18 พ.ย.57 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้พบกับการจัดพิธีฌาปณกิจศพชาวต่างชาติ
ซึ่งถูกจัดขึ้นในรูปแบบประเพณีแบบไทยพุทธ ด้วยการแห่ไปยังวัดและทำพิธีฌาปณกิจบนเมรุเหมือนคนไทยพุทธทั่วไป โดยชาวต่างชาติ รายนี้ทราบชื่อคือ นายเจอรี่ ซัทคลิฟฟ์ (Mr.Gerard Sutcliffe) อายุ 81 ปี 6 เดือน ชาวออสเตรเลีย แต่เกิดที่ประเทศอังกฤษ นับถือศาสนาคริสต์ ซึ่งได้มาใช้ชีวิตในบั้นปลายกับภรรยาชาวไทย คือ นางจิรกาญจน์ ชื่นยง อายุ 51 ปี รับราชการตำแหน่งเจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี ที่ อบจ.สุรินทร์ อยู่บ้านเลขที่ 525 ม.19 บ.ตราดระบอบพัฒนา ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นเวลาประมาณ 7 ปีกว่า ก่อนที่จะเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวและโรคแทรกซ้อนหลายอย่าง เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 พ.ย.2557 ที่ผ่านมา และได้มีพิธีฌาปณกิจศพ เมื่อวานนี้เวลา 14.00 น.ที่เมรุวัดศรีมากทอง ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์
ซึ่งก่อนเสียชีวิตนายเจอรี่ ซัทคลิฟฟ์ ได้เขียนไว้ในพินัยกรรมให้กับนางจิรกาญจน์ ชื่นยง ภรรยาคนไทย ซึ่งได้จัดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมายว่า หากตนเองเสียชีวิตก็ขอให้จัดงานศพในรูปแบบประเพณีของภรรยา ซึ่งเป็นชาวพุทธ หรือพิธีฌาปณกิจศพแบบคนไทยพุทธนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ระหว่างทางที่มีการแห่โลงศพ ไปยังเมรุวัดศรีมากทอง ลูกสาวทั้ง 2 คนของนายเจอรี่ ซัทคลิฟฟ์
คือ Ms. Sabrina Karen Andreazza อายุ 59 ปี และ Ms. Hayleyb Tricia Valladares อายุ 52 ปี ชาวออสเตรเลีย ได้โปรยทานไปตลอดเส้นทาง ก่อนจะพากันถือภาพผู้ตายและเดินแห่โลงศพรอบเมรุ 3 รอบ จนครบรอบสุดท้ายก่อนที่ลูกสาวของนายเจอรี่ฯ คือ Ms. Hayleyb Tricia Valladares อายุ 52 ปี ที่แบกขันบนหัวเพื่อโปรยทานนั้นได้วางขันลงและวิ่งหันหลังให้กับเมรุอย่างรวดเร็วทันที ซึ่งเป็นประเพณีที่ชาวไทยพุทธในพื้นที่ จ.สุรินทร์กระทำต่อกันมา โดยเชื่อว่า เมื่อลูกหลานวิ่งหันหลังให้ศพและเมรุ หลังจากแห่รอบเมรุแล้ว จะทำให้คนตายหมดห่วงและไม่ต้องเป็นห่วงลูกหลาน
จากนั้น จึงได้ประกอบพิธีถวายผ้าบังสุกุลแด่พระสงฆ์ ก่อนที่ญาติฝ่ายภรรยา เพื่อนบ้านและลูกสาว ของนายเจอรี่ ซัทคลิฟฟ์ ทั้ง 2 คน
และเพื่อนชาวต่างชาติ จะวางดอกไม้จันท์ พร้อมให้เข้าดูศพครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะประชุมเพลิงฌาปณกิจศพตามประเพณีตามลำดับ จากนั้นลูกสาวทั้ง 2 คนของนายเจอรี่ ซัทคลิฟฟ์ และภรรยาคนไทย ก็ได้โปรยทานให้กับผู้ที่มาร่วมงานได้วิ่งแย่งกันที่หน้าเมรุอย่างชุลมุนอีกด้ว
นางจิรกาญจน์ ชื่นยง ภรรยานายเจอรี่ กล่าวว่า
นายเจอรี่เป็นคนที่มีอารมณ์ร่าเริง สุภาพอ่อนโยน มีเมตตา เป็นที่ประทับใจแก่ผู้คนใกล้ชิดและเป็นที่รักของญาติสนิทมิตรสหาย และที่สำคัญเขาชอบเมืองไทย ชอบประเพณีวัฒนธรรมไทย รวมถึงอาหารไทย เช่น ต้มยำ ข้าวผัด และราดหน้าเป็นต้น จึงขอใช้ชีวิตในบั้นปลายที่เมืองไทยกับตนเอง จนกระทั่งก่อนเสียชีวิตก็ได้สั่งเสียให้จัดงานศพแบบไทยพุทธดังกล่าว ซึ่งเดิมนายเจอรี่ฯเคยรับราชการทหารที่ประเทศอังกฤษเป็นเวลา
ฝรั่งจิงโจ้หัวใจไทย ญาติจัดงานศพแบบพุทธตามพินัยกรรม
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ฝรั่งจิงโจ้หัวใจไทย ญาติจัดงานศพแบบพุทธตามพินัยกรรม