โปลิศโวยวัยรุ่นมโนโซเชียลสร้างข่าวลวง

ผกก.สน.สำราญราษฎร์ โวยลั่นหลังเจอวัยรุ่นแสบทำป่วนนำแบบฟอร์มสำรวจข้อมูลประชาชนในโครงการ "ตำรวจKnock Door" สร้างข่าวลวงโลกโซเชียลฯ สับขาหลอกกล่าวหา"ตำรวจจริง..เป็นโจร"

จากกรณีกระแสข่าวเตือนภัยสังคมทางโลกออนไลน์ที่ระบุว่า "ให้ระวังมิฉาชีพในคราบตำรวจกำลังออกอาละวาด
 
ทำทีเอาเอกสารแบบฟอร์มให้ชาวบ้านกรอกเพื่อสำรวจสมาชิกภายในบ้านว่ามีจำนวนกี่คน และต้องการให้ตำรวจทำงานอย่างไร" ทั้งยังอ้างว่าเป็นโครงกา ของสถานีตำรวจนครบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ บก.น.6 จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้าง ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้น ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ผู้สื่อข่าว "เดลินิวส์ออนไลน์" ได้รับการเปิดเผยจากพ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.สำราญราษฏร์ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง ขอยืนยันว่าไม่มีโจรในคราบตำรวจแต่อย่างใด แบบฟอร์มที่พบเห็นในอินเตอร์เน็นนั้น เป็นของตำรวจสน.สำราญราษฎ์จริง ตามโครงการตรวจเยี่ยมประชาชน Knock Door สังกัด บก.น 6 มีจุดประสงค์เพื่อสอบถามสารทุกข์สุขดิบว่าชุมชนแต่ละแห่งเป็นอย่างไร ประชาชนมีปัญหาอะไรหรือไม่

อาทิ มีตำรวจมาเก็บเงิน มีเทศกิจมาเก็บเงิน แสงไฟมืด มีรถมาจอดข้างถนนในวันห้ามจอด เพื่อนำปัญหาทั้งหมดมาร่วมกันแก้ไขในการประชุมทุก ๆ 15 วัน กรณีนี้ตำรวจเป็นคนลงพื้นที่สำรวจเอง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง ไม่คลาดเคลื่อนว่าในท้องที่มีลูกบ้านกี่คน ต้องการอะไรบ้าง หากเวลาเกิดเหตุขึ้นมา เจ้าหน้าที่จะได้มีข้อมูลอย่างครบถ้วน เช่น หากน้ำท่วมเราจะรู้ทันทีว่าต้องใช้เรือกี่ลำ

ผกก.สน.สำราญราษฏร์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันข้อมูลดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่มีอยู่พอสมควร ถือว่าทันสมัย
 
และละเอียดครบถ้วนมากกว่าทะเบียนราษฎ์ เนื่องจากทางเขตมีจำนวนเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอต่อการสำรวจ อีกทั้งเวลาสอบถามประชาชนมักไม่ให้ข้อมูลที่เป็นจริง เนื่องจากเกรงว่าตัวเองจะเสียผลประโยชน์โดยการดำเนินการนี้ ครอบคุลมพื้นที่ บก.น.6 ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ทั้งสายตรวจ สายสืบ หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ออกเวรแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกนายจะมีบัตรคล้องคอ สามารถตรวจสอบได้ และทุกครั้งจะต้องถ่ายภาพส่งกลับมาที่ สน.ต้นสังกัด เพื่อยืนยันว่าได้ออกสำรวจจริง ป้องกันการสร้างข้อมูลเท็จ

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ถูกนำเอาเอกสารไปอ้างว่าเป็นโจรในคราบตำรวจทางอินเตอร์เน็น ทั้งยังระบุว่า เป็นการออกหาข่าวว่ามีสมาชิกกี่คนในบ้าน

เพื่อจะพาพวกมาก่อเหตุร้าย มีที่มาที่ไปอย่างไร และมีแนวทางแก้ไขอย่างไรบ้าง พ.ต.อ.สมชาย กล่าวว่า เรื่องนี้ทราบมาระยะหนึ่งแล้ว ปัญหาก็คือมีเด็กวัยรุ่นในพื้นที่ที่ชอบมั่วสุมดื่มสุรากันในบ้าน พอเห็นตำรวจมาก็เกิดความรำคาญ ถ่ายรูปเอาแบบฟอร์มเอาไปสร้างข่าวลือให้คนเข้าใจกันคลาดเคลื่อนในอินเตอร์เน็ต ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงขอให้เลิกแชร์เรื่องดังกล่าว และกลับมาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดีกว่า ในส่วนที่จะแก้ไขอย่างไรนั้น ขณะนี้ได้แจ้งให้ทางผู้ใหญ่ในชุมชน และทำป้ายติดสติ๊กเกอร์ติดประชาสัมพันธ์ให้ทราบทั่วกันแล้วว่าเป็นตำรวจจริง หากเข้าไปในพื้นที่ ก็ต้องแสดงบัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจตามระเบียบอยู่แล้ว.