คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ ไอเดียสุดบรรยาย จ่อของบฯปี 59 ซื้อเข็มฉีดยาแจกจ่ายให้กลุ่มผู้ฉีดสารเสพติดใช้ อ้างลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอดส์ ยันไม่ได้ส่งเสริมให้คนเสพยา

เมื่อวันที่ 8 ก.พ. นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า

จากการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรค ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการติดเชื้อเอชไอวี (เอดส์) ด้วยการรณรงค์ให้ความรู้เรื่องการป้องกันรักษาโรค ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงอุปกรณ์ป้องกันโรค เช่น จัดตั้งตู้หยอดเหรียญซื้อถุงยางอนามัยในสถานศึกษา ทั้งกลุ่มอาชีวะศึกษา และสายสามัญตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นขึ้นไป ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ของปี 2558-2562 โดยให้กระทรวงศึกษาธิการรับไปดูแล เบื้องต้นให้ดำเนินการในสถานศึกษาที่มีความพร้อมก่อน

นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ตั้งงบประมาณปี 2559 ในการจัดซื้อเข็มฉีดยาสะอาดสำหรับกลุ่มผู้ติดยาเสพติดชนิดฉีด
 
เนื่องจากพบว่า กลุ่มนี้มีอัตราติดเชื้อเอชไอวีสูงจากการใช้เข็มฉีดยาปนกัน ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการส่งเสริมให้คนเสพยา แต่เนื่องจากคนกลุ่มนี้ ยังไม่สามารถเลิกยาได้อย่างเด็ดขาด ต้องค่อยเป็นค่อยไป จึงต้องสนับสนุนตรงนี้ ควบคู่ไปกับการใช้สารทดแทนยาเสพติด หรือ "เมทาโดน"

ขณะเดียวกัน นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผอ.มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า โครงการนี้ไม่ใช่การส่งเสริมให้คนเสพยาเสพติด
 
แต่เป็นเพราะคนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีจากการใช้เข็มฉีดยาที่ไม่สะอาด เพราะส่วนใหญ่ใช้เข็มปนกัน หรือให้ใช้ร่วมกัน ทำให้พบคนกลุ่มนี้ติดเชื้อรายใหม่กว่าร้อยละ 47 จึงเป็นเรื่องที่ดีที่ตั้งงบดังกล่าวมาสนับสนุน เนื่องจากเรื่องนี้พูดมาหลายยุคหลายสมัย โดยเฉพาะสมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็ไม่มีการรับเรื่องดังกล่าวมาดำเนินการ ดังนั้นการที่คณะกรรมการเอดส์ฯ พิจารณาเรื่องนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่พูดจริง ทำจริง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังต้องพิจารณาต่อว่าจะกระจายเข็มอย่างอย่างไร คาดว่าเบื้องต้นกรมควบคุมโรคอาจจะนำร่องในบางพื้นที่ และขอความร่วมมือกับผู้ที่เคยใช้สารเสพติด แต่เลิกเด็ดขาดแล้ว ให้มาเป็นอาสาสมัครเข้าไปคุยในชุมชนที่มีกลุ่มใช้สารเสพติดเพื่อชวนเข้าร่วมโครงการ

ด้าน ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า
 
เรื่องการติดตั้งตู้จำหน่ายถุงยางอนามัยในโรงเรียน มีการพูดถึงมานานแล้ว และที่ผ่านมามีบางพื้นที่ได้ทดลองทำวิจัยแล้วด้วย เช่น ที่อำเภอวังน้ำเย็นจังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีสถิติคุณแม่วัยใสสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ทางชุมชนได้หารือร่วมกันทุกฝ่ายเพื่อหาทางแก้ปัญหาดังกล่าวจึงตัดสินใจติดตู้จำหน่ายถุงยางอนามัยในโรงเรียนในพื้นที่ อำเภอวังน้ำเย็น ผลปรากฏว่าสามารถลดจำนวนการตั้งครรภ์ในวัยเรียนได้จริง จากเดิมปี 2556 มีจำนวน 200 คน ปัจจุบันอยู่ที่จำนวน 56 คน

“ก่อนหน้านี้ผมเป็นผู้ที่คัดค้านเรื่องนี้มาตลอดเพราะเห็นว่าเป็นการชี้โพรงให้กระรอก แต่เมื่อเห็นผลวิจัยดังกล่าวรวมทั้งได้ฟังเสียงเด็ก ๆ ที่บอกว่าปัจจุบันกระรอกอยู่ในโพรงอยู่แล้ว จึงคิดว่าการเข้าถึงถุงยางอนามัยให้ง่ายและมีราคาถูก จะเป็นสิ่งที่ช่วยลดปัญหาได้ดีทางหนึ่ง อย่างไรก็ตามขณะนี้สถานการณ์คุณแม่วัยใสเริ่มรุนแรงมากขึ้น และเป็นปัญหาอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยที่รอการแก้ไข ดังนั้นผมจึงคิดว่าเรื่องการติดตั้งตู้จำหน่าย ฯสามารถทำได้ แต่ควรต้องให้ชุมชนได้หารือร่วมกันว่าจะเห็นชอบเรื่องดังกล่าวหรือไม่แต่ทั้งนี้การติดตั้งตู้จำหน่ายฯ คงไม่ใช่วิธีที่จะทำให้ปัญหานี้หมดไปได้เราคงต้องใช้วิธีการอื่นๆ ร่วมด้วย”ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว.