หนุ่มใหญ่ตายแล้วฟื้น! หลังหยุดหายใจ 5 ชม. แพทย์ให้นำมาทำพิธีศพ ถึงบ้านกลับคืนชีพ-เมียดีใจจนช็อก
วันที่ 3 ธ.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด จ.นครพนม ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่เตรียมจัดงานศพใน อ.ศรีสงคราม ว่า
มีคนตายแล้วฟื้นคืนชีพ จนชาวบ้านละแวกใกล้เคียงจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ อย่างกว้างขวางว่าเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ ขอให้มาตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 6 บ้านภูกระแต หมู่ 13 ต.นาคำ เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ติดพื้น พบญาติพี่น้อง ผู้เฒ่าผู้แก่ และเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงกว่า 30 คน นั่งล้อมวงคุยกันดีอกดีใจ พร้อมแสดงความยินดีกับญาติที่ตายแล้วฟื้นอย่างปาฏิหาริย์
ขณะที่ข้างบ้านได้มีการกางเต็นท์ 3 หลัง เตรียมหลอดไฟ พัดลมไว้เพื่อจัดงานศพ พร้อมเตรียมแคร่ไม้ไผ่ สั่งน้ำแข็งเครื่องดื่ม น้ำอัดลม สุรา ทำข้าวปลาอาหารไว้เลี้ยงแขกที่มาช่วยงาน
โดยภายในห้องกลางบ้านพบร่างนายกันหา จันใด อายุ 56 ปี อาชีพทำนาและสวนยาง นอนหลับตาหายใจ มีผ้าห่มคลุมร่าง ลูกหลานคอยบีบนวดเท้าและขาคลายเส้น สอบถามเพื่อนบ้านและผู้มาร่วมงาน ระบุว่าเป็นคนตายแล้วฟื้น สอบถามคุณยายมี หอมหวน วัย 64 ปี กล่าวว่า นายกันหา ผู้ที่ตายแล้วฟื้น เป็นลูกเขย ก่อนหน้านี้มีอาการปวดศีรษะ นางนงศรี จันใด อายุ 50 ปี ภรรยาเห็นสามีปวดศีรษะอย่างรุนแรง จึงนำตัวส่งรักษาที่ ร.พ.ศรีสงคราม เมื่อกลางดึกของวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา แพทย์ระบุขาดเครื่องมือและไม่มียารักษา จึงนำตัวส่งต่อไปรักษาที่ ร.พ.นครพนม ในเวลาเที่ยงคืนของวันเดียวกัน
คุณยายวัย 64 ปี ระบุว่า แพทย์ที่ ร.พ.นครพนม นำตัวนายกันหาลูกเขย เข้าห้องไอซียู ก่อนจะหยุดหายใจในเวลา 13.00 -17.00 น. นาน 5 ชั่วโมง ของวันที่ 2 ธ.ค.
แพทย์จึงให้นำร่างนายกันหาที่หยุดหายใจแล้ว กลับไปบำเพ็ญกุศลประเพณีที่บ้านเกิด ญาติพี่น้องจึงนำร่างใส่รถ อปพร. นำส่งถึงภูมิลำเนาในเวลาต่อมา ขณะหามลงรถมีเสื่อปูร่าง นายกันหากลับฟื้นคืนชีพอย่างน่าปาฏิหาริย์ สร้างความตื่นเต้นดีอกดีใจให้กับญาติพี่น้อง
นางกิตตินันท์ กิติรัตนไพศาล อายุ 31 ปี บุตรสาวนายกันหา กล่าวด้วยความดีใจว่า บิดาป่วยและมีประวัติผ่าตัดสมองเมื่อปี 2533-2536
แพทย์ระบุเส้นเลือดอุดตันเหตุจากการดื่มสุรา หลังเลิกดื่มมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ก่อนกลับมาดื่มสุรา 3-4 ปีหลังมานี้ โดยบิดาบ่นปวดศีรษะ ก่อนพาไปหาหมอที่ จ.สกลนคร แพทย์ระบุไม่เป็นอะไร กระทั่งกลางดึกวันที่ 1 ธ.ค. ส่งตัวต่อรักษาที่ ร.พ.นครพนม แพทย์เจ้าของไข้ ระบุเลือดออกกลางก้านสมอง ระบบภายในไม่รับรู้
บุตรสาวนายกันหา กล่าวต่อว่า บิดาหยุดหายใจนาน 5 ชั่วโมง ชีพจรก็หยุดเต้น แพทย์ให้ญาติเซ็นใบยินยอมให้ถอดเครื่องออกซิเจน จึงยอมถอด แต่มารดาไม่ยินยอมให้ฉีดฟอร์มาลีนเด็ดขาด ขณะนำร่างที่หยุดหายใจเดินทางมาถึง อ.ท่าอุเทน จึงบอกญาติให้เตรียมรอรับศพได้แล้ว กระทั่งรถกระบะจอดหน้าบ้าน เพื่อนบ้านหามร่างลงจากรถ
“น้องชายและบุตรชายนายกันหา คือ นายอาทิตย์ จันใด อายุ 31 ปี เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ เพื่อร่วมงานไว้อาลัยผู้บังเกิดเกล้า ร้องห่มร้องไห้กอดร่างเรียกบิดา นายกันหากลับมีลมหายใจ ฟื้นคืนชีพอย่างน่าอัศจรรย์ ท่ามกลางความแปลกใจ และตกตะลึงของเพื่อนบ้านจำนวนมาก ส่วนมารดาหลังดีใจและตื่นเต้นหลังสามีฟื้นคืนชีพ จนช็อกหมดสติ ต้องหามส่ง ร.พ.นครพนม อาจจะเป็นด้วยความอ่อนเพลียก็เป็นได้” บุตรสาววัย 31 ปีระบุ
ขณะที่นายอาทิตย์ กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า ขณะนั่งรถถึง จ.นครราชสีมา พี่สาวโทรศัพท์บอกว่าบิดาได้เสียชีวิตไปแล้ว
กระทั่งรถมาถึง จ.สกลนคร กลับโทรศัพท์บอกว่าพ่อฟื้นคืนชีพ รุ่งเช้าจึงนำหมอมาวัดความดัน ชีพจรเต้นปกติ ดีใจจนน้ำตาไหลคลอเบ้า แต่บิดายังไม่สามารถลืมตาและรับรู้อะไร อาจเป็นเพียงยื้อเวลาให้ วันข้างหน้าไม่รู้อาการบิดาจะเป็นอย่างไร แต่ก็ทำใจแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เพื่อนบ้านที่แห่มาร่วมงานศพจำนวนมากต่างก็ดีใจแทนเจ้าภาพ จึงทำข้าวปลาอาหาร เป็นส้มตำ หมูทอด แกงหน่อไม้ส้ม พร้อมนำสุราขาวที่เตรียมไว้ มาเลี้ยงฉลองแทน ขณะที่ญาติได้นำเงินจำนวนกว่า 1 หมื่นบาท ที่รวบรวมเก็บค่าทำศพในหมู่บ้านรายละ 50-100 บาท ส่งคืนให้ชาวบ้านทุกรายแล้ว