แม่ชาวตรังคลอดแฝดสยามส่งมอ.หาดใหญ่ผ่าตัดแยก

"คลอดแฝดสยามตัวติดกัน"



โรงพยาบาลตรังทำคลอดเด็กแฝดสยามเพศหญิง ช่วงอกติดกันรายแรกของจังหวัด ประสาน มอ.หาดใหญ่ ช่วยผ่าตัดแยก พ่อเผยอัลตราซาวนด์รู้แค่ได้ลูกแฝดลักษณะกอดกัน ไม่คาดว่าจะเป็นแฝดสยาม ฝากความหวังทีมแพทย์ ภาวนาให้ลูกปลอดภัย

ทารกแฝดสยามรายแรกของ จ.ตรัง รายนี้

เปิดเผยเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 22 พฤษภาคม น.พ.สมนึก เชื้อทอง ผอ.รพ.ตรัง กล่าวว่า น.พ.โอภาส ปทะวานิช แพทย์สูตินรีเวช ได้ผ่าตัดทำคลอด นางปฐมพร ปานดี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 หมู่ 7 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง

พบทารกเพศหญิงแฝด แต่ช่วงอกมาถึงสะดือ

ความยาวประมาณ 10 ซม.ติดกัน ลักษณะเช่นเดียวกับแฝดสยาม ทีมแพทย์จึงใส่ท่อช่วยหายใจ และรีบนำส่งต่อ รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.หาดใหญ่) เพื่อช่วยชีวิตต่อไป

ประวัติการตั้งครรภ์ของมารดา

เคยแท้งในการตั้งครรภ์ครั้งแรก เมื่อตั้งครรภ์ครั้งใหม่ก็มาฝากท้องกับ น.พ.โอภาส ผู้ทำคลอด และอัลตราซาวนด์พบว่า เป็นเด็กแฝดเพศหญิง แต่ไม่ทราบว่าร่างกายติดกัน กระทั่งคลอดออกมา ถือเป็นเด็กแฝดสยามรายแรกที่พบใน จ.ตรัง

"เรื่องการผ่าตัดแยกร่างเด็กแฝดในประเทศไทย

เคยทำมาแล้วหลายราย โดยเฉพาะรายล่าสุดเด็กทั้งคู่ปลอดภัยดี ในส่วนของเด็กแฝดรายนี้ได้ส่งต่อที่ รพ.มอ.หาดใหญ่ เพื่อเช็คร่างกายอย่างละเอียดว่า มีอวัยวะส่วนใดติดกันบ้าง และจะสามารถผ่าตัดแยกร่างได้หรือไม่ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทีมแพทย์ มอ." ผอ.รพ.ตรัง กล่าว



นายชนินธรรม สั้นเต้ง อายุ 30 ปี

พ่อของคู่แฝดหญิงรายนี้ ซึ่งเดินทางไปพร้อมกับรถพยาบาลเพื่อส่งลูกให้อยู่ในความดูแลของแพทย์ มอ. กล่าวว่า รู้ว่าจะได้ลูกแฝดตั้งแต่การตรวจด้วยอัลตราซาวนด์ครั้งแรก กระทั่งมาอัลตราซาวนด์ครั้งที่ 3 แพทย์สูตินรีเวชแจ้งว่า ทารกเป็นเพศหญิงทั้งคู่ อยู่ในท้อง ลักษณะคล้ายๆ กำลังกอดกัน

แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีร่างกายติดกัน

กระทั่งวันคลอด ทีมแพทย์ได้ผ่าตัดเด็กออกมา ทันทีที่เห็นลูก ทั้งรู้สึกทั้งดีใจและตกใจที่เป็นเช่นนี้เพราะไม่คาดคิดมาก่อน หลังคลอดแพทย์ต้องให้ออกซิเจนและดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากดูเหมือนว่าการหายใจของเด็กจะติดขัดในบางช่วง แต่โดยภาพรวมก็แข็งแรงเหมือนเด็กปกติทั่วไป

"ยังไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าควรจะทำอย่างไร

ได้แต่ฝากความหวังไว้กับทีมแพทย์ทั้ง รพ.ตรัง และ รพ.มอ.หาดใหญ่ ว่าน่าจะหาหนทางช่วยเหลือลูกสาวทั้งคู่ได้ อาจจะผ่าตัดแยกร่างออกมา หรือคงไว้ในลักษณะตัวติดกันต่อไป ซึ่งต้องแล้วแต่วินิจฉัยของแพทย์ ตอนนี้ได้แต่ให้กำลังใจภรรยาและตัวเองไม่ให้คิดมาก พร้อมทั้งเฝ้าภาวนาให้ลูกทั้งสองปลอดภัย" นายชนินธรรม กล่าว



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์