เจ้า หน้าที่จับกุมผู้ต้องหาประกอบด้วย นายวากาสอูรเรห์มาน อาคุนซาดา อายุ 22 ปี ลูกครึ่งพ่อปากีสถาน แม่ไทย สัญชาติไทย และนายซาฮิด มูฮัมหมัด อายุ 46 ปี ชาวปากีสถาน จากนั้นประสานสถานทูตเนปาลมาร่วมตรวจสอบ ต่อมาทางสถานทูตได้ขอบคุณการทำงาน ของเจ้าหน้าที่ไทย
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ยังมี ผู้ต้องหาที่ไหวตัวทันหลบไปได้อีก 3 คน นำโดยนายอาลี อัมเหม็ด อายุ 18 ปี ชาวปากีสถานเป็นหัวโจก ส่วนอีก 2 คนเป็นชาวเนปาล และอินเดีย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
จาก การสอบสวนเบื้องต้น 2 ผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้ ทราบว่ากลุ่มผู้เสียหายเรียนอยู่มหาวิทยาเอแบค โดยรู้จักกับแก๊งผู้ต้องหา เนื่องจากบางส่วนเป็นชาวเนปาลด้วยกัน และเป็นรุ่นพี่ที่เอแบค ก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้ต้องหาวางแผนอุ้มเรียกค่าไถ่ 3 ผู้เสียหาย โดยเมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 19 ธ.ค.ได้ถูกนายอาลีกับพวกออกอุบายชักชวนเหยื่อทั้ง 3 คนออกจากหอพักเอฟ.ซี.เพลส ไปเที่ยวเดโมผับ ย่านทองหล่อ กทม.โดยพาขึ้นรถแท็กซี่แล้วนำตัวไปกักขังที่บ้านในหมู่บ้านเพอร์เฟ็กต์เพลส ย่านร่มเกล้า
จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้ใช้มีดจี้คอแล้วใช้ ผ้าและเชือกมัดมือเท้าและผูกตา กักขังไว้ในห้องบนชั้น 2 ก่อนบังคับให้เหยื่อทั้ง 3 คนโทรศัพท์ติดต่อไปหาพ่อแม่ที่เนปาล เพื่อเรียกค่าไถ่คนละ 3.5 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 10.5 ล้านบาท หากไม่จ่ายจะฆ่าให้ตาย โดยนัดหมาย ไปรับเงินที่ประเทศเนปาล ซึ่งพ่อแม่ของเหยื่อก็รีบติดต่อมายังอาจารย์ที่เอแบค นำมาสู่การประสานงานกับตำรวจสภ.บางบ่อ นำมาสู่การวางแผนติดตามช่วยเหลือเหยื่อและจับกุมกลุ่มคนร้าย