น้องโวยสื่อ ยันพี่สาวไม่ได้ตกหน้าผาเพราะ เซลฟี่

เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ศาลา 3 วัดไพชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร หมู่ 15 ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสวดอภิธรรมศพ นางนวรัตน์ บวรภัทร์ อายุ 54 ปี เศรษฐินีเจ้าของบริษัทเครนชื่อดังใน จ.ปทุมธานี ที่พลัดตกจากผาเสียชีวิตที่ประเทศภูฏาน ในวันนี้กลุ่มญาติพี่น้องของ นางนวรัตน์ ได้ช่วยกันตระเตรียมงานสวดอภิธรรมศพในคืนนี้ ซึ่งเป็นคืนที่ 2 โดยที่หน้าศพทางญาติได้นำรูป นางนวรัตน์ ที่ถ่ายขณะไปทำบุญที่ประเทศอังกฤษมาตั้งหน้าศพด้วย นอกจากนี้ได้มีการจัดดอกไม้สดตกแต่งให้สวยงาม และมีผู้นำพวงหรีดมาร่วมไว้อาลัยจำนวนมาก บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ด้าน นายวุฒิบวร จิรภัทร์ อายุ 54 ปี สามีของ นางนวรัตน์ เปิดเผยว่า ภรรยาเพิ่งเคยเดินทางไปที่ประเทศภูฏานเป็นครั้งแรก โดยไปร่วมทำบุญกับกลุ่มเพื่อนๆ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 3 ม.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ภรรยาเสียชีวิต ขณะนั้นตนกำลังกินข้าวอยู่ในบ้านพัก จู่ๆก็เกิดสำลักอาหารอย่างรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังจากนั้นสักพักเพื่อนของภรรยาที่ไปเที่ยวแสวงบุญด้วยกันได้โทรศัพท์มาบอกว่า นางนวรัตน์ ได้พลัดตกภูเขาเสียชีวิตแล้ว จึงเหมือนกับเป็นลางบอกเหตุ

นายวุฒิบวร กล่าวต่อไปว่า ส่วนสาเหตุการตกหน้าผาของภรรยานั้นยังไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร ที่มีข่าวออกมาว่าพลัดตกหน้าผาเพราะการถ่ายภาพเซลฟีนั้นตนก็ยังไม่ทราบแน่ชัด เพียงแต่เพื่อนภรรยาโทรมาบอกว่าเหตุเกิดขณะที่กำลังเดินลงเขาเพื่อไปกินข้าว และทางเดินที่ลงมาช่วงนั้นมีความกว้างแค่ 40-50 ซม.เท่านั้น อย่างไรก็ตามต้องรอสอบถามเพื่อนของภรรยาอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตนก็ไม่ได้ติดใจอะไร เชื่อว่าน่าจะเป็นอุบัติเหตุ และตนยังเชื่อด้วยว่าคงเป็นเพราะถูกกำหนดมาแล้วว่าที่แห่งนั้นน่าจะเป็นสถานที่ของเขามากกว่า ภรรยาถึงได้มาจบชีวิตลงตรงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ทั้งนี้ปกติแล้วภรรยาของตนเป็นคนใจบุญ ชอบทำบุญมาโดยตลอด และได้เป็นโยมอุปัฏฐากวัดหลายแห่ง ก่อนหน้านี้ก็เดินทางไปทำบุญที่ประเทศจีน และเมื่อวันที่ 9 พ.ย. ปีที่แล้วก็ได้นำลูกชาย 2 คนไปอุปสมบทที่วัดธรรมรัตน์ ต.บ้านเพ จ.ระยอง ส่วนลูกสาวคนเดียวก็ได้บวชชีพราห์มที่วัดนี้ด้วย แต่ขณะนี้พระลูกชายทั้งสองก็ยังไม่ได้สึกออกมา มีเพียงลูกสาวที่กลับมาช่วยงานที่บ้านเพียงคนเดียว โดยครอบครัวจะตั้งสวดอภิธรรมศพ นางนวรัตน์ ไปจนถึงวันที่ 9 ม.ค. และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 10 ม.ค. นี้ ต่อไป

ด้าน น.ส.แอล (นามสมมติ) น้องสาวของ นางนวรัตน์ ก็ยืนยันว่า ก่อนหน้านี้ทราบว่าพี่สาวได้เดินทางไปภูฏานเพื่อแสวงบุญ ซึ่งซื้อแพ็คเกจทัวร์ไปกับเพื่อนอีก 4 คน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ จนต่อมาพลัดตกเขาเสียชีวิต แต่ส่วนตัวยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ โดยจะรอผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการต่อไป อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่าพี่สาวไม่ได้ถ่ายรูปเซลฟี่ตามที่เป็นข่าว เพราะพี่สาวเป็นคนธรรมะธัมโม ไม่ชอบถ่ายภาพเซลฟี่ และไม่เล่นเทคโนโลยีที่ทันสมัย จึงขอวอนให้สื่ออย่าพาดหัวข่าวหรือวิพากษ์วิจารณ์ที่ทำให้พี่สาวได้รับความเสียหายอีกเลย

"ไม่รู้ว่าเป็นอุบัติเหตุจริงๆไหม ต้องรอเจ้าหน้าที่มายืนยันอีกที แต่เขาไม่ได้เซลฟี่แน่นอน เพราะคนธรรมะธัมโม ไม่ชอบเซลฟี่ ไม่ชอบอัพรูป ไม่มีไลน์ ไม่มีเฟซบุ๊ก เล่นเทคโนโลยีอะไรก็ไม่เป็น แม้จะใช้สมาร์ทโฟนก็ตาม ทุกคนในครอบครัวยังทำใจไม่ได้ ยิ่งมาเจอพาดหัวข่าวพร้อมคำวิจารณ์ในโซเชี่ยลอีก ยิ่งน้อยใจ แต่พยายามคิดในแง่ดีว่าพี่สาวได้เสียชีวิตในดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแล้ว" น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าว