคนโดนนายนภัทร์ หรือก้อง หลอกให้โอนเงินเป็นค่าโบท็อกซ์ คนละ 4,000 บาท
เมื่อโอนเงินไปแล้วแต่ไม่ได้รับของที่สั่งซื้อ โดยนายนภัทร์ จะเข้ามาตีสนิทบรรดาพริตตี้ในงานเลี้ยงต่างๆ แล้วสร้างกลุ่มไลน์พริตตี้ขึ้น มีสมาชิกเป็นพริตตี้นับร้อยราย นายนภัทร์ได้แจ้งในกลุ่มไลน์บอกว่ามีสินค้าโบท็อกซ์ ซึ่งสามารถสั่งซื้อสินค้าดั้งกล่าว เมื่อโอนเงินตามบัญชีดังกล่าวแล้ว จะจัดส่งของทางรถตู้เครื่องเย็นไปส่งให้ถึงที่ ซึ่งตนเคยฉีดโบท็อกซ์มาก่อนหน้าแล้ว จากร้านสถานเสริมความงาม แต่ราคาสูงกว่าการสั่งซื้อ แล้วเอาไปให้สถานบริการฉีดให้ จึงตกลงใจสั่งซื้อจากนายนภัทร์ด้วยกัน คนละ 3 ขวด โดยโอนเงินไปตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายวันได้ติดต่อทวงถาม กลับไม่ได้รับคำตอบ แถมนายนภัทร์ปิดโทรศัพท์มือถือ แล้วดึงชื่อพวกเราออกจากกลุ่มไลน์พริตตี้ด้วย
น.ส.ศิริรัตน์ กล่าวต่อว่า เมื่อตนไปงานที่จ้างไปเป็นพริตตี้ เจอหน้าเพื่อนพริตตี้คนอื่น
สอบถามคนอื่นได้ความว่ามีพริตตี้คนอื่นๆ ก็ถูกนายนภัทร์หลอกขายโบท็อกซ์เป็นจำนวนมากหลายสิบคน ซึ่งแต่ละคนจะไปแจ้งความที่สน.และสภ.ใกล้บ้านตัวเอง ส่วนตนมีคนแนะนำว่า ให้มาแจ้งความกองปราบปรามเป็นที่พึ่งได้ จึงมาแจ้งความดังกล่าว เพื่อไม่ให้นายนภัทร์ไปแอบหลอกพริตตี้รายอื่นๆ จะได้ไม่หลงเชื่อแบบเราอีก
ด้าน ร.ต.ท.ปรีชา พนักงานสอบสวน กล่าวว่า เมื่อสอบปากคำผู้เสียหายเบื้องต้น
และตรวจสอบรายละเอียดพบว่า เป็นการกระทำที่เข้าข่ายฉ้อโกง และความผิดเกี่ยวกับการสื่อสารทางสังคมออนไลน์ อยู่ในความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) จะได้ประสานให้ผู้เสียหายไปแจ้งความ เพื่อสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีต่อไป