
จากกรณี อธิบดีกรมการปกครองออกหนังสือ เลขที่ มท.0304/ว 1515 ลงวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เรื่องแนวทางการใช้คอมพิวเตอร์และเครื่องมือสื่อสารของทางราชการกรมการปกครอง โดยห้ามใช้คอมพิวเตอร์ราชการ รวมทั้งโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของตนเองเล่นโซเชียลมีเดีย อาทิ เฟซบุ๊ก ไลน์ หรืออีเมล์ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน เนื่องจากที่ผ่านมา มีข้าราชการนำคอมพิวเตอร์ของทางราชการไปใช้เขียนข้อความที่ไม่เหมาะสม จึงต้องออกคำสั่งป้องกันไว้ก่อน
ต่อมา แฟนเพจเฟซบุ๊กชื่อว่า “ทนายคลายทุกข์” ได้นำคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2564/2557 มาเผยแพร่ โดยเนื้อหาเกี่ยวข้องกับลูกจ้างผู้ใช้คอมพิวเตอร์และเครื่องมือสื่อสารในสถานที่ทำงานที่ซึ่งเป็นของนายจ้าง พร้อมข้อความระบุว่า “มีหลายท่านสอบถามมายังทนายคลายทุกข์ว่า ถ้าลูกจ้างแชทหรือเล่นอินเตอร์เน็ตในเวลาทำงานนายจ้างจะไล่ออกจากงานได้หรือไม่ และต้องจ่ายค่าชดเชยหรือไม่ ขอเรียนว่า นายจ้างไล่ลูกจ้างออกจากงานได้ทันที โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า และลูกจ้างเรียกค่าสินไหมทดแทนไม่ได้” สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องดังกล่าวอย่างล้นหลาม
ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ก.พ. นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ วิทยากรฝึกอบรบกฏหมายแรงงาน และเจ้าของแฟนเพจดังกล่าว เปิดเผยว่า ในเวลาทำงานที่ไม่ใช่ช่วงพักรับประทานอาหารกลางวัน ที่กำหนดไว้ประมาณ 1 ชม. ตามกฏหมายแรงงานนั้น หากลูกจ้างเข้าโปรแกรมโซเซียมีเดีย ทั้งคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์สมาร์ทโฟน นายจ้างสามารถพิจารณาไล่ลูกจ้างออกจากงานได้ทันที โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า และลูกจ้างจะเรียกค่าสินไหมทดแทนไม่ได้
“ลูกจ้างควรปฎิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าว ถือเป็นบรรทัดฐานในการดำเนินคดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างอีกด้วย ในทางตรงกันข้าม หากนายจ้างไม่ประสงค์เอาผิด ก็ให้ถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่มีการไล่ออก แต่ต้องขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมองค์กรนั้นๆ ว่าเป็นอย่างไรด้วย มีความจำเป็นหรืออะลุ่มอล่วยได้แค่ไหน" เจ้าของแฟนเพจ เผย



กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday