25 ก.พ.58 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่วัดสันป่ายางหลวง เลขที่ 113 ถนนสันป่ายาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน นายภมร บุญยรัตพันธุ์ อายุ 67 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 26 ถนนเจริญราษฎร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน ไวยาวัจกรประจำวัด พร้อมกรรมการวัด กล่าวถึงกรณีมีคนร้ายขโมยพระพุทธรูปโบราณ จำนวน 4 องค์หายไปเมื่อหลายวันก่อน ยังไม่รู้ว่าคนร้ายเป็นใคร ตอนนี้ต้องการพระพุทธรูปกับคืนมา แต่ละองค์มีคุณค่าทางจิตใจ อยากให้ตำรวจจับคนร้ายได้โดยเร็ว พระพุทธรูปที่หายจากพระวิหาร พระโขงเขียวโขง ภายในวิหารบรรจุพระเครื่องสกุลลำพูน พระเครื่องสกุลต่างๆ และอัฐิธาตุล้วนแล้วแต่หายากไว้เป็นจำนวนมาก สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 22 ก.พ.58. พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร สว.สส.สภ.เมืองลำพูน ร.ต.อ.กิตินันท์ เล็งคิด และ ร.ต.ท.จิราวัฒน์ ประเสริฐศิริกุล พงส.สภ.เมืองลำพูน เข้าตรวจสอบ ภายในอุโบสถพระวิหารพระเขียงโขงทันทีหลังรับแจ้งว่ามีคนร้ายมาขโมยพระพุทธ รูปจำนวนหลายองค์ 1.พระหยกแกะสลัก ปางสมาธิ หน้าตัก 9 นิ้ว ห่วมจีวรที่ทำด้วยเพชร, 2.พระบุเงินปางมารวิชัย, 3.พระบุทองปางมารวิชัย, 4.ช้างแกะสลักจากหินจุยเจีย หายอย่างปริศนา
พระครูปัญญาธรรมวัฒน์(ครูบาอินทร) เจ้าอาวาสวัดสันป่ายางหลวง ให้ปากคำกับฝ่ายงานสืบสวน สภ.เมืองลำพูน ว่า
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 8 ก.พ.58. ขณะที่กำลังติดตั้งประตูกุฏิอยู่ได้เห็นรถกระบะยี่ห้อหนึ่ง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดใต้ต้นไม้ข้างอุโบสถ 5-10 นาทีแล้วขับออกไป คิดว่าเป็นรถช่างที่มาก่อสร้างตบแต่งอุโบสถจึงไม่ได้สนใจอะไร มาเอะใจอีกทีเลยโทรไปถามช่างว่าได้มาที่วัดหรือเปล่า ช่างบอกไม่ได้มาไปรับงาน อยู่ที่จังหวัดอื่น กระทั่งถึงเวลาทำวัตรเย็น โดยพระพระลูกวัด นำพระเณรทั้งหมด 10 รูป รูปเข้ามาทำวัตรเย็นเมื่อเดินเข้ามาภายในอุโบสถสังเกตเห็นพระพุทธรูปดัง กล่าวหายไป จึงให้ตนแจ้งความที่ สภ.เมืองลำพูน เดิมทีพระพุทธรูปทั้งหมดได้ตั้งไว้ในศาลาการเปรียญ เพิ่งจะยกมาวางไว้ที่ในพระวิหารพระเขียวโขงเมื่อตอนเข้าพรรษาปีที่แล้ว เพื่อให้คนที่มาทำบุญได้สักการะ และเปิดประตูหน้าต่างไว้ทุกบาน ไม่คิดว่าจะมีขโมยมาขโมยไปได้ง่ายดาย เพราะพระมีน้ำหนักแต่ละองค์หนักถึง 0.5-1 ก.ก. แต่ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเข้าพรรษาเคยมีขโมยมาขโมยเงินในตู้บริจาคในอุโบสถไปรอบหนึ่งแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งความ ไม่คิดว่าจะมาขโมยพระพุทธรูปไปอีก ซึ่งน่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน มีไม่น้อยกว่า 2 คนขึ้นไป นำรถไปจอดข้างอุโบสถ เมื่อสบโอกาสคนร้ายที่เข้ามาขโมยจึงฉวยโอกาสเข้ามายกพระพุทธรูปออกไปทางด้าน หลังอุโบสถที่เปิดไว้ตลอดเวลาขึ้นรถหลบหนีไป
สำหรับกล้องวงจรปิดที่ทางวัดติดอันเดิมมีประมาณ 10 ตัว หลังจากเงินวัดถูกขโมยหาย เจ้าอาวาสตัดสินใจซื้อเพิ่มใหม่อีก 16 ตัว
กล้องตัวที่ 9 บันทึกไว้ได้ แต่เนื่องจากตั้งระบบบันทึกภาพในระยะเวลา 1 สัปดาห์ และลบภาพทิ้ง เมื่อวันที่ 30 ม.ค.เณรในวัดยังทดลองเครื่องอยู่ พบว่า พระพุทธรูปบังไม่หาย แต่ระหว่างวันที่ 31 ม.ค.-8 ก.พ.กล้องวงจรปิดช่วงที่คนร้ายก่อเหตุได้ เนื่องจากมาดูภาพวันที่ 22 ก.พ.ระบบบันทึกภาพไม่สามารกลับย้อนหลังได้ ทั้งนี้ มูลค่าพระพุทธรูปที่หายไปคาดมากกว่า 20 ล้านบาท สาเหตุที่แจ้งความช้าเป็นเพราะครูบาอินทรกำลังยุ่งกับงานภายในวัด ท่านทราบเรื่องวันที่ 8 ก.พ.แล้วแต่ด้วยที่ท่านงานยุ่งเลยไม่ได้แจ้งความ กระทั่งทางกรรมการวัดและญาติโยมที่รู้ข่าวได้สอบถามท่าน ท่านเลยให้แจ้งความต่อมา ขณะที่ความคืบหน้าของคดีนี้ พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร สว.สส.สภ.เมืองลำพูน ได้เรียกพระสงฆ์ สามเณร และกรรมการวัดมาให้ปากคำเพิ่มเติมอยู่