หนุ่มขี่บิ๊กไบค์ร้องทุกข์ หลังทำเงินสด 64,000 บาท ปลิวหายบนถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง วอนผู้ที่เก็บได้ช่วยส่งคืน ตร.ชี้ผู้ใดเก็บของผู้อื่นได้แต่ไม่ส่งคืนมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์
ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์”รายงานว่า นายสุประวีณ์ ถาวรรุ่งกิจได้ขอความช่วยเหลือผ่านทางเดลินิวส์ออนไลน์กรณีทำเงินจำนวน 64,000บาท ปลิวหล่นบนถนนเชียงใหม่-ลำปางขณะขับขี่รถจักยานยนต์โดยมีผู้ใช้ถนนรายอื่นเก็บไปโดยไม่ส่งคืนว่า
“เมื่อวันที่18 พ.ย.เวลาประมาณ 21.00น.ได้ขับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์(Big Bike) คาวาซากิรุ่น ZX636 สีเขียวคาดกระเป๋าไนกี้สีเขียวออกจากสี่แยกรินคำ มุ่งหน้า….. บนถนนสายเชียงใหม่-ลำปางขับด้วยความเร็วพอประมาณ โดยสะพายกระเป๋าข้างภายในที่มีเงินสด 64,000 บาทเป็นแบงค์พันทั้งหมดและบังเอิญลืมรูดซิบกระเป๋าช่วงที่กำลังขับลงอุโมงค์ข่วงสิงห์เกิดเอะใจว่าเงินในกระเป๋าหายไป จึงจับกระเป๋าพร้อมล้วงมือลงในกระเป๋าพบว่าเงินไม่มีแล้วคาดว่าเงินทั้งหมดน่าจะปลิวตกลงกับพื้นถนน
จึงวนรถกลับไปดูซึ่งขณะที่ขับขี่อยู่ถนนฝั่งตรงข้ามสัมเกตุเห็นคนจำนวนหนึ่งซึ่งมีทั้งขับขี่รถจักรยานยนต์และรถยนต์ประมาณ4-5คัน จอดรถอยู่บนถนนและกำลังก้มเก็บสิ่งของบางอย่าง แต่พอกลับรถมาถึงจุดเกิดเหตุปรากฎว่ากลุ่มคนดังกล่าวหายไปหมดแล้วพบแต่ชายวัยกลางคนที่กำลังมองหาอะไรบางอย่างจึงเข้าไปสอบถามว่าเห็นเงินหล่นแถวนี้บ้างไหมลุงตอบกลับมาว่า เห็นคนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์เก็บเงินไปหมดแล้วลุงมาไม่ทันเขา
ตอนนี้ผมทุกข์ใจมากเพราะเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตเบื้องต้นได้เดินทางแจ้งความที่สภ.ช้างเผือกแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำเพียงลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้นแล้วให้ผมไปหากล้องวงจรปิดเอาเองแต่จากการลงพื้นที่เดินทางหาในบริเวณนั้นและสอบถามตำรวจที่อยู่ป้อมใกล้ๆ สอบถามกรมทางหลวงเทศบาลเชือกเผือกได้รับคำตอบว่า ในจุดนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด อยากขอร้องผู้ที่เก็บเงินได้ช่วยกรุณาส่งคืนด้วยครับตอนนี้มีผู้แจ้งเบาะแสมาบ้างแล้วครับโดยวันนี้จะเดินทางไปแจ้งความที่สภ.ช้างเผือกอีกครั้ง เพื่อยืนยันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมาย”
พ.ต.อ.วันชัย อยู่แสงรองผู้บังคับการตำรวจจราจรบก.จร.ชี้แจงถึงกรณีนี้ว่าผู้ที่เก็บทรัพย์ของผู้อื่นได้เป็นการเก็บต่อหน้าทราบว่าเจ้าของเป็นใครแต่ไม่ส่งคืนถือว่ามีความผิดตามมาตรา336 ผู้ใดลักทรัพย์โดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้าผู้นั้นกระทำความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน5 ปี ปรับไม่เกิน10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับหากในกรณีเก็บทรัพย์ได้โดยไม่ทราบว่าเป็นของผู้ใดแต่ไม่ส่งคืนเจ้าพนักงานถือว่ากระทำความผิดมาตรา352
ผู้ใดครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่นหรือซึ่งผู้อื่น เป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยเบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริตผู้นั้นกระทำความผิดฐานยักยอกต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3 ปี หรือปรับไม่เกิน6,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา355ผู้ใดเก็บได้ซึ่งสังหาริมทรัพย์อันมีค่าอันซ่อนหรือฝังไว้โดยพฤติการณ์ซึ่งไม่มีผู้ใดอ้างว่าเป็นเจ้าของได้แล้วเบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน1 ปี หรือปรับไม่เกิน2,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
