ทั้งนี้ เนื่องจากอัตราค่าโดยสารมิเตอร์แท็กซี่ ที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดนั้นต่ำเกินไป ไม่สะท้อนต้นทุน ที่แท้จริง หากกระทรวงคมนาคมไม่อนุมัติตามข้อเสนอ แท็กซี่ขนาดใหญ่ในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีอยู่ 1,700 คัน จะทยอยหยุดวิ่ง เพราะแบกภาระขาดทุนต่อไปไม่ไหว ซึ่งกระทรวงคมนาคม อาจต้องแก้ปัญหา ด้วยการไปหารถลีมูซีนมาวิ่งให้บริการ รับ-ส่งผู้โดยสารแทน ซึ่งผลจากกรณีค่าโดยสาร ที่ไม่เป็นธรรมสะสมมายาวนานกว่า 10 ปี ทำให้แท็กซี่ในสนามบินสุวรรณภูมิน้อย โดยเลิกวิ่งไปแล้วถึง 300 คัน ทำให้ปัจจุบันเหลือแท็กซี่ วิ่งให้บริการประมาณ 1,700 คัน เท่านั้น
ด้านพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงรับข้อเสนอทั้ง 3 ข้อ ของแท็กซี่ไว้พิจารณาแล้ว คาดว่า จะสรุปรายละเอียดให้ความช่วยเหลือในวันที่ 29 ม.ค.นี้ โดยจากการพิจารณา ข้อเสนอการขึ้นค่าธรรมเนียม รถแท็กซี่ 5 ประตูนั้น เป็นเรื่องที่ฟังขึ้น และมีเหตุผลเพียงพอ หากกระทรวงจะปรับขึ้นค่าธรรมเนียมให้ ส่วนข้อเสนอเรื่องการคิดค่าขนสัมภาระ เมื่อดูจากข้อเท็จจริง น่าเห็นใจแท็กซี่มาก เพราะมีผู้โดยสารไม่น้อยที่บรรทุกสัมภาระเกิน 4 ใบ และมีน้ำหนักมากกว่าปกติ จำเป็นต้องเลือกใช้บริการแท็กซี่ 5 ประตู ซึ่งน้ำหนักบรรทุกที่มากขึ้น ก็ทำให้อัตราการกินน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นด้วย
ส่วนกรณีที่แท็กซี่ขู่ว่า จะหยุดวิ่งหากกระทรวงไม่ยอมตามข้อเสนอนั้น เข้าใจว่าแท็กซี่เป็นอาชีพอิสระ หากหยุดวิ่งคงไม่ผิดกฎหมาย แต่ขอให้คิดถึงประโยชน์ส่วนรวม และหน้าตาของประเทศด้วย เพราะหากให้บริการดี นักท่องเที่ยวก็จะเข้ามาใช้บริการมากขึ้น และเกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
