แฉโจ๋คลิก ´เซ็กซ์´ ยอดฮิต 5.8 ล้านหน

นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานอนุกรรมการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 27 พ.ค.

ภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ว่า

คณะกรรมกรรมสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ซึ่งมีนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อร่วมรณรงค์ส่งเสริมสื่อที่เป็นประโยชน์ และควบคุมสื่อรุนแรงลามกอนาจารขึ้นมาทั้งหมด 3 ชุด

มีหน้าที่สำคัญ คือ ร่วมรณรงค์สร้างสรรค์สื่อที่ปลอดภัย

และจัดกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อการรู้เท่าทันสื่อที่ไม่เหมาะสมจากการประชุมครั้งแรกพบว่า ปัจจุบันเยาวชนเข้าถึงสื่อลามกทางอินเตอร์เน็ต โดยมีการค้นหาคำว่า เซ็กซ์ ในอินเตอร์เน็ตสูงถึง 5.8 ล้านครั้งในปี 2549 และในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เพียงเดือนเดียวมีการค้นหาแล้วสูงถึง 5 แสนกว่า ครั้ง

นอกจากนี้ ศูนย์รวมสถิติเว็บไทยและสารบัญเว็บไทย

(www.truehits.net) ได้แสดง 20 คีย์เวิร์ดที่ถูกเยาวชนไทยอายุต่ำกว่า 25 ปี เข้าค้นหามากที่สุด

โดยมี 5 อันดับแรกคือ

- 1.เกมส์ 8,617,347 ครั้ง
- 2.ดูดวง 4,387,695 ครั้ง
- 3.ฟังเพลง 3,669,709 ครั้ง
- 4.แอบถ่าย 2,483,807 ครั้ง
- 5. มือถือ 2,269,648 ครั้ง

เป็นเหตุให้เยาวชนถูกล่อลวง มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม และเสี่ยงกับการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร

ปลัด ศธ.กล่าวอีกว่า จากปัญหาดังกล่าวทางคณะอนุกรรมการฯ

จึงได้กำหนดแนวทางในการแก้ปัญหาไว้ 3 ประการ คือ

- ประการแรก

รวบรวมกิจกรรมและโครงการของทุกหน่วยงานที่รณรงค์หรือพัฒนาสื่อที่เหมาะสมสำหรับเด็ก เพื่อนำไปสู่การสนับสนุนให้แพร่หลายและเข้าถึงเยาวชนตลอดจนประชาชนมากขึ้น

- ประการที่สอง

ใช้ยุทธศาสตร์ในการดำเนินงาน โดย

- 1.เน้นเปิดโอกาสให้เด็กได้ แสดงออกและผลิตสื่อที่เหมาะสม

- 2.เน้นกลุ่มเป้าหมายเด็ก โดยจัดติวหรือสอนเสริมเป็นรายวิชา ผู้ปกครองสร้างสื่อช่วยสอนการบ้าน และครูช่วยผลิตสื่อที่สร้างสรรค์

- 3.เน้นรูปแบบของสื่อในระยะแรกเป็นสื่ออินเตอร์เน็ต

ทำงานร่วมกับ 5 เว็บไซต์ ได้แก่

- เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ (www.sema.go.th)

- เว็บไซต์กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (www.icthousekeeper.com)

- เว็บไซต์คณะกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ (www.mediacommunity.com)

- เว็บไซต์เครือข่ายผู้ปกครองออนไลน์ (www.thaisavenet.org)

- เว็บไซต์คณะนิเทศศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ (www. tmlc.info.th)

ประการสุดท้าย มีการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น

จัดเวิร์กช็อป เน็ตติ้ง ทิงนองนอย ท้าทายวัยโจ๋ จัดประชุมโฟกัสกรุ๊ป ผู้รู้เพื่อทำหลักสูตรการใช้คอมพิวเตอร์ที่เหมาะสม จัดประชุมเด็กค้นหาสุดยอดเว็บไซต์ดีเด่น 100 รายการ

จัดทำบล็อกชุมชนวิชาการของเด็ก

จัดทำอีบุ๊กนิทานคุณธรรม เป็นต้น โดยโครงการดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากบริษัทไมโครซอฟต์ บริษัทอินเทลอินไซต์ และเว็บไซต์กระปุกดอทคอม (www. kapook.com)

ด้าน ศ.นพ.ประเวศ วะสี คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ

กล่าวถึงการทำงานของศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ว่า ในฐานะที่เป็นกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ รู้สึกชื่นชมการทำงานของศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมที่ผ่านมา

เนื่องจากสามารถจัดการเฝ้าระวังสังคมไทยให้พ้นจากความเสื่อมได้

ทั้งในเรื่องปัญหาการแสดงและการแต่งกายนุ่งน้อยห่มน้อยของโคโยตี้ และการแต่งกายที่ไม่เหมาะสมของนักศึกษาในวัดโพธิ์ การแก้ไขปัญหาสื่อลามก การต่อต้านการถ่ายภาพนู้ดเพื่อการกุศลของเหล่าบรรดานางแบบและไฮโซที่มีชื่อเสียง จนทำให้การถ่ายนู้ดดังกล่าวต้องยอมถอย

ที่สำคัญการดำเนินการดังกล่าวได้รับกระแสการตอบรับ

ในเชิงบวกจากสังคมเป็นอย่างดี โดยจะเป็นกำลังใจให้ศูนย์เฝ้าระวังสามารถจัดการปัญหาต่างๆ บรรลุผลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งคิดว่าจากนี้ไปศูนย์เฝ้าระวังฯจะมีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น และไม่ได้ทำงานเพียงลำพังอีกต่อไป เพราะศูนย์เฝ้าระวังฯได้ปลุกให้ประชาชนตื่นตัว ที่จะร่วมเป็นเครือข่ายเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังความเบี่ยงเบนที่เกิดขึ้นกับสังคมได้

อย่างไรก็ตาม อยากให้ศูนย์เฝ้าระวังฯ

รับฟังกระแสในเชิงลบที่อาจตามมาด้วย เนื่องจากความคิดของคนมีทั้งยอมรับและคัดค้าน ดังนั้นการทำงานจึงต้องอาศัยการเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติ และมีปฏิสัมพันธ์กับประชาชนให้มาก เพื่อสร้างความเข้าใจและแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างถูกต้อง

ขณะที่ น.ส.อุษาสินี ริ้วทอง เจ้าหน้าที่องค์การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการสาธารณสุข (PATH)

เปิดเผยว่า จากสถิติ การเข้ามาใช้ข้อมูลในเว็บไซต์ www.teenpath.net พบว่า กลุ่มวัยรุ่นส่วนใหญ่เข้ามาตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับปัญหา การมีเพศสัมพันธ์และความกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ ค่อนข้างมาก จากการประมวลกระทู้คำถามตั้งแต่เดือนมิถุนายน-ธันวาคม 2549 พบว่า

คำถามที่ถามมามากที่สุด คือ การตั้งครรภ์ของวัยรุ่นหญิง ซึ่งผู้ตั้งกระทู้ส่วนใหญ่มีความกังวลว่าจะตั้งครรภ์อันเนื่องมาจากการไม่ได้ป้องกัน และการมีเพศสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าวัยรุ่น ไม่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องเพศอย่างเพียงพอ และขาดโอกาสเรียนรู้เพศศึกษาที่รอบด้านก่อนการมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้น

องค์การพาธจึงจัดโครงการเพศศึกษาเพื่อเยาวชน

ก้าวย่างอย่างเข้าใจ โดยใช้สื่อประชาสัมพันธ์ โปสเตอร์ และโปสการ์ด และเว็บไซต์ www.teenpath.net เพื่อประชาสัมพันธ์ให้เยาวชนและคนทำงานกับเยาวชนทราบถึงแหล่งข้อมูลที่ทุกคนสามารถเข้าไปศึกษาหาความรู้ เรื่องเพศที่น่าเชื่อถือและรอบด้าน

รวมทั้งแนะนำหนังสือสำหรับผู้ปกครอง

เพื่อช่วยให้เข้าใจวิถีชีวิตวัยรุ่นในปัจจุบัน ส่วนครูอาจารย์หรือผู้บริหารสถานศึกษาที่สนใจจะนำเรื่อง เพศศึกษาไปปรับใช้ภายในโรงเรียน สามารถดาวน์โหลดร่างคู่มือการจัดกระบวนการเรียนรู้เพศศึกษาได้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ