งัดมาตรการเด็ดไม่สวมหมวกโดน”ยึดรถ”ห้ามไปต่อ

งัดมาตรการเด็ดไม่สวมหมวกโดน”ยึดรถ”ห้ามไปต่อ

บช.น.เอาจริงดีเดย์จับไม่สวมหมวกกันน็อค งัดมาตรการเด็ดไม่สวมหมวกโดน”ยึดรถ”ห้ามไปต่อ จนกว่าจะหาหมวกมาใส่ ย้ำคนซ้อนไม่ใส่คนขับโดนปรับ2เท่าจาก500เพิ่มเป็น1,000บาท จุดประกายเดินหน้ามาตรการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย100เปอร์เซนต์

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2557 ที่บริเวณแยกรัชโยธิน พล.ต.ต.อดุลย์  ณรงค์ศักดิ์  รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.)ดูแลงานจราจร

พล.ต.ต.นิพนธ์  เจริญผล รองผบช.น. ผู้ช่วยงานจราจร และพล.ต.ต.อภิสิทธิ์  เมืองเกษม ผู้บังคับการตำรวจจราจร(ผบก.จร.) กวดขันวินัยจราจรสวมใส่หมวกนิรภัยขณะขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยายนต์ โดยร่วมกับบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัย จากรถ จำกัด นำหมวกรองในหมวกกันน็อคมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมจำหน่ายหมวกกันน็อคในราคาใบละ 99 บาท เพื่อรณรงค์การสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซนต์ ในทศวรรษแห่งความปลอดภัยบนท้องถนนพ.ศ.2554 -2563


พล.ต.ต.อดุลย์  กล่าวว่า ตามนโยบายของพล.ต.อ.สมยศ  พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)

ที่ต้องการลดปัญหาอุบัติเหตุในพื้นที่กรุงเทพมหานครและสร้างวินัยการจราจรแก่ประชาชน โดยจะมีการปฏิบัติกรรในมาตรารเชิงรุกโดยเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตลอดปี 2558 จะมีการเข้มงวดและจับกุมผู้ที่ขับขี่จักรยานยนต์และผู้ซ้อนที่ไม่สวมหมวกกันน็อคซึ่งตนได้สั่งการไปยัง 88 สน.ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯให้กวดขันบริเวณทางแยกทางร่วมในพื้นที่ของตนเอง และจะต้องรายงานผลการจับกุมเข้ามายังศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร(บก.02) เพื่อที่จะได้นำผลการจับกุมของแต่วันมาวิเคราะห์และสรุปว่าหลังจากดำเนินการไปแล้วผลการจับกุมลดลงหรือไม่ซึ่งบช.น.มีเป้าหมายว่า หากรณรงค์และบังคับใช้กฎหมายไปแล้วประชาชนจะต้อง สวมหมวกกันน็อค 100 เปอร์เซ็นต์หากพบว่าสน.ใดละเลยการปฏิบัติหน้าที่จะมีการลงโทษทางวินัยกันต่อไป
 
ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าพื้นที่กรุงเทพชั้นนอกซึ่งอยู่ในความดูแลของกองบังคับการตำรวจนครบาล(บก.น.) 2  3  9 8

ประชาชนส่วนใหญ่จะไม่สวมหมวกกันน็อคดังนั้นตนจึงได้สั่งการให้เข้ม งวด  อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนไม่สวมหมวกกันน็อคจะถือว่ามีความผิดตามพรบ.จราจรทางบก 2522 ซึ่งกำหนดไว้ว่าผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะต้องสวมหมวกนิรภัยเพื่อป้องกันอันตรายหากฝ่าฝืนมีโทษปรับ 500 บาท และหากผู้ขับขี่มีความยินยอมไม่ให้ผู้ซ้อนท้ายสวมหมวกจะมีโทษปรับเป็น 2 เท่าหรือ 1,000 บาท นอกจากนี้ผบ.ตร.ยังได้กำชับมาตรการยึดรถมอเตอร์ไซต์ไว้ก่อน โดยหากถูกจับและออกใบสั่งให้แต่ยังไม่อนุญาตให้นำรถออกไปขับต่อ ซึ่งผู้ที่ถูกจับจะต้องไปซื้อหมวกกันน็อคมาใส่ก่อนจึงจะสามารถเดินทางต่อไป เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่องและให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดพล.ต.ต.อดุลย์  กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีจักรยานยนต์รับจ้างทางบช.น.ในระยะแรกได้ร่วมมือกับทางบริษัทเอกชนเพื่อแจกหมวกรองในหมวกกันน็อค ไว้บริการประชาชนที่ใช้บริการโดยก่อนจะสวมหมวกกันน็อคสามารถใช้ได้ทันทีเพื่อเป็นการรักษาความสะอาดด้วย

ซึ่งขณะนี้ทางเอกชนได้มีการนำไปวางไว้ในวินรถจักรยานยนต์รับจ้างทั่ว พื้นที่กรุงเทพ

แต่ในระยะยาวจะต้องมีการขายหมวกรองในเนื่องจากอาจจะมีจำนวนไม่เพียงพอต่อการแจกจ่ายแก่ประชาชนซึ่งก็จะต้องมีการประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องในขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ตนอยากขอความร่วมมือกับประชาชนที่ใช้รถจักรยายนต์ให้สวมใส่หมวกกันน็อคเพื่อเป็นการลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต ซึ่งที่ผ่านมาสาเหตุของการตานส่วนใหญ่สืบเนื่องมากจากการที่ประชาชน ไม่สวมหมวกกันน็อค.


งัดมาตรการเด็ดไม่สวมหมวกโดน”ยึดรถ”ห้ามไปต่อ


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์