เมื่อวันที่ 6 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุม นายภูเบศ อารักษ์ อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยาที่ จ.544/2557 ลงวันที่ 17 พ.ย.57 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ขณะที่ นางผึ้ง (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายทราบเรื่อง ได้รีบเดินทางมาดูตัวผู้ต้องหาที่โรงพัก ก่อนจะปรี่เข้าไปด่าทอและตบตีด้วยความโกรธแค้น
สืบเนื่องจาก น.ส.ผึ้ง ได้เข้ามาแจ้งความไว้ว่า นายภูเบศ ได้ข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.หนก (นามสนมมุติ) อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา ซึ่งเป็นลูกแท้ๆของตน และเป็นลูกเลี้ยงของนายภูเบศ โดยเหตุเริ่มจาก ตนประกอบอาชีพทำร้านเสริมสวยอยู่เมืองพัทยา กระทั่งผู้ต้องหามาเปิดสำนักอาศรมอยู่ในพื้นที่อ้างว่าเป็นปู่ฤาษี ตนได้เข้าไปดูดวงเสริมชะตา ก่อนจะติดต่อกันมาตลอดจนถึงขั้นแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราวเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งอุปนิสัยส่วนตัวผู้ต้องหาเป็นคนธรรมะธัมโมมาก ตนจึงเชื่อใจและไว้ใจ ก่อนพาลูกสาววัย 10 ขวบ ที่เกิดกับสามีคนก่อนมาพักอยู่ด้วยกัน จากนั้นช่วงกลางเดือน ต.ค.57 สังเกตุเห็นลูกสาวมีอาการเซื่องซึม ไม่ร่าเริง รวมทั้งมักเก็บกดอยู่ภายในห้องคนเดียว ซึ่งผิดจากนิสัยเดิมมาก จึงเข้าสอบถามเค้นความจริงจนทราบว่า โดนพ่อเลี้ยงบังคับข่มขืนมานานกว่า 3 เดือน ทั้งยังขู่ไม่ให้บอกใครอีก ไม่งั้นจะไม่ส่งเสียค่าเล่าเรียนและไม่ดูแลตนด้วย ทำให้ลูกสาวไม่กล้าบอกเพราะกลัวแม่จะลำบาก พอพาไปตรวจก็พบว่าโดนข่มขืนจริงจึงพาลูกสาวมาแจ้งความ ผู้ต้องหาก็รีบปิดอาศรมและหนีไปเปิดที่พังงาทันที
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธอ้างว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพเป็นครูสอนเทนนิส ก่อนจะมาเปิดอาศรมปู่ฤาษีอิศวรตาทิพย์ รับดูดวงต่อชะตาและทำเสน่ห์ ที่บ้านทุ่งกราด อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ต่อมารู้สึกเบื่อทางโลกจึงปิดสำนักและเดินทางมาศึกษาธรรมะต่อและปักหลักเปิดอาศรมที่พังงา รวมทั้งไม่ได้ข่มขืนกระทำชำเราด้วย