ชาวเน็ตชี้แจง กรณีคลิป จนท. การบินไทย เตะกระเป๋าผู้โดยสาร ชี้เป็นสัมภาระของผู้ลักลอบขนของน้ำหนักเกินขึ้นเครื่อง พร้อมแฉกลโกงสารพัดรูปแบบ!
สืบเนื่องจากกรณีคลิป เจ้าหน้าที่การบินไทย เตะกระเป๋าผู้โดยสาร ที่มีชาวเน็ตนำมาโพสต์เผยเบื้องหลังการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการขนย้ายลำเลียงกระเป๋า ที่เห็นชัด ๆ เลยว่า มีเจ้าหน้าที่เอากระเป๋าปล่อยทิ้งลงตามขั้นบันได แถมบางใบยังเตะลงมาอีกด้วย โดยเหตุ
เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน TG313 สนามบินสุวรรณภูมิ จนสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าการทำงานเช่นนี้เป็นสาเหตุให้สัมภาระของผู้โดยสารเสียหาย ทั้งที่ทางสายการบินควรจะมีการลำเลียงขนส่งสัมภาระของผู้โดยสารผ่านทางสายพานนั้น
ล่าสุดวานนี้ (19 พฤศจิกายน 2557)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีชาวเน็ตรายหนึ่งใช้ชื่อว่า "สมาชิกหมายเลข 1222867" ได้อาสาเป็นตัวแทนจากกลุ่มคนทำงานด้านสายการบิน ออกมาชี้แจงถึงกรณีคลิปดังกล่าวที่เกิดขึ้น ผ่านทางหัวข้อ "ชี้แจง ** โยนกระเป๋า ** จากใจคน
แอร์ไลน์" ระบุว่าที่แท้จริงแล้วสัมภาระที่ถูกโยนในคลิป ไม่ใช่สัมภาระหรือกระเป๋าของผู้โดยสารทั่วไป หากแต่เป็นสัมภาระของกลุ่มผู้โดยสารที่ลักลอบขนสินค้าขึ้นเครื่องเกินอัตราน้ำหนักที่กำหนดไว้ ซึ่งแต่ละใบนั้นมีน้ำหนักมากราว 40 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่ไม่สามารถยกไหว
พร้อมทั้งอธิบายแฉกลโกงของผู้โดยสารกลุ่มนี้ไว้ด้วย โดยมีเนื้อหาดังนี้
"จริง ๆ ไม่ได้อยากตั้งกระทู้แตกออกมาหรอกครับ ขอบคุณเพื่อน ๆ ใน Pantip หลาย ๆ คนที่ "เข้าใจ" อยากให้คนไทย หยุด ฟัง คิด สักนิด กับสิ่งที่เกิดขึ้นในคลิปนี้ ยอมรับได้ ยอมรับไม่ได้ เป็นเรื่องส่วนบุคคลล้วน ๆ จขกท. มิอาจห้ามได้ เราไม่ได้แก้ตัว แต่ ...
ขอโอกาสให้คนที่ทำงานตรงนี้ เป็นตัวแทนของสายการบิน, น้อง ๆ โหลด, บุคลากร ทางการบิน ทุก ๆ คนครับ
ตอนนี้ใน You like จะมีคนเข้าใจผิด ว่าทำไมโยน "กระเป๋า" แบบนั้นกันมากมาย
ลูกตุ้ม 40 โล ของพี่แขก (ที่ลักลอบขนเข้ามา) โกงสารพัด เล่นทุกรูปแบบ พอเราเผลอ เอากระเป๋าไปฝากอีกคน เดินเวียนไปมา มีถึงขนาดที่ ในแขกคน ๆ นึง ใส่เสื้อทับไว้ข้างใน 4 ตัว เสื้อกันหนาว 2 ตัว กางเกงไปใส่อีก 2 ตัว มีเอาเสื้อมาพันคอ ... คือพยายาม โกง
น้ำหนักให้ไม่ถึงเกณฑ์ทุก ๆ อย่าง
มันเป็นเรื่องสุดวิสัย
** ย้ำนะครับว่า นี่มันคือข้างเครื่องบิน "ข้างเครื่อง" จะไปหาสายพานมาจากไหนครับ ?
ในเมื่อเหตุที่เกิดขึ้น มันมีปัญหาอยู่ไฟลท์เดียวที่ผู้โดยสารจะลักลอบนำของพวกนี้เข้ามาถึง Gate
ท่าอากาศยานทั่วโลกเขาไม่มีนโยบายยึดของผู้โดยสารที่หอบพะรุงพะรังเข้ามา เพราะสายการบินมีกฎไม่เหมือนกัน การท่าจะมาออกกฎซี้ซั้วไม่ได้ ต้องคอยรายงาน ต่อสภาท่าอากาศยานโลกด้วยซ้ำ จะขยับตัวทำอะไร
ข้างเครื่องบิน จะเอาสไลด์ เอาสายพานที่ไหนมาครับ มันก็มีทางเดียวคือลงทางบันได ซึ่งมันผิดวิสัย "การทำงานโดยปกติของคน" ที่จะมายก แต่จำเป็นต้องยก เพราะคนแหกกฎ ก็กล้าที่จะนำมา เค้าทำไว้ให้ "คนเดิน" ครับ ไม่ใช้ทำไว้ให้ รอรับกระเป๋าพวกลักลอบลง
กระเป๋าผู้โดยสารปกติ เค้าลงมาจากทางนี้ครับ แล้วจึงนำไปใส่ตู้ ปิด และ ลากไปข้างเครื่อง (รูปจาก TBT อาคารลำเลียงกระเป๋าต่อ อาคารใหม่ที่พึ่งเปิดใช้งานครับ)
แล้วจึงนำมาใส่ตู้ ULD นี้ เมื่อตู้กระเป๋าเต็ม จึงปิด แล้วนำส่งไปยังข้างเครื่องบิน เพื่อนำขึ้น Position
ใต้ห้องโดยสารบนเครื่องบินครับ
เพิ่มเติ่มนะครับ **
จริง ๆ เรื่องนี้ผู้โดยสารคนอื่น ๆ ไม่ได้รับความเดือดร้อนแม้แต่น้อยเลยครับ เพราะกระเป๋าปกติ ก็ลงตามสายพานอยู่แล้ว เป็นเรื่องระหว่าง เจ้าหน้าที่สายการบิน กับพ่อค้าแขก พ่อค้าแขกเหล่านี้มีแต่หน้าเดิม ๆ ครับ บางคนรับจ้างขน จะบินเข้าไทยเช้า และออกกลางคืน
ภายใน 1 วันเลย
พ่อค้าพวกนี้ ถือทั้งบัตรทอง บัตรเงิน ของสายการบินด้วยซ้ำ เค้าบินบ่อยจน เจ้าหน้าที่ทุกคนจำกันได้เป็นอย่างดี จะมีการบอกหน้าเคาน์เตอร์อยู่แล้วตอนเช็กอิน ให้น้ำหนักได้เท่านี้ ๆ นะ ที่เหลือถ้าไปเจอที่ Gate จะโดนปรับ ถ้าไม่จ่าย เอาของไปไม่ได้นะ
แต่ก็อย่างว่า บางคนหวังชุบมือเปิบ รอทีเผลอ โกงสารพัด มีการเอากระดาษแข็ง ไปยัดไว้ใต้ตราชั่ง ก่อนเคาน์เตอร์เช็กอินเปิด ให้ระบบคำนวณผิด ทำเป็นขบวนการ
มีการมามุงดูหน้าเคาน์เตอร์ ส่งเสียงดัง แล้วนำของจากกระเป๋าที่ผ่านไปแล้ว ยักยอกออกไปใส่ ใบนู้น ใบนี้ทีให้สับสน พอเข้าไปด้านใน ก็จะไปซื้อเหล้าจาก ดิวตี้ฟรี (จำกัดให้แค่2ขวด) พี่ของก็เล่นกัน 3-4 ขวด ไม่นับรวมกระเป๋า Carry on board อีก 1
-2 ใบ เหล้า 2 ขวด รวมไปถึงเสื้อผ้าที่พี่แขกซื้อไปขาย บางคนน้ำหนักเกิน ก็จะใส่เสื้อมา 4 ตัวไว้ด้านใน ทับด้วยเสื้อกันหนาว 2 ตัว เอาเสื้ออีก 2 ตัวมาพันคอ กางเกงใส่อีก 2 ตัว เดินตัวหนา ๆ เข้าเครื่องไป และจะมาถึง Gate ช้า ๆ เพื่อให้ จนท. สายการบินยอม ตายใจ
ไม่อยากออฟโหลด ปล่อยเข้าไปเถอะ
จิตใจในการรักงานบริการ มันมีกันทุกคนล่ะครับ เป็นผู้น้อย บางอย่างหยวนได้ก็หยวน ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง แต่ต้องคำนึงถึง น้ำหนักของเครื่องบิน ทำงานแข่งกับเวลา มีคลิปบ้า ๆ ออกมาบิดเบือนอีก ทำใจเวรกรรม
นี่คือ "ลูกตุ้ม" เจ้าปัญหาคับ มีเล็กใหญ่ 20-40 โล หลากหลายสี สีดำ ๆ ดูในคลิป ที่คิดว่ากระเป๋ากัน
เป็นเฉพาะ เส้นทางยอดนิยมของ "พ่อค้าแขก" ครับ บ้านเราคือ 1 ในนั้น ประเด็นที่จัดการไม่ได้คือผู้โดยสารไม่ได้เอากระเป๋า (ที่น้ำหนักเกิน) มาโชว์หน้าเคาน์เตอร์ครับ คุณจะไม่มีทางรู้ได้ว่าผู้โดยสารมีกระเป๋าที่ไม่ได้เอามาโชว์อีกหรือไม่ จนเจอกันที่
Boarding Gate นี่ล่ะครับ
ไม่ได้เป็นเฉพาะเครื่องของ "การบินไทย" ครับ คาเธ่ย์ แปซิฟิค สายการบินแห่งชาติ "ฮ่องกง" จีน ๆ แบบนี้แหละ เส้นทาง กรุงเทพ-โคลอมโบ มาทั้งโทรทัศน์ 20-30 เครื่อง, ลูกตุ้มอีกเป็น 100
จะให้การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ลงทุนทำสายพานใน Gate เพื่อรองรับคนทำผิดกฎ **สาบานว่านี่คือความคิดของคนไทย** ที่เป็นเมืองพุทธเหรอครับเนี่ย ด้วยความเคารพ เรื่องนี้ผู้โดยสาร หรือคนทั่วไป ไม่ผิดครับ แต่ที่ออกมาด่ากันเพราะเป็น "การบิน
ไทย" เป็นสายการบินแห่งชาติ เลยต้องด่ามันเยอะ ๆ คนไทยนี่แปลกอย่างนึง ..... ชอบถือตัวและทะนงตัวเองมาก ๆ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายคือผู้ให้บริการที่เป็น "คนไทย" เหมือนกัน
ขอบคุณ Pantip นะครับที่มีพื้นที่ให้คนสายการบินได้ยืน ได้ชี้แจง น้อมรับทุกความเห็น"
ขณะที่ชาวเน็ตอีกหลายรายก็ได้ออกมาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ พร้อมกันนี้ยังมีอีกหลายรายที่มาแสดงความคิดเห็น เล่าประสบการณ์ที่พบเจอมาในทำนองเดียวกัน ดังเช่นสมาชิกหมายเลข 1272765 ที่เล่าว่า "เจอลูกค้าแขกทำใจอย่างเดียว โกงได้พี่โกงเละเทะครับ
เป็นมาสิบยี่สิบปีแล้ว ไอ้ลูกเล่นนี้น่ะ ขนาดสายการบินจากอินเดียเองก็ส่ายหน้าครับ ตั้งจุดค้นชั่งน้ำหนักหน้า Gate ยังต้านทานไม่ไหวก็มี แล้วเป็นเครื่อง Floor Load ด้วย เจอพวกนี้ทีแทบกระอักเลือดสำหรับเด็กโหลด
เรื่องอื่น ๆ ก็ตามที่ จขกท. ว่ามานั่นแหละ ส่วนใครสงสัยว่าทำไม...ไม่ส่งแบบ Cargo ขั้นตอนมันเยอะพอสมควรในการจัดการ และยุ่งยากกว่าและเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นสำหรับผู้โดยสารพวกนี้ สุดท้ายใครที่สงสัยว่าโยนกระเป๋าทำไม...ในกรณีนี้ ลอง
มายกดูครับ ลูกละ 40 กิโล ยกสักสามสี่ลูกก็พอ ไม่ต้องถึงสิบยี่สิบลูกหรอก แล้วจะรู้ว่าอาการที่เกิดขึ้นหลังจากยกจะเป็นยังไง ยกจาก Gate ลงมา แล้วยังต้องยกไปสายพานตรง Bulk อีกแล้วเอาเข้าไปจัดเรียงในที่แคบ ๆ มันไม่สบายตัวหรอกครับ ยิ่งเป็นเครื่อง
Floor Load ด้วยแล้ว เหนื่อยกว่าเดิมเยอะ พวกเด็กโหลดเกือบทุกคนรวมถึงหัวหน้าทีมขึ้นไปที่ทำมาพอสมควรต้องรู้จักกระสอบเขียว เจอได้ประจำในไฟลท์อินเดียหรือแถวตะวันออกกลาง ไม่ธรรมดาครับของพวกนี้"
เช่นเดียวกับที่คุณ มอมแมม 787 ได้ออกมาแฉกลโกงอีกรูปแบบหนึ่งของผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าว โดยระบุว่า "เมื่อ 30 ปีที่แล้ว...ผมเริ่มเข้ามาเป็นนักบินที่ 3 แทบทุกเที่ยวบินที่จะไปอินเดียนั้น...จะดีเลย์ เนื่องมาจาก ผดส. นกรู้ทั้งหลายจะมาหลังเวลาเครื่องออกพร้อม
กับกระเป๋าคนละหลาย ๆ ใบ...ดูแล้วน่าจะหนักเอาเรื่องด้วย ทางภาคพื้นก็จะหยวน ๆ ให้ผ่านไป เพราะเครื่องเสียเวลามากแล้ว ไม่งั้น ผดส. อีกหลายร้อยคนบนเครื่องก็จะเสียเวลาออกไปอีก และปฏิกริยาลูกโซ่ยังส่งผลต่อเนื่องไปยังเที่ยวบินขากลับให้ดีเลย์ต่ออีกด้วย คนเหล่านี้
จึงถึอเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ขึ้นเครื่อง...พร้อมสัมภาระต่าง ๆ ...
ต่อมา...ทางสายการบินเริ่มไม่ยอมปล่อยผ่าน เพราะนอกจากเครื่องจะดีเลย์แล้ว...เหล่าสัมภาระทั้งหลายยังขึ้นไปเบียดบังพื้นที่บนเครื่องจนเป็นภาระของ ผดส. ท่านอื่น ๆ จึงมีการดักจับกันหน้าเครื่อง และนำไปโหลดใต้ท้องเครื่องบิน บางครั้ง...ถึงกับคิดเงินเพิ่มอีกด้วย
ก็มี... แรก ๆ ผดส. เหล่านี้ไม่ยอม โวยวายและปฏิเสธการเดินทางที่หน้าเครื่องก็มี นั่งกอดสัมภาระร้องไห้ที่เกทก็มี...ฯลฯ วีรกรรมเหล่านี้...จนท. ภาคพื้นสามารถเล่าได้แทบทุกท่านครับ
ปัจจุบัน...เหตุการณ์เช่นนี้ก็ยังเกิดขึ้นอยู่เป็นเนืองนิจ ถึงแม้จะน้อยกว่าแต่ก่อน แต่ก็มีให้ได้ยินอยู่เป็นประจำ
อีกประการที่ได้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ ก็พวก wheelchair ที่ทุกสายการบินมีบริการไปยังเครื่องบิน (และลงจากเครื่องบิน) บริการประเภทนี้เป็นบริการ ฟรี ครับ...และร้องขอได้ตลอดเวลา (กฎหมายบังคับ) และเก้าอี้ล้อหมุนเหล่านี้ จะได้รับสิทธิพิเศษ หลายรายการ
ไม่ต้องเดิน ไม่ต้องคิว ไม่ต้องรอ ได้ขึ้นเครื่องก่อน และ...ไม่ต้องแบกของ...แถมญาติ ๆ ยังสามารถติดสอยห้อยตามไปได้อีกด้วย (หวังว่าคงไม่ได้ชี้ช่องให้ใครนะครับ) 1 wheelchair และ 1 พนักงาน ที่ต้องใช้ในการบริการ 1 ผดส. ผมเคยเจอมากถึง 12 คันใน
ไฟลท์เดียว...
เรื่องนี้มิได้ตั้งใจจะต่อว่าใครนะครับ เพียงแต่อยากเล่าประสบการณ์เล็ก ๆ ให้สังคมได้รับทราบไว้บ้าง ส่วนเรื่องในคลิปนี้...ผมขอไม่ออกความเห็นครับ"
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
