เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์ส่งเสริมความเสมอภาค และที่ปรึกษาศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีประกาศของแผนกห้องยา โรงพยาบาลราชวิถี ที่สั่งห้ามสตรีในแผนกท้อง แม้ล่าสุด นพ.อุดม เชาวรินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถีจะสั่งให้ยกเลิกดังกล่าวแล้วว่า เป็นการกระทำที่ขัดต่อนโยบายรัฐบาลในการยุติความรุนแรง สร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือ ละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งที่โรงพยาบาลราชวิถีเป็นโรงพยาบาลชั้นนำในระบบบริการที่เป็นมิตรต่อสตรีตั้งครรภ์ แต่บุคลากรภายในกลับถูกเลือกปฏิบัติและละเมิดสิทธิ
"ผู้ที่ออกประกาศคำสั่งเป็นถึงหัวหน้างานที่ควรจะมีดุลพินิจ ความรับผิดชอบด้านสิทธิมนุษยชนต่อสตรีและสถาบันครอบครัว ทั้งนี้ แม้ว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้สั่งระงับประกาศดังกล่าวแล้ว แต่ควรจะมีการพิจารณาโทษวินัยต่อการกระทำดังกล่าวเพื่อเรียกศรัทธาสตรี สถาบันครอบครัว และไม่ให้เกิดการกระทำซ้ำ" น.ส.สุเพ็ญศรีกล่าว
น.ส.สุเพ็ญศรีกล่าวว่า พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 43 กำหนดห้ามมิให้นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงเพราะเหตุมีครรภ์
แต่เชื่อว่าในทางปฏิบัติยังคงมีสถานประกอบการขนาดเล็กที่อาจจะเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตาม ไม่เหมือนสถานประกอบการขนาดใหญ่ที่มีสหภาพแรงงานคอยดูแล นอกจากนี้เชื่อว่าการกำหนดคุณสมบัติการจ้างงานในสถานประกอบการบางแห่งนอกจากกำหนดเพศ อายุที่รับแล้ว ยังมีการระบุด้วยว่าต้องไม่เป็นหญิงที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ เท่าที่ทราบแม้แต่ในสถาบันการศึกษาก็เคยมีการจ้างลูกจ้างโครงการโดยกำหนดว่าต้องไม่เป็นหญิงที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ ไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นสตรี
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
