ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ตก กลางทุ่งนา บ้านดอกบัว หมู่ 11 ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา
ทำให้ทหารเสียชีวิต 9 คน วันที่ 20 พฤศจิกายน มีการจัดวางกำลังพลทหารจาก 3 หน่วยหลักของค่ายขุนเจืองธรรมิกราชมาทำหน้าที่เฝ้าเวรยามรักษาการณ์และลาดตระเวนทั่วพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุ โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่คืนละ 16 นาย สับเปลี่ยนกันทุก 2 ชั่วโมง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยในช่วงเช้าอากาศทั่วบริเวณหนาวเย็น มีหมอกลง เจ้าหน้าที่ทหารต้องก่อไฟผิงให้คลายหนาว ส่วนบริเวณพื้นที่ที่มีซากเฮลิคอปเตอร์อยู่นั้น เจ้าหน้าที่ได้นำผ้าใบมาทำการปกคลุมทุกจุด ล้อมรั้วลวดหนามชั้นใน ใช้เชือกพลาสติกขาวแดงกั้นตลอดบริเวณรัศมี 300 เมตร
พร้อมปิดป้าย เขตห้ามเข้าป้องกันไม่ให้ไทยมุงหรือผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ จนกว่าจะมีการดำเนินการเก็บกู้ซากเฮลิคอปเตอร์เสร็จสิ้น
เจ้าหน้าที่ทหารนายหนึ่งที่เข้าเวรบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเปิดเผยว่า กลางดึกประมาณ 03.00 น.คืนที่ผ่านมา ยินเสียงเหมือนเฮลิคอปเตอร์บินมาเหนือหัว ไม่นานก็หายไป ยังรู้สึกได้กลิ่นธูปโชยทุกคืน ทำให้เจ้าหน้าที่รู้สึกตื่นตกใจและคิดไปต่าง ๆ นาๆ
ขณะที่ทหารที่ทำหน้าที่ขับรถบรรทุก 6 ล้อใหญ่ ที่นำโลงศพบรรจุร่างของนายทหารกล้าคันที่ 3 กล่าวว่า ระหว่างทางที่ขับรถไปที่พิษณุโลก วันที่ 18 พฤศจิกายน 2 นำศพนายทหารกล้าไปพิษณุโลก ถึงโค้งงาว อ.งาว จ.ลำปาง ฝาโลงขยับและเปิดเล็กน้อยจึงได้ชะลอในช่วงโค้งงาว