9 ธ.ค. 57 นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น
เปิดเผยว่า ทางซีพี ออลล์ ได้มีการขอร้องกระทรวงพาณิชย์ให้มีการเพิ่มสินค้าที่จะจำหน่ายผ่านร้านค้าเซเว่น อีเลฟเว่น ให้มากขึ้น ให้มีปริมาณเพียงพอ เพราะทางเซเว่น อีเลฟเว่น มีความเป็นห่วงเรื่องสินค้าที่จะนำมาจำหน่ายในช่วง 7 วันในโครงการลดราคาสินค้า เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ระหว่างวันที่ 24-30 ธ.ค. 2557 จะไม่เพียงพอต่อผู้บริโภค เนื่องจากสินค้าทางกระทรวงพาณิชย์และผู้ผลิตจัดสรร ให้ทางเซเว่น อีเลฟเว่น นำมาจำหน่ายในโครงการมีน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับสาขาของเซเว่น อีเลฟเว่นที่มีกว่า 8,000 สาขาทั่วประเทศ โดยเฉพาะสินค้าใน 6 รายการ อาทิ ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมันพืช ไข่ไก่ เป็นต้น
“ปัจจุบันเฉลี่ย เซเว่นฯ มีลูกค้าต่อวันประมาณ 1,200 คนต่อสาขา ซึ่งของที่ทางกระทรวงพาณิชย์จัดสรรให้มาขายในนั้น เฉลี่ยแล้วน้อยไป เมื่อเทียบต่อจำนวนลูกค้า เช่น ข้าวสารขนาดถุง 5 กก. สามารถจำหน่ายได้เพียง 1 ถุงต่อวันต่อสาขา น้ำมันพืชจำหน่ายได้ 15 ขวดต่อวันต่อสาขา เป็นต้น ซึ่งทางทางซีพี ออลล์ ค่อนข้างเป็นห่วงว่าสินค้าลดราคาจะกระจายไปไม่ทั่วประชาชน แต่ทั้งนี้ในส่วนของสินค้าราคาปกติก็ยังคงมีอยู่”
ทั้งนี้ทางกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ ได้รับฟังความกังวลจากทางซีพี ออลล์ แล้ว
และให้คำตอบว่าอาจสามารถเพิ่มปริมาณสินค้าให้ทางเซเว่น อีเลฟเว่น ไปจำหน่ายในช่วงลดราคา ได้อีกประมาณ 20-30% แต่ก็คิดว่ายังไม่น่าจะเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน อย่างไรก็ตามทางเซเว่น อีเลฟเว่น ยังได้มีการเจรจาเพิ่มสินค้าเข้าไปในโครงการลดราคาเพิ่มเติม เช่น สบู่ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
“อยากขอความร่วมมือผู้บริโภค อย่าได้มีการกักตุนสินค้าในช่วงนั้น เพราะร้านเซเว่นฯ เป็นร้านที่สะดวกที่สุด ไม่อยากให้ประชาชนผิดหวังเมื่อเข้ามาซื้อสินค้า ส่วนร้านค้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงก็อยากขอร้องว่าให้ช่วยกันขายสินค้า อย่าซื้อสินค้าช่วงลดราคาไปกักตุน เพราะจะทำให้สินค้าไม่เพียงพอต่อผู้บริโภคคนอื่นๆ”
สำหรับการบริโภคของประชาชนในขณะนี้ทางเซเว่น อีเลฟเว่น ยังคงมียอดขายเป็นปกติ เพราะด้วยความที่จำหน่ายสินคาอาหารเป็นหลัก ส่วนในปีหน้าก็มองว่าแนวโน้มน่าจะดีกว่าปีนี้ เพราะเชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีที่ตกต่ำที่สุดแล้วของเศรษฐกิจและการบริโภค
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
