มีการทารุณกรรมสุนัข พร้อมทั้งมีพฤติกรรมการแล่เนื้อสุนัขออกจำหน่าย ทั้งนี้ได้ขยายผลมาจากการแจ้งเบาะแสของ "WATCHDOG THAILAND" ที่ได้ประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันป่าตอง ภายหลังมีการโพสต์ภาพของการแล่เนื้อสุนัขและเมนูอาหารเนื้อสุนัขในเฟซบุ๊กที่ชื่อ "ตันติ่ม เชียงใหม่" ทางพ.ต.ท.สัมพันธ์ ศิริมา รักษาราชการแทน ผกก.สภ.สันป่าตอง จึงเร่งดำเนินการสืบสวนขยายผลพร้อมทั้งจับกุมผู้ต้องหาได้ในที่สุด
ส่วนบ้านที่เกิดเหตุพบนายนิคม ไชชมชื่น อายุ 53 ปี เจ้าของบ้าน บริเวณข้างบ้านพบสุนัขถูกขังอยู่ในกรงขนาดคับแคบจำนวน 1 ตัว พบมีดและเขียงพร้อมอุปกรณ์ที่เตรียมแล่เนื้อสุนัขอีกจำนวนหนึ่ง และจากการสอบสวนนายนิคมได้ยอมรับสารภาพว่าได้นำสุนัขตัวดังกล่าวมาจาก จ.ลำพูน เนื่องจากสุนัขตัวดังกล่าวมีนิสัยดุร้าย ทางเจ้าของจึงไม่ต้องการเลี้ยงและมีสุนัขอยู่หลายตัวแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายนิคม ไปสอบสวนพร้อมทั้งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ร.ต.ท.วงกช วณิชวงศ์ ร้อยเวร สภ.สันป่าตอง ระบุว่า จากการสอบสวนนายนิคม ยอมรับสารภาพว่าเคยนำเนื้อสุนัขออกจำหน่ายเป็นบางครั้ง หากมีใครมาซื้อก็จะทำออกขาย แต่ไม่ได้ทำเป็นประจำหรือไม่ได้ทำเป็นอาชีพ บางครั้งหากเนื้อสุนัขเหลือก็จะแจกจ่ายญาติและคนรู้จัก ซึ่งพฤติกรรมจะเป็นแบบชาวบ้านไม่ได้ทำเป็นธุรกิจการค้าเนื้อสุนัข แต่ขณะนี้ได้แจ้งข้อหากระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควรแล้ว ส่วนสุนัขนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำไปไว้ที่ด่านกักกันสัตว์ จ.เชียงใหม่แล้ว
ตัวแทนองค์กรเครือข่ายประชาชนต่อต้านการค้าสุนัขข้ามชาติและการทารุณกรรม หรือ WATCHDOG THAILAND (WDT) ที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ ได้ระบุว่า ทุกวันนี้มีพลเมืองดีแจ้งเหตุสุนัขและแมวถูกทารุณกรรมรวมถึงเรื่องของการค้าสุนัขมายังองค์กรทุกวัน ซึ่งบางส่วนองค์กรจะสืบและดำเนินการตามกฎหมาย เช่น กรณีจับกุมผู้ค้าเนื้อสุนัขที่ อ.สันป่าตอง ทางองค์กรได้สืบและประสานไปยังเจ้าห้นาที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาและช่วยชีวิตสุนัขได้ 1 ตัว และการช่วยเหลือสัตว์ทางองค์กรได้ช่วยเหลือมาตลอดกระทั่งปัจจุบันการค้าสุนัขข้ามชาติและการค้าปลีกแบบชาวบ้านก็ได้ลดลงมาก อีกทั้งเมื่อมีพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 ที่ประกาศเมื่อ 26 ธ.ค.2557 ยิ่งทำให้ผู้ค้าสุนัขและการทารุณสุนัขน้อยลง และทางองค์กรจะใช้กฎหมายนี้ในการขยายผลคดีให้มากขึ้นจากรายเล็กรายน้อยไปจนถึงผู้ค้ารายใหญ่รวมถึงผู้ส่งออก
ทั้งนี้อยากฝากถึงประชาชนที่รักและห่วงใยสัตว์ต้องช่วยกันดูแลสัตว์และศึกษากฎหมายใหม่ที่ออกมา ซึ่งหากพบการทารุณกรรมสัตว์ซึ่งหน้าก็สามารถเข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เลย อย่าคิดว่าธุระไม่ใช่ เพราะหากนำมาแจ้งทางองค์กรหรือโพสไว้ในเฟซบุ๊กกว่าจะมีอาสาสมัครขององค์กรไปช่วยดำเนินการอาจทำให้สุนัขตัวนั้นเสียชีวิตแล้วก็เป็นได้