นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า
จากการที่ได้รับการร้องเรียนการใช้บริการรถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะจากประชาชนเป็นจำนวนมาก กรมได้เริ่มใช้มาตรการพักใช้ เพิกถอนใบอนุญาตขับรถสาธารณะที่กระทำผิดซ้ำซาก ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งช่วง 6 เดือนแรก (เมษายน-ตุลาคม2557) ของการใช้มาตรการ พบการกระทำผิด 56 ราย เป็นบริการรถแท็กซี่ 37 ราย เป็นรถตู้ 18 ราย ได้พักใบอนุญาตและเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ จำนวน 1 ราย
นายธีระพงษ์กล่าวว่า โดยแบ่งฐานความผิดออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มความผิดทั่วไป เช่น ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร กิริยาวาจาไม่สุภาพ
ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร และไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ตกลงกัน ซึ่งการกระทำผิดครั้งแรกจะถูกปรับไม่เกิน 1,000 บาท ครั้งที่ 2 ปรับ 1,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตขับรถ 7 วัน ครั้งที่ 3 ปรับ 1,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตขับรถ 15 วัน หากกระทำผิดข้อหาเดียวกันเป็นครั้งที่ 3 ในช่วงระยะเวลา 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่กระทำความผิดครั้งแรก จะทำการปรับ 1,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที สำหรับกลุ่มความผิดร้ายแรง ได้แก่ ผู้ขับรถยนต์สาธารณะหรือรถจักรยานยนต์สาธารณะเสพหรือเมาสุรา หรือเสพยาเสพติดให้โทษ และเสพวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท รวมทั้งขับรถในขณะหย่อนความสามารถหรือกระทำความผิดทางอาญา หากพบการกระทำผิดมีโทษตั้งแต่พักใช้จนถึงยกเลิกเพิกถอนใบอนุญาตทันที
นายธีระพงษ์กล่าวว่า สำหรับปีงบประมาณ 2557 (เดือนตุลาคม 2556-กันยายน 2557)
กรมได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่ใช้บริการรถแท็กซี่ผ่านศูนย์ 1584 จำนวน 34,319 ราย ความผิดส่วนใหญ่ ได้แก่ การปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร 12,504 ราย แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ 4,735 ราย ขับรถประมาทน่าหวาดเสียว 4,048 ราย ไม่ส่งผู้โดยสารตามที่ตกลง 3,412 ราย และไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร 2,432 ราย ซึ่งความผิดทั้งหมดดังกล่าวมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งได้เรียกตัวผู้กระทำผิดมาสอบสวนข้อเท็จจริงและปรับแล้ว 31,819 ราย คิดเป็น 92.72% ที่เหลืออยู่ระหว่างเรียกตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริง
นายธีระพงษ์กล่าวว่า ส่วนการร้องเรียนรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก มีจำนวน 15,151 ราย
ความผิดส่วนใหญ่คือขับรถประมาทหวาดเสียว 5,236 ราย ไม่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสารที่ป้ายรถประจำทาง 2,399 ราย แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ 2,196 ราย ให้ผู้โดยสารลงก่อนถึงจุดหมาย 745 ราย และเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด 574 ราย กรมได้เรียกตัวผู้กระทำผิดมาสอบสวนข้อเท็จจริงและปรับแล้ว 11,852 ราย หรือคิดเป็น 78.23% ที่เหลืออยู่ระหว่างเรียกตัวมาสอบสวน ซึ่งกรมจะใช้ข้อมูลดังกล่าวพิจารณาในการต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่งด้วย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
