29 ม.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "โมโม่ ออโต้เวิร์ก"
เผยแพร่บทสนทนาระหว่างพระจากวัดธรรมกาย กรณีจัดให้มีการเดินธุดงค์ของพระภิกษุสงฆ์บวชใหม่ เนื่องจากไม่เห็นด้วยหลักปฏิบัติดังกล่าว เพราะทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งยังมีการโต้เถียงกันถึงหลักคำสอนของวัด ซึ่งน่าจะสอนให้พุทธศาสนิกชนรู้จักใช้ปัญหา แต่กลับสอนให้ศรัทธาวัดเพียงอย่างเดียว
ข้อความในเฟซบุ๊กระบุดังนี้
งัดกับคนห่มเหลืองของธรรมกาย ก่อนอื่น ต้องบอกก่อนว่าใครที่รู้จักผมจริงๆ แล้วจะรู้ว่าผมค่อนข้างอารมณ์ค่อนข้างเย็น (ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ นะ สิ่งไหนทำผมขึ้นได้ แสดงว่าสุดจริง)
เอาละ เล่ากันยาวๆ เลย
วันนี้มีขบวนเหยียบกลีบดอกไม้โชว์เดินผ่านหน้าร้าน เริ่มแรกก็มีเด็กและคนแก่มานั่งจับจองที่หน้าร้านที่ผมมาทำงานอยู่ มีเด็กผู้หญิงมาขอนั่งหน้าร้านด้วยวาจาสุภาพ ถึงไม่ยินดีแต่ก็ไม่ถึงกับไล่ไม่ให้นั่ง ซักพักเริ่มมาเติมทั้งผู้ใหญ่ คนหนุ่มสาว แล้วก็แน่นอนคนแต่งกายเป็นพระ ที่ได้ยินพวกที่มานั่งเรียกว่า อาจารย์
พอดีได้ยินคนแต่งแบบพระ สอนคนนั่งฟังว่า เราต้องสร้างอันนี้นะเพราะบนสวรรค์ ไม่มีเซเว่นอีเลเว่น แน๊ะ!ผมสะดุดกับการสอน จนต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเลย พอดีกับกลุ่มคนนั้นมองกันมา คนที่ดูเหมือนพระก็เดินเข้ามาเปิดการสนทนาเลย (ผมเรียกเค้า ท่าน)
ท่าน : "คุณโยม ที่นี่ขายส่งไม๊"
ผม : "ที่นี่ขายล้อแม็ก ยาง ช่วงล่างครับ" (ถูกป่ะล่ะ)
ท่าน : "คุณโยมวันนี้จะมีขบวนธรรมยาตรา เดินผ่านนะเป็นพระที่บวชในโครงการ บวชแสนรูป ปีนี้จะมากกว่าปีที่แล้ว มีหนึ่งพันสามร้อยกว่ารูป ปีที่แล้วก็มานะ"
ผม : "ปีที่แล้วมาวันอาทิตย์ รถเลยติดน้อยกว่านี้ เดินนี่เพื่ออะไรเหรอครับ"
ท่านหน้าเปลี่ยน : "มีโยมมากมายบอกว่าไม่เคยเห็นพระ (ผมหลุดหัวเราะ โถ เมืองพุทธ) มีนะโยม มีคนขอให้ช่วยมาเดินด้วย (ถ้ามีจริง ไอ้นี่ก็น่าด่า) โยมอาจจะถามว่า ทำไมไม่เดินในป่ามาเดินในเมือง เดินในเมืองมันได้แค่ความอดทน แต่ถ้ามาเดินนี่ญาติโยมก็เกิดศรัทธา ได้บุญไปด้วย" ท่านตั้งการ์ด
ผม : "แล้วคิดว่ามาเดินอย่างนี้ได้บุญไม๊ครับ"
ท่าน : "ทำอะไรคิดถึงบุญก็ได้บุญ คิดบาปก็ได้บาปน่ะ" ท่านสวนกลับ
ผม : "เหรอครับแล้วที่คนเดือดร้อนนี่ถ้าจะบอกว่า พระที่มาเดินแล้วมีคนเดือดร้อนกันเป็นวงกว้างนี่ รูปไหนคิดถึงบุญก็ได้บุญ เกิดคนไหนคิดได้ว่า เฮ้ยนี่คนเค้าเดือดร้อนนี่ พระรูปนั้นก็เดินไปทำบาปไปใช่ไม๊ครับ"
ท่าน : "บาปส่วนบาป บุญส่วนบุญสิ (หลังๆ นี่เริ่มมีอารมณ์ เริ่มพลาด) เดี๋ยวนะเมื่อกี้เห็นถ่ายรูปอาตมา ขอถ่ายบ้างนะ (แช๊ะ)
ผม : "ได้เลยครับ (ยกนิ้วโป้งทำหน้าหล่อ) ที่ผมถ่ายนี่ผมคิดว่าท่านออกมากันนี่ ก็อยากให้คนเห็นมากๆ อยู่แล้ว ถูกไม๊ครับ งั้นท่านจะบอกว่าที่มาเดินๆ นี่ ทำบุญไปด้วย พร้อมกับทำบาปไปด้วย แล้วจะมาเดินทำไมล่ะครับ ท่านยอมรับไม๊ว่ามีคนเดือดร้อน"
ท่าน : "มันก็มี มันก็เหมือนที่เค้ามาชุมนุมกัน ก็ต้องมีคนเดือดร้อนบ้าง บอกแล้วไงว่าคิดบุญได้บุญ"
ผม : "อย่างนี้ท่านไปปิดราชประสงค์หรือราชดำเนินจัดงานไปเลยล่ะครับ ถ้าคิดว่าคิดดีได้บุญ ใครจะเดือดร้อนก็แค่ไม่สนก็ไม่บาปแล้ว"
ท่าน : "ใครมันจะไปคิดแบบนั้น"
ผม : "ก็ท่านบอกผมแบบนั้น ถ้าแบบนี้ทำได้ แบบนั้นก็ต้องทำได้สิ ถูกไม๊ครับ (ท่าน......) ผมบอกเลยก็ได้ว่าผมไม่เห็นด้วย คนไม่ชอบก็เยอะ น่าจะมีวิธีสอนอย่างอื่นแบบที่พระพุทธเจ้าสอน นี่ให้คนศรัทธาอย่างเดียว แทนที่จะสอนตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน มีความทุกข์ทำยังไง สิ่งไหนควรทำ สิ่งไหนควรละ พระพุทธเจ้าสอนแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ท่านมาอยู่ตรงนี้ก็ออกมาในฐานะตัวแทนพุทธศาสนา น่าจะสอนอย่างให้ใช้ปัญญา ไม่ใช่ให้แต่ศรัทธา เพราะศาสนาอื่นก็ให้ศรัทธาให้เชื่อมากๆ แต่พาไปทางไหนมันอีกเรื่องนึง สอนให้ใช้ปัญญาสิ ผมพูดถูกไม๊
ท่าน : "เอาล่ะเอาเป็นว่าอาตมาขอโทษแทนพระเดชพระคุณหลวงพ่อแล้วกันนะ"
ผม : "ขอโทษนะผมรู้แล้ว ป้ายก็แขวนอยู่โน่น แต่ผมจะบอกว่าไม่ทำดีกว่าไม๊ ผมรักศาสนาพุทธ ใครมองเห็นท่านใส่เหลืองอย่างนี้ ใครก็คิดว่าเป็นพระ ที่พาคนมามากๆ อย่างนี้ก็อยากให้ใครเห็นว่า คนเชื่อเยอะนะ มาเชื่ออย่างเราสิ ผมไม่อยากให้คนเข้าใจไปในทางที่ผิด อยากให้สอนคำสอนที่เป็นคำสอนไม่ใช่อย่างนี้"
ท่าน : เพิ่งรู้ว่ามีโยมคิดอย่างนี้ จะเอาไปเข้าที่ประชุม (ผม ถถถถถถ) จากนั้นเป็นการเลี่ยงไปถามผมเรื่องอื่น และวกมาแงะกันประปราย แล้วแยกกันไปเพราะหัวขบวนมันจะมาแล้ว เดี๋ยวมันยิงแสงใส่ ไปล่ะ