รองอธิการฯ คลิปฉาว เบ่งใส่ด่านตร รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

รองอธิการฯ คลิปฉาว เบ่งใส่ด่านตร รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

รองอธิการฯ ในคลิปฉาว เบ่งใส่ด่านตร. เข้าพบผกก.สภ.เมือง สกลฯ แล้ว ขอโทษ-รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

เป็นคลิปที่โพสต์โดยเพจYoulike อ้างว่าเป็นคลิปที่มาจากนายตำรวจคนหนึ่งในจังหวัดสกลนครที่กำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่ มีการตั้งด่านเป่าแอลกอร์ฮอล์ มีชายที่อ้างว่าเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัด ขับผ่านด่านตรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ ก็ไม่ยอมเเสดงบัตร พร้อมกับอ้างว่าเป็นคนที่มีคนรู้จักกว้างขวาง รวมถึงเคยเป็น กรรมการตำรวจจังหวัดสกลนคร มา 2 สมัย แล้ว นอกจากนี้ยังได้ใช้คำพูดเสียดสีและดูถูกการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังปฏฺบัติหน้าที่อย่างเห็นได้ชัด

ทั้งนี้จากในคลิปชายคนดังกล่าวพยายามโทรศัพท์พูดคุยกับผู้อื่นก่อนจะส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดคุย 

โดยเจ้าหน้าตำรวจยืนยันว่าตนเองปฏิบัติหน้าที่อย่างสุภาพแต่ถูกชายคนดังกล่าวแสดงกิริยาไม่เหมาะสมใส่ พร้อมกับกล่าวท้าทายเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไปศึกษาและตรวจสอบดูว่าตนเป็นใครโดยคลิปดังกล่าวมีความยาวกว่า6นาทีโดยในท้ายที่สุดตำรวจได้ปล่อยชายคนดังกล่าวไป

ขณะที่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจำนวนมากต่างเข้าไปแสดงความไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมที่ไม่สุภาพต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่ปรากฏในคลิป

พล.ต.ต.พลศักดิ์  บรรจงศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสกลนคร ว่า เพิ่งจะทราบเรื่องดังกล่าวในบ่ายวันนี้เช่นกันและหลังจากดูคลิปก็ได้เห็นการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติแต่ก็เกือบกระทบกระทั่งกันสุดท้ายได้ปล่อยตัวช่ายคนดังกล่าวไปในเรื่องนี้ในโซเซี่ยลต่างก็วิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของชายในคลิป ซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นรองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดสกลนคร จากนี้ จะเรียกผู้ปฏิบัติงานในคืนวันที่  7 ธันวาคม 2557  มาสอบถามข้อเท็จจริงกับเหตุการณ์ก่อนที่จะมีการบันทึกคลิปวีดีโอเกิดขึ้น เพราะเรื่องนี้ตนก็ไม่ได้รับรายงานเช่นกัน
 
คาดว่าคงเป็นความอึดอัดใจของเจ้าหน้าที่ ที่ได้แชร์กันไปให้เพื่อนตำรวจได้ดู สุดท้ายได้ไปเผยแพร่ในที่สาธารณะ

 ในส่วนตนไม่ขอออกความคิดเห็น ในเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงานไปตามกฏหมายก็ต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากถูกต้องก็ไม่มีอะไร ส่วนการที่จะบอกระบุชายในคลิปเมาหรือไม่เมานั้นไม่สามารถระบุได้เพราะไม่มีหลักฐาน จากการตรวจวัดแอลกอฮอล์ เพราะไม่ยอมลงจากรถและให้ความร่วมมือ แต่สิ่งที่จะดำเนินการได้ คือ ให้เอาหลักฐานดังกล่าวให้ จนท.ตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร ออกหมายเรียกตัวชายผู้ที่อยู่ในคลิปมาดำเนินคดีฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานเท่านั้น ในส่วนของความถูกต้อง ศีลธรรมในสังคม จะพิจารณาใดๆ ก็ว่ากันไป เพราะ จนท.ได้ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว

ต่อมา เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 11 ธันวาคม  ผศ.ชาคริต  ชาญชิตปรีชา  คณบดีคณะวิทยาการจัดการ และรองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนักศึกษา  มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร 


 ได้เข้าพบกับ พ.ต.อ.ฐากูรสมบัติ  สวงโท  ผกก.สภ.เมืองสกลนคร  เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้น ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและสำนึกผิด  โดยกล่าวว่า ตนเป็นผู้อยู่ในคลิป  เรื่องที่เกิดขึ้นในคลิปที่ปรากฏนั้น เป็นการเข้าใจผิดกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตนไม่ขอพูดอะไรมาก ขอยอมรับผิดทั้งหมด และต้องขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ขอโทษประชาชนทั่วประเทศ  ที่ได้รับชมคลิป  รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น  โดย ผศ.ชาคริต ได้ยกมือไหว้ขอโทษ  ผกก.สภ.เมืองสกลนคร  พร้อมทั้งฝากไปขอโทษ ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุด้วย  ซึ่ง พ.ต.อ.ฐากูรสมบัติ  สวงโท  ผกก.สภ.เมืองสกลนคร  ก็รับคำขอโทษ และกล่าวว่า  การขอโทษก็เป็นสิ่งที่ดี  แต่เรื่องคดีนั้น  มีข้อหาอะไร  ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย เพราะ ผศ.ชาคริต  ได้รับสารภาพทุกข้อกล่าวหาโดยมีสีหน้าที่ดีขึ้นหลังจากได้รับการชี้แจงขั้นตอนการปฎิบัติงาน และพบสื่อมวลชน


รองอธิการฯ คลิปฉาว เบ่งใส่ด่านตร รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

ก่อนหน้านี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสต์ถึงกรณีดังกล่าว ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I′m No.5 ว่า

ใหญ่แค่ไหน?

รองอธิการบดี ม.ราชภัฏสกลนคร ขับรถกลับจากงานเลี้ยงด้วยสภาพมึนเมา แล้วเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ระหว่างทาง ตำรวจเรียกให้หยุดไม่ยอมหยุด ขับรถฝ่าด่านจนตำรวจต้องสกัดขวางเอาไว้ โดยมีสารวัตรฯท่านหนึ่งเดินเข้าไปเจรจา

รองอธิการฯไม่ยอมเป่า แถมอวดเบ่งว่าตัวเองยิ่งใหญ่ ตำรวจแค่ยศพันตำรวจโทอย่าได้มาแหยม ให้มันรู้เสียบ้างว่าใครเป็นใคร

นายตำรวจท่านนี้อายุเพียง 33 ปี ถือเป็นตำรวจน้ำดีตัวอย่าง ที่แม้ว่าจะเจอคำขู่สารพัด แต่ก็ใช้ความพยายามระงับอารมณ์ และทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ

ผมขอชื่นชมและให้กำลังใจ จงภูมิใจที่ท่านได้ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะให้กำลังใจและให้ความคุ้มครองนายตำรวจน้ำดีท่านนี้ 

เพราะถือเป็นผู้ปฏิบัติตามคำมั่นของ ผบ.ตร. อย่างเคร่งครัดที่ว่า "ใหญ่แค่ไหนก็จะจับ"

ส่วนรองอธิการบดีผู้ยิ่งหญ่ สมควรโดนลงโทษทั้งทางวินัยและทางสังคม หากทางมหาวิทยาลัยยังปล่อยเอาไว้ รังแต่จะทำให้สถาบันเสื่อมเสีย

เป็นถึงอาจารย์ แต่ทำตัวเป็นอันธพาล แบบนี้อย่าเที่ยวไปสอนลูกใครเขาเลย






เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์