เจ้าอาวาสวัดถ้ำสิงโตทอง จ.ราชบุรี บุกร้องศูนย์ดำรงธรรมให้ช่อยตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีถูกเอกชนรุกล้ำที่ดินวัดด้วยการออกโฉนดทับที่ และยังยิงปืนส่งเสียงดังลักษณะเป็นการข่มขู่
เมื่อวันที่ 13 ม.ค. พระครูภาวนาโชติคุณ เจ้าอาวาสวัดถ้ำสิงโตทอง หมู่ 11 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี
ได้เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ราชบุรี เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบแนวเขตที่ดินของวัดถ้ำสิงโตทอง ที่ถูกเอกชนเข้ามาออกโฉนดทับพื้นที่วัด และยังถูกยิงปืนข่มขู่ด้วย โดย พระครูภาวนาโชติคุณ กล่าวว่า วัดถ้ำสิงโตทองเป็นวัดที่พระราชสังวราภิมณฑ์ หรือหลวงปู่โต๊ะ พระเกจิดังแห่งวัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร ได้มาทำการสร้างวัดตั้งปี 2509 โดยลูกศิษย์ของหลวงปู่โต๊ะได้ร่วมกันซื้อที่ดินบริเวณนี้ถวายให้สร้างวัดจำนวน 83 ไร่ และเดิมพื้นที่เป็นป่า ซึ่งทางวัดได้ใช้ในการจัดให้พระมาอยู่ปาริวาสกรรม หรือ การปฎิบัติธรรม ซึ่งจะสงบเงียบ แต่ต่อมาเมื่อปี 2557 ได้มีเอกชนรายหนึ่งเข้ามาซื้อดินแปลงที่ติดกับพื้นที่ของวัดประมาณ 100 ไร่ และได้ทำการออกโฉนดมารุกล้ำที่ดินของวัดลึกเข้ามาประมาณ 40 เมตร ความยาวตลอดพื้นที่ประมาณ 300 เมตร และทำการไถกลบทางสาธารณะจนหายไปหมด ซึ่งทางวัดได้แย้งไปยังที่ดิน อ.จอมบึง ที่ทำการออกโฉนดให้ ว่าโฉนดดังกล่าวนั้นรุกล้ำเข้ามาในที่ดินของวัด แต่ทางเจ้าหน้าที่ดินก็อ้างว่า ได้ทำการออกโฉนดตามเอกสารหลักฐานของผู้ซื้อ และทางที่ดินก็ไม่ได้แจ้งให้พื้นที่ข้างเคียงมาทำการตรวจสอบแนวเขตในวันที่มีการรังวัดที่ให้กับเอกชนรายนี้
พระครูภาวนาโชติคุณ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ได้ขอให้มีการตรวจสอบแนวเขตใหม่ จนทำให้เกิดมีปัญหากับผู้ซื้อที่ดินดังกล่าว
และมีเสียงปืนดังขึ้นเป็นประจำที่บริเวณด้านหลังวัดซึ่งอยู่ในพื้นที่ของผู้ซื้อ แต่ทางผู้ซื้อก็อ้างว่าเป็นแค่ประทัดยักษ์ และล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ทางวัดได้ทำการล้อมรั้วลวดหนามในบริเวณพื้นที่อีกแปลงหลังได้ทำการซื้อมา ซึ่งพื้นที่นั้นอยู่ติดกับแปลงของเอกชน แต่ก็ถูกร้องคัดค้านไม่ให้มีการล้อมรั้ว โดยทางอำเภอจอมบึงได้สั่งให้ระงับการล้อมรั้วไว้ก่อน เนื่องจากทางพื้นที่ข้างเคียงที่มีปัญหากับวัดนั้นได้ไปร้องคัดค้าน จึงต้องระงับการล้อมรั้วไว้ และในช่วงกลางคืนก็ได้ยินเสียงอาวุธปืนดังขึ้นมากกว่า 10 นัดในพื้นที่ติดกัน และในขณะนั้นมีพระสงฆ์กว่า 150 รูป กำลังนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมอยู่ ลักษณะคล้ายการยิงข่มขู่ จึงเกรงว่าอาจจะเป็นการรบกวนพระที่มาอยู่ปาริวาสกรรม จึงได้เดินทางมาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม เพราะเกรงว่าต่อไปอาจจะไม่ปลอดภัย และอยากให้ทางศูนย์ดำรงธรรมได้ดำเนินการช่วยตรวจสอบแนวเขตที่ดินของวัดที่ถูกรุกล้ำด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของศูนย์ดำรงธรรมได้รับเรื่องไว้ และจะแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการโดยด่วน.