"รองอั๋น" โพสต์โต้ หลังถูกอดีตแฟนสาวไฮโซ "ตั๋ม ลีนุตพงษ์" แฉ ขอ5ล. เพื่อความก้าวหน้าในแวดวงสีกากี
กลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา เมื่อ “ตั๋ม” วิชชุดา ลีนุตพงษ์ ไฮโซสาวทายาทนักธุรกิจใหญ่แห่งวงการยานยนต์ชื่อดังของเมืองไทย โพสต์เฟซบุ๊กแฉอดีตแฟนหนุ่ม “รองอั๋น” พ.ต.ท.อรรถพล อิทธโยภาสกุล รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สน.สุทธิสาร เซเล็บตำรวจสุดหล่อ ที่เลิกรากันเพราะฝ่ายชายขอให้ช่วยเงิน 5 ล้านบาท แต่ฝ่ายหญิงได้ปฏิเสธไป แต่ทั้งนี้ ฝ่ายหญิงเผยว่า ว่าเคยช่วยเหลือเรื่องเงินมาแล้วถึง 1 ล้าน โดยอ้างว่าเพื่อ "ความก้าวหน้าในวงการสีกากี" ของฝ่ายชาย
"เรื่องของเรื่องคือคุณรู้จักดิชั้นได้ไม่ถึงเดือนคุณก็มาถามแล้วว่าถ้าคุณต้องใช้"เงินหลักล้าน" เพื่อขึ้นตำแหน่งผู้กำกับดิชั้นจะช่วยคุณรึป่าว
บอกออกสื่อเหมือนที่บอกกับคุณอย่างไม่อายเลยค่ะว่าตอนนั้นที่ตอบว่า"ช่วย" เพราะคิดว่าคุณเข้ามาเพราะเรื่องเงินตอนนั้นคุณกำลังหล่อกำลังดัง จะไปจีบใครก็ได้ ถ้าตอบว่าไม่ช่วย คุณก็คงเลิกคุย ดิชั้นเลยตอบว่าช่วย
พอคบไปดิชั้นก็เริ่มไว้ใจ หมดความคิดว่าคุณมาเพราะเงิน แต่พอถึงวันนึงที่คุณต้องให้ดิชั้นช่วยด้วยเงิน 5 ล้าน แล้วดิชั้นสารภาพว่าช่วยไม่ได้ เพราะไม่เคยเอาเรื่องอุบาทว์นี้ไปบอกพ่อบอกแม่ หรือแม้แต่บอกเพื่อน คุณก็เลยขอเลิก
แต่ดิชั้นขอสร้างภาพต่อ เพราะไม่รู้จะอธิบายให้ใครฟังยังไงว่าคุณขอเลิกเพราะไม่ได้ 5 ล้าน คือดิชั้นอายแทนที่พอไม่ได้เงิน คุณก็ขอเลิก เลยพยามจะออกสื่อเหมือนไม่มีอะไร ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อไม่ให้โลกรู้ความทุเรศของตัวคุณเองอ่ะแหละ ยังคิดไม่ได้อีก?
ดิชั้นไม่มีเจตนาจะเอาเรื่องจริงของคุณมาเปิดเผย แต่วันนี้เพื่อนดิชั้นเจอคุณกับผู้หญิงโชคร้ายคนใหม่ ดิชั้นไม่ทนแล้วค่ะ ศักดิ์ศรีที่คุณห่วงนักห่วงหนา ขอบอกนะคะว่ามันหมดไปตั้งแต่วันที่คุณมาถามเรื่องเงินแล้วค่ะ ผู้ชายดีๆ ที่ไหนเค้าทำกัน คุณมาสู่ขอดิชั้นกับพ่อแม่ดิชั้นแล้ว ยังมีหน้าไปกะผู้หญิงคนอื่น จิตสำนึกคุณอยู่ไหนคะ
รองอั๋น โพสต์โต้ หลังถูกอดีตแฟนสาวไฮโซ แฉ ขอ5ล. เพื่อความก้าวหน้า
ล่าสุด "รองอั๋น" ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
ขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ ที่เป็นห่วง...
เป็นเรื่องของคน 2 คนที่คบกันแล้วเลิกกันไป แต่ฝ่ายหนึ่งผิดหวังจึงทำลาย
มีคนเตือนฝ่ายชายมากมายเกี่ยวกับเธอ ฝ่ายชายลังเล แต่จะเชื่อเมื่อพิสูจน์ด้วยตนเอง เธอมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดีเหมือนคนทั่วๆ ไป ซึ่งชีวิตคู่นั้นทั้งคู่ต้องยอมรับด้านไม่ดีของซึ่งกันและกันได้ ถึงจะอยู่ด้วยกันในระยะยาวได้
ปัญหาจริงๆ ที่ต้องยุติความสัมพันธ์นั้น คือพฤติกรรมการไม่ให้เกียรติ และการกระทำบางอย่าง (ขอไม่กล่าวถึงที่ทำให้ฝ่ายหญิงเสียหายครับ) รวมถึงอีกมากมายที่วงสังคมเดียวกันกับฝ่ายหญิงรู้ดี เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่สามารถใช้ชีวิตคู่ได้ ไม่ใช่เรื่องเงินตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด
ตรรกะง่ายๆ สิ่งที่เธอกล่าวหาว่าฝ่ายชายต้องการเงินจากเธอ ใครๆ ก็คิดได้ ว่าถ้าต้องการแบบนั้นจริง คงยอมแต่ง แล้วเอาเงิน แต่มันไม่ใช่
ตลอดระยะเวลาที่คบกัน ฝ่ายชายไม่เคยเอาเงินหรือของอะไรจากเธอเลย จะมีแลกของบ้าง ตามปกติของคนคบกัน แม้เธออยากจะซื้ออะไรให้ ฝ่ายชายมักบอกเสมอว่า ไม่เป็นไร สิ่งที่อยากได้ สามารถซื้อเองได้หมด ยืนยันว่าฝ่ายชายไม่เคยขอหรือเอาเงินหรือทรัพย์สินใดๆ ของฝ่ายหญิงแม้แต่บาทเดียว
ตัวฝ่ายชายเองเป็นเพียงคนธรรมดา มีข้อดีและไม่ดีเช่นกัน เมื่อฝ่ายหนึ่งไม่สามารถรับข้อเสียและความเป็นตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายหนึ่งได้ ทั้งคู่ต่างยอมรับและยุติความสัมพันธ์ไป
ทั้งสองคนได้ยุติความสัมพันธ์ช่วงต้นเดือนมกรา ที่ผ่านมา
สำหรับการกล่าวหาฝ่ายชายในเรื่องเป็นเท็จที่ทำให้ฝ่ายชายเสียหาย ฝ่ายชายยอมถูกด่าถูกว่าโดยบิดเบือนข้อเท็จจริงเป็นระยะเวลาหนึ่งโดยไม่ตอบโต้ หวังเพื่อให้จบเรื่องนี้โดยดี ยอมให้ฝ่ายหญิงจบเรื่องนี้อย่างสง่างาม แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมจบ เกิดความเสียหายต่อ ตัวฝ่ายชาย ครอบครัว อาชีพ และบุคคลอื่น
ชีวิตฝ่ายชายมาได้ทุกวันนี้ ยืนยันว่ามาด้วยการทำงานตามปกติไม่เคยเสียเงิน ในการขึ้นตำแหน่งตามที่ถูกกล่าวหาแม้แต่บาทเดียว ทุกคนที่รู้จัก รู้ดี
สิ่งที่ฝ่ายหญิงกล่าวไว้ ถ้าเลิกกัน จะทำลายฝ่ายชายให้ถึงที่สุด ในทุกรูปแบบ เป็นสิ่งที่กำลังโดนโจมตี อย่างหนักหน่วง ซึ่งคำพูดใครจะพูดอะไรก็พูดได้ แต่ขอให้ใช้วิจารณญาณในการรับฟัง