เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่านายศวร เภรีวงษ์ หรือ “เสือมเหศวร” อดีตจอมโจรชื่อดังระดับตำนานของเมืองไทย
ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยโรคชรา รวมอายุ 101 ปี ซึ่งลูกๆ และญาติได้ตั้งศพเพื่อสวดอภิธรรมที่บ้านเลขที่ 204 หมู่ 5 ต.ไพรนกยูง อ.หันคา จ.ชัยนาท หลังจากที่มีพิธีรดน้ำศพไปเมื่อช่วงเย็นวันที่ 15พฤศจิกายนที่ผ่านมา
นายสันติสุข เภรีย์วงษ์ อายุ 49 ปี ลูกชายคนสุดท้องของนายศวร
ซึ่งปัจจุบันเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) ไพรนกยูง กล่าวว่า เสือมเหศวร มีอาการเป็นลมเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ลูกๆจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลหันคา แต่ด้วยอายุที่มากและมีโรคประจำตัวทั้งโรคหัวใจโต โรคไต ทำให้แพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ โดยเสือมเหศวร เสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อเวลา 06.15 น. ด้วยอายุ 101 ปี ซึ่งลูกๆกำหนดสวดอภิธรรมศพ 7 วัน คือ ระหว่างวันที่ 15-21 พฤศจิกายน และจะทำการฌาปนกิจที่เมรุวัดไพรนกยูง วันที่ 22 พฤศจิกายน นี้ เวลา16.00น. โดยในวันฌาปนกิจจะนำวัตถุมงคลจากการปลุกเสกของ “เสือมเหศวร” แจกให้แก่ผู้มาร่วมงานด้วย และวันที่ 16 พฤศจิกายน “เสือดำ” หรือหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินธโร เจ้าอาวาสวัดศรีนวลธรรมวิมล เขตหนองแขม กทม. เพื่อนร่วมอุดมการณ์ของ “เสือมเหศวร” ในอดีตจะเดินทางมาร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมศพด้วย
นายสันติสุข กล่าวอีกว่า เสือมเหศวร มีลูกทั้งหมด 8 คน เป็นผู้ชาย 5 คน และเป็นผู้หญิง 3 คน
โดยพี่ชายเสียชีวิตไปแล้ว 2 คน ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เสือมเหศวร พักอาศัยอยู่กับตนที่บ้านใน อ.หันคา โดยเสือมเหศวร เป็นคนที่มีอัธยาศัยดีอ่อนน้อมถ่อมตัว รักเพื่อนพ้อง และมักเป็นผู้เสียสละให้ผู้อื่นอยู่เสมอจนเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนบ้าน และยังชอบทำบุญทั้งการบูรณะวัด สร้างอาคารเรียน และช่วยบุคคลผู้ยากไร้ทั่วไป โดยเสือมเหศวรสอนให้ลูกทุกคนยึดมั่นในความดี ไม่รังแกหรือเบียดเบียนผู้อื่น สำหรับฉายาเสือมเหศวรที่ได้มานั้นลูกๆทุกคนเข้าใจดีว่าพ่อถูกบีบคั้นและกดดันจากเจ้าหน้าที่รัฐกังฉิน ทำให้พ่อต้องลุกขึ้นต่อสู้กับความอยุติธรรม
สำหรับ “เสือมเหศวร” มีชื่อจริงว่า ศวร เภรีย์วงษ์ ในอดีตเป็นจอมโจรชื่อดังในแถบภาคกลางหลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 2
ร่วมสมัยกับ เสือดำ , เสือหวัด , เสือฝ้าย และเสือใบ โดยเสือมเหศวรเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ที่ถูกอำนาจรัฐรังแกและถูกใส่ความว่าฆ่าพ่อตัวเอง จึงจับปืนขึ้นต่อสู้และกลายมาเป็นจอมโจรชื่อดังในที่สุด โดยได้ชื่อว่า “มเหศวร” จากการแขวนพระเครื่องมเหศวรไว้ที่คอ ซึ่งได้ชื่อว่าช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย และเมื่อเวลาออกปล้นจะปล้นด้วยความโหดเหี้ยมจนได้รับฉายาว่า “จอมโจรมเหศวร” เคยโดนตำรวจยิงที่ลำตัวและศีรษะหลายนัด แต่ไม่เข้า
อย่างไรก็ตาม “เสือมเหศวร” ถูกปราบโดยขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งขุนพันธ์ฯ เป็นผู้เกลี้ยกล่อมให้เสือมเหศวรมอบตัว
หลังจากได้รับโทษในเรือนจำแล้ว เสือมเหศวรก็ได้บวชเป็นพระและบวชเป็นพราหมณ์มาจนถึงปัจจุบัน อาศัยอยู่ที่บ้านใน ต.ไพรนกยูง อ.หันคา แม้ขณะเสียชีวิตมีอายุกว่า 100 แล้ว แต่เสือมเหศวรก็ยังมีสุขภาพที่แข็งแรงและความทรงจำยังดีอยู่ และเป็นที่เล่าลือว่าเป็นบุคคลจอมขมังเวทย์ มีชาวบ้านและผู้ที่เชื่อถือแวะเวียนมาพบปะพูดคุยเสมอๆ โดยเมื่อเดือนเมษายน 2550 เป็นผู้ทำพิธีปลุกเสกจตุคามรามเทพรุ่นเซ็นเสือมเหศวรของวัดแสวงหา จ.อ่างทอง
เรื่องราวของเสือมเหศวร เคยถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว 2 ครั้ง และถูกนำไปดัดแปลงเป็นตัวละครในภาพยนตร์เรื่อง “ฟ้าทะลายโจร” โดย “เสือมเหศวร” จะปล้นคนรวยเพื่อนำมาช่วยเหลือคนยากจนอยู่ตลอดทำให้ได้รับฉายาว่า “โรบินฮู้ดเมืองไทย” อีกชื่อหนึ่งด้วย