นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม แถลงผลเร่งรัดปราบปรามยาเสพติดในเรือนจำด้วยการตรวจค้นจู่โจมสกั้นกั้นการนำเข้าสิ่งของต้องห้ามจากภายนอกห้วง 6 เดือน (9 มิ.ย.- 9 ธ.ค.) พบสิ่งของต้องห้ามหลายประเภท ทั้งโทรศัพท์มือถือ ซิมการ์ด ยาเสพติด และอุปกรณ์ดัดแปลง เช่น โทรศัพท์มือถือพบ 6,703 เครื่อง ส่วนใหญ่กว่า 4,000 เครื่องตรวจพบก่อนนำเข้าเรือนจำ ซิมการ์ด 1,280 อัน ยาบ้า 24,767 เม็ด ยาไอซ์ 2,839 กรัม กัญชา 6 กรัม ทั้งนี้ในส่วนการเอาผิดทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดเฉพาะคดียาเสพติดมี19 ราย โดยไล่ออกจากราชการแล้ว 8 รายตั้งกรรมการสอบสวนและมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน 10 รายและตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง 1 ราย
ในส่วนของเรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี ที่เป็นเรือนจำความมั่นคงสูง พบการลักลอบนำเข้าโทรศัพท์มือถือมีราคาสูงเริ่มต้นที่หลักล้านบาทสูงถึง 2.5 ล้านบาท ซึ่งราคาดังกล่าวเป็นเพียงโทรศัพท์มือถือรุ่นธรรมดาที่ภายนอกซื้อขายกันราคาถูก เป็นโทรศัพท์ที่ใช้เฉพาะโทรเข้า-ออก ผู้ต้องขังที่สั่งซื้อโทรศัพท์จะไม่สามารถใช้เครื่องได้ทันทีต้องให้เครือข่ายภายนอกโอนเงินค่าเครื่องก่อนจึงจะได้รหัสปลดล็อคใช้เครื่องป้องกันผู้ต้องขังอื่นใช้เครื่อง โดยผู้ที่เป็นตัวการสั่งค้ายาเสพติดจะไม่ถือโทรศัพท์เอง แต่จะมีเครือข่ายถือให้ การใช้โทรศัพท์ในเรือนจำกลางเขาบินมีความแตกต่างจากเรือนจำอื่นคือมีหูฟังโทรศัพท์หรือสมอลล์ทอล์ค ที่ยาวที่สุดในโลกตั้งแต่ 180-200 เมตร โดยผู้ต้องขังเหล่านี้จะใช้วิธีลากสายไปยังผู้ที่ต้องการใช้ ส่วนตัวเครื่องจะอยู่ที่คนๆ เดียว ราคาค่าโทรศัพท์แต่ละครั้งคิด 10 นาที 20,000 บาท หรือ นาทีละ 2,000 บาท
เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางเขาบินระบุด้วยว่าก่อนหน้านี้มีความพยายามในการลักลอบนำเข้าโทรศัพท์มือถือที่เป็นระบบดาวเทียมเข้ามาในเรือนจำจำนวน6 เครื่องตรวจค้นก่อนถูกนำเข้าได้ 4 เครื่อง โดยผู้ต้องขังหวังหลีกเลี่ยงเครื่องตัดสัญญาณ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถใช้งานได้
นอกจากนี้ยังพบวิธีการย้ายที่นอนเพื่อให้ไปอยู่ในจุดที่มีสัญญาณโทรศัพท์เนื่องจากจะมีบางจุดที่เครื่องตัดสัญญาณไม่ครอบคลุม ที่นอนในจุดนี้จึงมีราคาซื้อขายแพงถึง 100,000บาท ส่วนในเรือนจำกลางระยองระยะหลังพบว่านิยมใช้วิธีจ้างกลืนยาเสพติดเข้าไปในเรือนจำ สูงสุดที่พบคือการกลืนยาไอซ์ที่ห่อไว้ในถุงยางอนามันน้ำหนักประมาณ 4-5กรัม เรือนจำต้องใช้วิธีนำเครื่องบอดี้ สแกนมาช่วยตรวจสอบเพื่อสกัดกั้นไม่ให้ยาเสพติดเข้าไปในเรือนจำได้